xs
xsm
sm
md
lg

รอลงอาญาโทษจำคุก 3 มือเผาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ในวันที่ 3 เกลอบุกปีนขึ้นไปเผาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ศาลลงโทษจำคุก 3 ผู้ต้องหา ปีนและเผาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยจำเลยที่ 1-2 คนละ 6 เดือน จำเลยที่ 3 ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานด้วย โดน 12 เดือน แต่ให้รอลงอาญาไว้ และกำชับ ห้ามเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าวอีก พร้อมคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง เป็นระยะเวลา 1 ปี และบำเพ็ญเป็นประโยชน์ต่อสังคม 24 ชั่วโมง ในระยะเวลา 1 ปีเช่นกัน

วันนี้ (24 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 904 ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ อ.4657/2550 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายไชยฤทธิ์ ฌาวิเศษ, นายองอาจ วิจิตรานนท์ และ นายบุญสิน หยกทิพย์ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และขัดคำสั่งเจ้าพนักงานและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน

โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2550 ระบุความผิดว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2550 เวลากลางวัน จำเลยร่วมกันวางเพลิงเผาแท่นสมุดรัฐธรรมนูญจำลอง บนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อันเป็นทรัพย์สินของกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามหมาย โดยใช้น้ำมันสน เทราดลงบนยาง รถจักรยานยนต์ เศษผ้า กระดาษ และวัสดุอื่นๆ ก่อนใช้ไฟแช็กจุดไฟจนเกิดเพลิงลุกไหม้แท่นสมุดรัฐธรรมนูญจำลอง ทำให้แผ่นทอง ซึ่งได้ลงรักปิดทองไว้บนแท่นหลุดร่อนเป็นบริเวณกว้างประมาณ 2 ตารางเมตร ได้รับความเสียหายเป็นเงิน 58,700 บาท และจำเลยที่ 3 ได้ต่อสู้ขัดขวางการจับกุม โดยใช้คีมล็อก ปาใส่ ส.ต.ท.อดิศักดิ์ จันทรา ถูกที่โคนนิ้วกลาง และนิ้วนางข้างขวา เป็นรอยฟกช้ำแดง อันเป็นการใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อมิให้เจ้าพนักงานทำการจับกุม เหตุเกิดที่แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 138, 140, 217, 368

ก่อนอ่านคำพิพากษา ผู้รับมอบอำนาจจากกรุงเทพมหานคร แถลงต่อศาลว่าได้รับการชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 58,700 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากจำเลยที่ 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และไม่ติดใจให้ศาลบังคับคดี และจะขอถอนคำร้องการให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จากนั้นศาลได้อ่านรายงานการสืบเสาะให้จำเลยทั้งสามฟัง โดยรายงานการสืบเสาะประวัติของจำเลยที่ 1 ซึ่งแต่งชุดลักษณะคล้ายพระสีดำ เคยถูกศาลพิพากษาจำคุก 9 ปี ฐานจำหน่ายยาบ้าจำนวน 399 เม็ด และพ้นโทษมาแล้วแต่ปัจจุบันไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 เคยถูกปรับคนละ 200 บาท ฐานร่วมกันกีดขวางการจราจร และใช้เครื่องขยายเสียง ทั้งนี้จำเลยที่ 1 แถลงว่า แม้ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง แต่พร้อมจะมาตามที่ศาลนัดให้ทำประโยชน์เพื่อสังคมทุกครั้ง ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 แถลงยืนยันต่อศาลว่าจะเคลื่อนไหวตามระบอบประชาธิปไตยต่อไป แต่จะไม่กระทำผิดกฎหมายอีก

ศาลจึงมีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดฐานร่วมกันวางเพลิง ลงโทษจำคุกคนละ 1 ปี ปรับ 6 พันบาท จำเลยที่ 2- 3 มีความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานลงโทษปรับ 500 บาท และจำเลยที่ 3 มีความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ลงโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 5,000 บาท จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้งสาม ฐานร่วมกันวางเพลิง ลงโทษจำคุกคนละ 6 เดือน ปรับ 3 พันบาท ปรับจำเลยที่ 2-3 ในความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานลงโทษปรับ 250 บาท และ จำคุกจำเลยที่ 3 ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 2,500 บาท รวมโทษจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 6 เดือน ปรับ 3 พันบาท จำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 6 เดือน ปรับ 3,250 บาท และจำคุกจำเลยที่ 3 เป็นเวลา 12 เดือน ปรับ 5,750 บาท พิเคราะห์ประกอบการสืบเสาะประวัติจำเลยที่ 2- 3 แล้ว ไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน แม้จำเลยที่ 1 จะได้รับโทษจำคุก แต่ได้รับการปล่อยตัวก่อน ประกอบกรุงเทพมหานคร ผู้เสียหาย ไม่ติดใจ โทษจำคุกให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี ให้จำเลยทั้งสาม ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง เป็นระยะเวลา 1 ปี และบำเพ็ญเป็นประโยชน์ต่อสังคม 24 ชั่วโมง ในระยะเวลา 1 ปี

ฝากขัง 3 ผู้ต้องหาเผาอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-ค้านประกัน
ชายฉกรรจ์บุกเผา รธน.เรียกร้องล้มเลิกเลือกตั้ง 23 ธ.ค.
กำลังโหลดความคิดเห็น