“ปลัดยุติธรรม” ย้ำไม่หนักใจทำงานร่วม รมว.คนใหม่

“กิตติพงษ์” ยันไม่มีความหนักใจกับงานภายในกระทรวงที่ได้รับมอบหมายจาก “พีระพันธุ์” ย้ำรู้สึกดีที่เป้าหมายการทำงานของเจ้ากระทรวงคนใหม่สอดคล้องกับงานที่กระทรวงยุติธรรมพยายามผลักดันมาตลอด

วันนี้ (26 ธ.ค.) นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (25 ธ.ค.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรมได้ประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม โดยเน้นย้ำให้ตนและข้าราชการในกระทรวงปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมาเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังต้องการให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ทำหน้าที่หลักในการอำนวยความยุติธรรม คุ้มครองดูแลสิทธิของประชาชน และให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย เป็นสำนักงานงานคณะกรรมการกฤษฎีกาภาคประชาชน เหมือนกับที่รัฐบาลมีสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คอยให้ความเห็นและคำปรึกษาเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่างๆ

นายกิตติพงษ์ กล่าวต่อไปว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยังไม่ได้มอบนโยบายอย่างเป็นทางการกับผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากต้องรอให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ธ.ค.นี้ก่อน ระหว่างนี้จึงมอบหมายให้ตนรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารงานและภารกิจของหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวงยุติธรรมไว้

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ให้หลักการว่ากระทรวงยุติธรรมจะต้องเป็นหน่วยงานหลักของบ้านเมือง ไม่เข้าข้างฝ่ายใด และยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ ตนจึงไม่มีความหนักใจแต่รู้สึกดีมากกว่าที่เป้าหมายของ รมว.ยุติธรรม ตรงกับสิ่งที่ตนและข้าราชการในกระทรวงยุติธรรมพยายามผลักดันและต้องการให้เป็นอยู่แล้ว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเคยทำงานเป็นผอ.กองวิชาการ สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการของกระทรวงยุติธรรม เมื่อ พ.ศ.2535 ก่อนที่ศาลจะแยกตัวออกมาจากกระทรวงยุติธรรม และถือเป็นหน่วยงานหลักที่สำคัญของกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น อีกทั้งยังเคยเป็นที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เมื่อ พ.ศ.2538

“ท่านต้องการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น เครือข่ายภาคประชาชนสามารถรวมตัวกันให้ความเห็นเสนอแนะเกี่ยวกับข้อกฎหมายต่างๆ ที่จะออกมา เพื่อเป็นประโยชน์ของประชาชนเอง ซึ่งสอดคล้องกับที่กระทรวงยุติธรรมกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือ สมาชิกครือข่ายยุติธรรมชุมชน ที่มีอยู่แล้วทุกจังหวัด เป็นการเสริมสร้างความยุติธรรมและความสงบสุขให้เกิดขึ้นแก่ชุมชน ซึ่งจะได้รวบรวมข้อมูลเสนอให้ รมว.ยุติธรรม พิจารณาและดำเนินการให้เหมาะสมต่อไป” ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าว