ล่ากะเทยทาสกัญชาฆ่าชิงทรัพย์สาวใหญ่ ใช้ผ้าขาวม้ารัดคอ ตีท้ายทอย กรีดข้อมือดับอนาถคาย้านพัก ตำรวจส่งสายสืบตามประกบคาดหนีไปกบดานบ้านเพื่อนที่ปากน้ำ
วานนี้ (19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ร.ต.ท.อำนาจ ฤทธิ์เนติกุล พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุ มีหญิงถูกฆ่าเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านเลขที่ 1059 ชุมชนตลาดบางโพงพาง ซอยสาธุประดิษฐ์ 57 แยกซอยย่อยปริยานนท์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมชาย พัชรอินโต รองผบก.น.5 พ.ต.อ.กสิณ ศรีธรรมาสุข ผกก.สน.บางโพงพาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯ และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น อยู่ภายในตลาดบางโพงพาง ที่บริเวณทางเข้าบ้านชั้นที่ 1 เจ้าหน้าที่พบศพนางวิระดา รักซ้อน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3727/35 ตรอกนอกเขต แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม สภาพศพสวมเสื้อลายสก็อตสีครีม กางเกงผ้าขาสามส่วน นอนหงายโดยมีผ้าขาวม้าสีแดงรัดแน่นอยู่ที่ลำคอ ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกของมีคมบาดที่ข้อมือด้านขวา และถูกตีด้วยของแข็งบริเวณท้ายทอย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภายในบ้านหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบบริเวณห้องครัวหลังบ้าน มีเศษขวดเป๊ปซี่แตกกระจัดกระจาย ภายในห้องน้ำพบรอยเลือดกระเซ็นอยู่โดยรอบ ขณะที่บริเวณชั้นที่ 2 พบเศษแก้วตกอยู่ และมีร่องรอยการรื้อค้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายสานิต รักซ้อน อายุ 52 ปี สามีผู้ตายให้การว่า ตนเองออกจากบ้านไปขับแท็กซี่ตั้งแต่ตี 5 กลับเข้ามาภายในบ้านเมื่อเวลา 14.30 น. เมื่อเข้ามาเจอภรรยานั่งคุกเข่าคว่ำหน้าอยู่บริเวณพื้นของห้องครัวหลังบ้าน จึงได้เรียกเพื่อบ้านมาช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งตอนแรกคิดว่าภรรยาฆ่าตัวตาย เนื่องจากเห็นผ้าขาวม้ามัดอยู่ที่คอ แต่เมื่อสังเกตเห็นที่พื้นมีขวดเป๊ปซี่แตกกระจัดกระจาย และที่บริเวณลำคอสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทหายไป จึงคิดว่าน่าจะถูกทำร้ายแน่นอน แต่ขณะที่กำลังอุ้มภรรยามาที่บริเวณหน้าบ้านนั้น ภรรยาก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวชีวิตแล้ว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
ด้านนางสาวขวัญเรือน รักซ้อน อายุ 19 ปี ลูกสาวผู้ตายกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนสันนิษฐานว่า ผู้ต้องสงสัยที่ลงมือฆ่าแม่ของตนนั้นน่าจะเป็นเพื่อนบ้านที่ชื่อนายต้น อายุ 24 ปี ซึ่งมีลักษณะค่อนข้างออกไปทางกะเทย ไม่ได้ทำงานอะไร และติดกัญชา เพราะก่อนเกิดเหตุตนกลับเข้ามาที่บ้านเพื่อกินข้าวเที่ยง ก็เห็นแม่นั่งล้างจานอยู่ที่หลังบ้าน โดยมีนายต้น นอนอยู่บริเวณหน้าบ้าน ก่อนที่ตนเองจะกลับออกไปทำงานตามปกติ ซึ่งเมื่อภายหลังเกิดเหตุแล้วนายต้น ก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย อีกทั้งยังชอบมาด้อมๆมองๆบริเวณหน้าบ้านยามค่ำคืนด้วย จึงเชื่อว่านายต้นเป็นผู้ต้องสงสัยที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.สมชาย กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนร้ายลงมืออย่างอุกฉกรรจ์มาก โดยภายหลังจากลงมือแล้ว คนร้ายน่าจะเข้าไปทำการล้างคราบเลือดที่กระเซ็นตามร่างกายในห้องน้ำ เพราะพบคราบเลือดอยู่ ส่วนซึ่งอาวุธที่ใช่ก่อเหตุนั้นคาดว่าน่าจะเป็นขวดเป๊ปซี่ และผ้าขาวม้าที่ใช้ผูกคอผู้ตาย ซึ่งจากการสอบปากคำพยานแวดล้อม ทำให้ขณะนี้ทราบชื่อผู้ต้องสงสัยแล้ว คือนายธีระธิติ โพธิ์วงศ์ อายุ 24 ปี โดยพักอาศัยอยู่บริเวณซอยต้นโพธิ์ ห่างจากที่เกิด 400 เมตร
พ.ต.อ.สมชาย กล่าวต่อว่า ขณะนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเดินทางไปที่บ้าน พบเสื้อผ้าชุดที่ใส่ก่อนก่อเหตุซักตากอยู่บริเวณราวผ้า โดยทราบว่ารีบเก็บข้าวของออกไปก่อนหน้า โดยจะเดินทางไปหาเพื่อนที่ปากน้ำ จึงสั่งให้เร่งประกบตัวเพื่อจับกุมตัวให้ได้โดยเร็วที่สุด
วานนี้ (19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ร.ต.ท.อำนาจ ฤทธิ์เนติกุล พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุ มีหญิงถูกฆ่าเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านเลขที่ 1059 ชุมชนตลาดบางโพงพาง ซอยสาธุประดิษฐ์ 57 แยกซอยย่อยปริยานนท์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมชาย พัชรอินโต รองผบก.น.5 พ.ต.อ.กสิณ ศรีธรรมาสุข ผกก.สน.บางโพงพาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลจุฬาฯ และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 2 ชั้น อยู่ภายในตลาดบางโพงพาง ที่บริเวณทางเข้าบ้านชั้นที่ 1 เจ้าหน้าที่พบศพนางวิระดา รักซ้อน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3727/35 ตรอกนอกเขต แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม สภาพศพสวมเสื้อลายสก็อตสีครีม กางเกงผ้าขาสามส่วน นอนหงายโดยมีผ้าขาวม้าสีแดงรัดแน่นอยู่ที่ลำคอ ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกของมีคมบาดที่ข้อมือด้านขวา และถูกตีด้วยของแข็งบริเวณท้ายทอย
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภายในบ้านหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบบริเวณห้องครัวหลังบ้าน มีเศษขวดเป๊ปซี่แตกกระจัดกระจาย ภายในห้องน้ำพบรอยเลือดกระเซ็นอยู่โดยรอบ ขณะที่บริเวณชั้นที่ 2 พบเศษแก้วตกอยู่ และมีร่องรอยการรื้อค้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายสานิต รักซ้อน อายุ 52 ปี สามีผู้ตายให้การว่า ตนเองออกจากบ้านไปขับแท็กซี่ตั้งแต่ตี 5 กลับเข้ามาภายในบ้านเมื่อเวลา 14.30 น. เมื่อเข้ามาเจอภรรยานั่งคุกเข่าคว่ำหน้าอยู่บริเวณพื้นของห้องครัวหลังบ้าน จึงได้เรียกเพื่อบ้านมาช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งตอนแรกคิดว่าภรรยาฆ่าตัวตาย เนื่องจากเห็นผ้าขาวม้ามัดอยู่ที่คอ แต่เมื่อสังเกตเห็นที่พื้นมีขวดเป๊ปซี่แตกกระจัดกระจาย และที่บริเวณลำคอสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทหายไป จึงคิดว่าน่าจะถูกทำร้ายแน่นอน แต่ขณะที่กำลังอุ้มภรรยามาที่บริเวณหน้าบ้านนั้น ภรรยาก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวชีวิตแล้ว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
ด้านนางสาวขวัญเรือน รักซ้อน อายุ 19 ปี ลูกสาวผู้ตายกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนสันนิษฐานว่า ผู้ต้องสงสัยที่ลงมือฆ่าแม่ของตนนั้นน่าจะเป็นเพื่อนบ้านที่ชื่อนายต้น อายุ 24 ปี ซึ่งมีลักษณะค่อนข้างออกไปทางกะเทย ไม่ได้ทำงานอะไร และติดกัญชา เพราะก่อนเกิดเหตุตนกลับเข้ามาที่บ้านเพื่อกินข้าวเที่ยง ก็เห็นแม่นั่งล้างจานอยู่ที่หลังบ้าน โดยมีนายต้น นอนอยู่บริเวณหน้าบ้าน ก่อนที่ตนเองจะกลับออกไปทำงานตามปกติ ซึ่งเมื่อภายหลังเกิดเหตุแล้วนายต้น ก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย อีกทั้งยังชอบมาด้อมๆมองๆบริเวณหน้าบ้านยามค่ำคืนด้วย จึงเชื่อว่านายต้นเป็นผู้ต้องสงสัยที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.สมชาย กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนร้ายลงมืออย่างอุกฉกรรจ์มาก โดยภายหลังจากลงมือแล้ว คนร้ายน่าจะเข้าไปทำการล้างคราบเลือดที่กระเซ็นตามร่างกายในห้องน้ำ เพราะพบคราบเลือดอยู่ ส่วนซึ่งอาวุธที่ใช่ก่อเหตุนั้นคาดว่าน่าจะเป็นขวดเป๊ปซี่ และผ้าขาวม้าที่ใช้ผูกคอผู้ตาย ซึ่งจากการสอบปากคำพยานแวดล้อม ทำให้ขณะนี้ทราบชื่อผู้ต้องสงสัยแล้ว คือนายธีระธิติ โพธิ์วงศ์ อายุ 24 ปี โดยพักอาศัยอยู่บริเวณซอยต้นโพธิ์ ห่างจากที่เกิด 400 เมตร
พ.ต.อ.สมชาย กล่าวต่อว่า ขณะนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเดินทางไปที่บ้าน พบเสื้อผ้าชุดที่ใส่ก่อนก่อเหตุซักตากอยู่บริเวณราวผ้า โดยทราบว่ารีบเก็บข้าวของออกไปก่อนหน้า โดยจะเดินทางไปหาเพื่อนที่ปากน้ำ จึงสั่งให้เร่งประกบตัวเพื่อจับกุมตัวให้ได้โดยเร็วที่สุด