กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เน้นพัฒนา คน งาน และหน่วยงาน พัฒนาจิตใจให้มีจริยธรรมสอดคล้องกับระบบการทำงาน ขณะที่ “วรพงษ์” ยกตัวอย่างการทำงานของเพื่อนตำรวจ บช.ก ที่จังหวัดชายแดนใต้ ให้บุคลากรฉุกคิดได้ไม่หลงไปกับความฮึกเหิม กับจิตใจใฝ่ต่ำจากสิ่งที่ยั่วยุ จนทำผิด
วันนี้ (18 ธ.ค.) ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) จัดการประชุมมอบนโยบายแก่ ผู้บังคับการ (ผบก.) จนถึงสารวัตรในสังกัด 1,100 นาย โดยมี พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก) พล.ต.ต.วิเชียร สิงห์ปรีชา พล.ต.ต.จำนงค์ แก้วศิริ พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร พล.ต.ต.ภูมิรา วัฒนปานี รอง ผบช.ก.ร่วมมอบนโยบาย โดยแจกเอกสารนโยบาย ผบช.ก.และจริยธรรม จรรยาบรรณตำรวจให้ตำรวจทุกนาย
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า ช่วง 2 เดือนที่ตนเข้ามารับตำแหน่งได้เห็นผลงานระดับสารวัตรในสังกัด พบว่า มีเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ที่เห็นผลงานชัด ส่วนอีก 40 เปอร์เซ็นต์ยังลอยไปลอยมา ตนเข้าใจว่า เป็นเพราะก่อนหน้านี้ยังพะวงกับกรณีปัญหา 26 คำสั่ง แต่จากนี้ตนจะเรียกตรวจสอบและให้ทุกคนรายงานผลงานเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ทำงาน โดยมุ่งสู่เป้าหมายหลักที่ให้ บช.ก.เป็นหน่วยสืบสวนสอบสวนมืออาชีพ ทันสมัยเป็นสากล และต้องมีมาตรฐานจริยธรรม จรรยาบรรณสูง
“โดยต้องพัฒนา คน งาน และหน่วยงาน การพัฒนาคนต้องพัฒนาที่จิตใจให้มีจริยธรรม ซึ่งตนอยากให้ตำรวจ บช.ก.ทุกคน นึกถึงเพื่อนตำรวจ บช.ก.ที่ลำบากทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้ฉุกคิดได้ไม่หลงไปกับความฮึกเหิม กับจิตใจใฝ่ต่ำจากสิ่งที่ยั่วยุ จนทำผิด โดยผู้บังคับบัญชาต้องเป็นผู้นำที่ดี ทำดีเป็นแบบอย่าง และให้จัดฝึกอบรมพัฒนาความรู้และทักษะในงาน ขณะที่ด้านการพัฒนางานให้ทุกกองบังคับการตั้งศูนย์ปฏิบัติการหรือวอร์รูมเพื่อเป็นศูนย์บัญชาการและประเมินข่าวสารต่างๆ และต้องสร้างระบบรับแจ้งข้อมูล 24 ชั่วโมง เพื่อรับเบาะแสร้องเรียนจากประชาชนและรับข้อมูลจากตำรวจ” ผบช.ก.กล่าว
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า ในการพัฒนาหน่วยนั้นได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างเพื่อรองรับตำแหน่งประจำจากกรณี 26 คำสั่งแล้ว โดยอยู่ระหว่างการพิจารณา ตร.คาดว่า จะสมบูรณ์ในเดือนเมษายน 2552 นอกจากนี้ พัฒนาประสิทธิภาพของคอมมานโด กองร้อยควบคุมฝูงชน ชุดคุ้มครองบุคคลสำคัญ ให้มีความสามารถสูงและทันสมัย และมีความอดทนอดกลั้นสูงรองรับสถานการณ์การชุมนุม