xs
xsm
sm
md
lg

เก้าอี้ผบช.น. ทรงความอาถรรพณ์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เวลาเพียงไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุความรุนแรง ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาจากจีน อเมริกา สเปนสลายการชุมนุมพันธมิตรฯบริเวณโดยรอบรัฐสภา จนต้องเสียเลือด ต้องตาย ขาขาดจมกองเลือด นิ้วขาด แขนขาด ที่บช.น.ก็มีเหตุไม่เชื่ออย่าลบหลู่บอกลางร้ายล่วงหน้า โดยปืนใหญ่โบราณ ซึ่งเป็นปืนใหญ่เก่าแก่ศักดิ์สมัยก่อตั้งกรมนครบาลอยู่ดี ๆ ก็หักพังลงมากองกับพื้นสนามหญ้าหน้าอาคารกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และเมื่อ 7 ตุลาที่ผ่านมา คนไทยทุกคนทั้งประเทศก็ต้องจดจำกับเหตุนองเลือดบนความบริสุทธิ์ของประชาชนผู้รักชาติ ที่ตำรวจของไทยเกียรติวินัยกล้าหาญ อดทน ได้บ้าเลือดห่ำหั่นฆ่าแกงประชาชน กับการที่ต้องการเปิดทางให้บรรดาส.ส. "ผู้ทรงเกลียด" และนายกรัฐมนตรี นาม "นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์" ได้แถลงนโยบายรัฐบาลในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมงเท่านั้น

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คำ ๆ นี้ยังคงมีความขลังในตัวอยู่แล้ว มีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าปืนใหญ่มีอันต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่ตั้ง หรือมีอันต้องล้มพังลงมา ส่วนใหญ่แล้ว ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะต้องมีอันต้องเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลเข้ามาดูแลงานในบช.น. อย่างเช่นที่ผ่านมาไม่นานก็ชัดเจนมีตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้วกรณีที่ "พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง" อดีตผบช.น. ทั่นขยันทำงานปรับปรุงภูมิทัศน์รอบบช.น.บ่อยครั้งจนมีการทำพิธีเคลื่อนย้ายที่ตั้งปืนใหญ่ใหม่ ต่อมาไม่กี่สัปดาห์ ทั่น "พล.ต.ท.อัศวัน ขวัญเมือง" ก็มีอันต้องถูกเด้งออกจากเก้าอี้ผบช.น. ไปนั่งตบยุ่งเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. อยู่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

หมายเหตุ!! สมัยที่ "พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี" เป็น ผบช.น. ปากกระบอกปืนถูกหันไปทางทิศเหนือฝั่งสวนอัมพร แต่พอสมัย "พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง" เป็น ผบช.น.ได้หันปากกระบอกปืนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ฝั่งพระราชวังสวนจิตรลดาฯ จนเกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และในสมัยปัจจุบัน "พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว" ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่เข้ามาเตรียมพร้อมรักษาความสงบเรียบร้อย ขณะพันธมิตรฯชุมนุมหน้าสภา และในบริเวณทำเนียบรัฐบาลช่วยกันยกตัวปืนใหญ่ พร้อมนำขาตั้งค้ำยันเอาไว้ดังเดิม โดยปรับให้ปากกระบอกปืนใหญ่ขนานไปกับถนนศรีอยุธยา ในทิศตะวันออก ซึ่งวิถีปากกระบอกปืนใหญ่ไม่ตรงกับสถานที่สำคัญใดๆ ซึ่งใครก็ตามหากกระทำการใด ๆ ต่อปืนใหญ่โบราณอันศักดิ์สิทธิ เป็นที่เห็นประจักษ์แล้วว่าต้องมีแต่ความเดือนร้อน ต้องมีความวุ่ยวายเกิดขึ้น ไม่มีความสงบร่มเย็นเป็นสุขในชีวิตราชการ

กับความบ้าบิ่น กล้าได้กล้าเสีย ประกอบกับเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี "พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว" ก็ถูกวางตัวให้มานั่งรับคำสั่งบัญชาการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเป็น "ฆาตกรสังคม" ฆ่าประชาชนอย่างเลือดเย็นในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 โดยได้รับคำชมเชยจากผู้นำ และระดับสูงของผู้บริหารประเทศว่า เป็นคนที่ทำงานตรงไปตรงมา กล้าใช้แก๊สน้ำตาสลายฝูงชนที่จะมาสร้างความวุ่ยวายในประเทศ

ถัดมาอีก 3 วัน เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล "พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว" ผบช.น. ได้ทำพิธีบูชาพระอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากฤษฎาภินิหาร กรมพระนเรศรวรฤทธิ์ พร้อมจุดธูปอัญเชิญปืนใหญ่โบราณ ที่ทำการบูรณะซ่อมแซมวงล้อและฐานเสร็จสิ้นแล้ว หลังปืนใหญ่เก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์สมัยก่อตั้งกรมนครบาลหักพังลงมากองกับพื้นสนามหญ้าหน้าอาคาร บช.น. ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นลางร้ายอาจถึงขึ้นต้องมีการ
เปลี่ยนแปลงตัวผู้นำหน่วยงานตามเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่เลื่องลือเกี่ยวกับอาถรรพณ์กันมาช้านาน ซึ่งเป็นเรื่องลี้ลับที่ซ่อนเร้นน่าติดตามเหลือเกินว่า คนที่จะถูกเด้งจากเก้าอี้ ผบช.น.คนต่อไปน่าจะเป็นคนที่หน้าเนื้อ ใจทมิฬ "พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว" หรือไม่ โดยขณะนี้ทั้งฝ่ายบริหาร ประชาชน และ ป.ป.ช.ได้เร่งตรวจสอบและต้องการให้ "พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว" ออกมาชี้แจงความเป็นจริงที่เป็นข้อเท็จจริงที่แท้จริงกับการที่เป็นหน่วยงานซึ่งต้องรับผิดชอบโดยตรงในการเข้าสลายการชุมนุม หากฝ่ายการเมือยังไม่แสดงความรับผิดชอบยุบสภา หรือผู้นำประเทศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรับผิดต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ก็เป็นที่น่าเชื่อได้ว่าข้าราชการประจำที่ถูกวางตัวไว้ไม่ให้อยู่ในตำแหน่งต่อไป กับเพียงเพื่อทำให้ประชาชนเห็นว่ามีผู้รับผิดชอบกับการรุกฆ่าประชาชน ก็คือ "บิ๊กเบื้อก หรือ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว" เป็นแน่แท้ เก้าอี้ผบช.น.จะแสดงอิทธิฤทธิ์กับอาถรรพณ์ตำแหน่งนี้อีกครั้งหรือไม่น่าติดตาม

ปืนใหญ่โบราณศักดิ์สิทธิ์ ประจำบชน.
ตำรวจช่วยกันยกปืนใหญ่ ปรับปากกระบอกปืนไปในทิศทางที่นายสั่ง

ตำรวจ บอกยิงแก๊สน้ำตาสลายฝูงชน
บาดแผลที่ประชาชนบาดเจ็บจากการสลายการชุนนุม หน้าสภาเมื่อ 7 ต.ค. 51

พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. (ขวามือ) ยิ้มแป้นรับดอกไม้ที่นปช.นำมาให้กำลังใจ หลังสั่งฆ่าพันธมิตรฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น