สถาปนาครบรอบ 86 ปี กองบัญชาการตำรวจนครบาล “สุชาติ” เตือนตำรวจ ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร มีหน้าที่รักษาไว้ซึ่งกฎหมายและความยุติธรรม พร้อมรับบัญชา “นายกฯ อภิสิทธิ์” ใช้ความนิ่มนวลดูแลม็อบ ยันไม่ใช้แก๊สน้ำตาสลาย นปช. แต่ไม่วายสั่งเร่งคดี พันธมิตรฯ ขณะที่คดียิงเอ็ม 79 ถล่มพันธมิตรฯ ตำรวจยังมึน
วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น., รอง ผบช.น., ผบก., อดีต ผบช.น. ตัวแทน กต.ตร.กทม. คณะกรรมการเยาวชนสัมพันธ์ บช.น. ชมรมแม่บ้านตำรวจนครบาล ร่วมกันวางพานพุ่มพระอนุสาวรีย์พระองค์เจ้ากฤษฎาภินิหาร กรมพระนเรศวรวรฤทธิ์ เสนาบดีพระองค์แรกของกระทรวงนครบาล และอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน เนื่องในวันสถาปนาครบรอบ 86 ปี กองบัญชาการตำรวจนครบาล
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นพิธีวางพานพุ่มว่า อยากฝากถึงตำรวจทุกคนเข้าใจว่า ไม่ว่าจะเป็นวันอะไรของตำรวจ ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ตำรวจมีหน้าที่รักษาไว้ซึ่งกฎหมายและความยุติธรรม
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนการดูแลการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.นั้น เจ้าหน้าที่จะต้องประเมินสถานการณ์ก่อนว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังกำชับให้ดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ให้ใช้ความรุนแรง ให้แก้ไขสถานการณ์ด้วยความนิ่มนวล ซึ่งส่วนนี้คิดว่าตำรวจจะใช้เพียงโล่กำบังผลักดันป้องกันสถานที่หากมีการบุกรุกเข้าไปภายในรัฐสภา และมั่นใจว่าจะไม่มีการใช้แก๊สน้ำตาอย่างแน่นอน
“ส่วนคดีที่เกี่ยวกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตั้งคณะทำงานในการสอบสวน หากพบใครทำผิดมีการดำเนินการตามขั้นตอน ทุกเรื่อง โดยยืนยันดำเนินการทั้งสองฝ่ายเท่าเทียมกันภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ส่วนกรณีที่บางฝ่ายมองว่าตำรวจเลือกปฏิบัตินั้น จริงๆ แล้วตำรวจดำเนินการอย่างเดียวกันหมดใครทำผิดก็ต้องดำเนินการ ตามกฎหมาย ประเทศไทยมีกระบวนการยุติธรรมอยู่แล้ว ตำรวจเป็นเพียงต้นทางของกระบวนการยุติธรรมเท่านั้นและตำรวจไม่มีอำนาจพิจารณาลงโทษได้เอง กระบวนการพิจารณาลงโทษคงต้องเป็นหน้าที่ของศาล แต่เราจะดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรมไม่ให้เกิดความเสียหาย เพราะหากไม่ยุติธรรมตั้งแต่ต้นเมื่อไปถึงกระบวนการศาลจะเกิดความเสียหายได้” พล.ต.ท.สุชาติ กล่าว
ผบช.น.กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีคนร้ายยิงเอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ภายในทำเนียบรัฐบาลนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการสืบสวนต่อไป เพราะก่อนหน้านี้มีเหตุขัดข้องหลายประการ ทั้งการเข้าดูสถานที่ช้า รวมถึงจุดยิงต่างๆ อยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวน ยืนยันไม่มีการทิ้งคดีแม้แต่คดีเดียว
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีสมาคมผู้สื่อข่าวช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทยตั้งฉายา “เบื๊อก เคลมเร็ว” นั้นมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า ต้องถือว่าเป็นเกียรติ และขอบคุณนักข่าวทุกท่านที่ให้ฉายานี้ ซึ่งที่จริงต้องบอกว่ายังไม่เข้าใจความหมายว่าหมายความว่าอะไร แต่ที่มีการขยายความไว้สองทางคือ ทำงานรวดเร็วทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายเสื้อเหลือง เสื้อแดง แต่อีกความหมายอาจจะเป็นว่า มาเร็วแล้วก็ย้ายเร็วก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะอยู่นานเท่าใดก็พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่
ส่วนเมื่อการเมืองเปลี่ยนจะเป็นปัญหาหรือมีความกังวลในการทำงานหรือไม่นั้น พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า ไม่รู้สึกกังวลใจในการทำงาน เราต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะผู้ที่เข้ามาถือเป็นผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงก็ถือเป็นผู้บังคับบัญชาทั้งสิ้น และมติคณะรัฐมนตรีที่มีความเกี่ยวข้องก็ต้องถือปฏิบัติ ตำรวจก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ที่ระเบียบกำหนดไว้อยู่แล้วหากคำสั่งเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวอีกว่า เวลา 16.00 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.จะเป็นประธานในการปล่อยแถวป้องกันปราบปรามอาชญากรรมเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ 2552 ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุกหน่วยในสังกัดนครบาล ร่วมกับทหาร เทศกิจ อาสาสมัครตำรวจบ้าน โดยการดูแลป้องกันอาชญากรรมนั้นมีกำหนดเวลาระหว่างวันที่ 24 ธ.ค.- 5 ม.ค. เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลที่ประชาชนทั่วไปเดินทางกลับภูมิลำเนา และมีการจัดกิจกรรมคริสต์มาสและปีใหม่ตามสถานที่ต่างๆเป็นจำนวนมาก อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาชญากรรมมากยิ่งขึ้นขึ้น