ตำรวจภูธรภาค 1 ทลายแก๊งปลอมธนบัตรทั้งไทย-ลาว ได้ผู้ต้องหาและของกลางจำนวนมาก หัวหน้าแก๊งเป็นอดีต ผอ.โรงเรียน เคยต้องโทษปลอมแบงก์มาก่อนแล้ว แต่ไม่เข็ดหลาบ กลับมาทำซ้ำอีก
วันนี้ (18 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น.พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 แถลงข่าวจับกุม นายวัชรินทร์ ประศรี อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 254 หมู่ 4 ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม น.ส.วิไล สีจันทร์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 1 ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นายแหลมทอง ปัตถาวะโร อายุ 60 ปี และ นายอดุลย์ หวังเกิดกลาง อายุ 37 ปี ทั้ง 2 คนพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 3 ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พร้อมของกลางธนบัตรปลอม ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 219 ฉบับ มูลค่าประมาณ 219,000 บาท ธนบัตรปลอม ชนิด 500 บาท จำนวน 268 ฉบับ มูลค่า 134,000 บาท ธนบัตรลาวปลอม ชนิด 50,000 กีบ จำนวน 635 ฉบับ มูลค่า 31,750,000 กีบ แผ่นสติกเกอร์สะท้อนแสงสีเงิน จำนวน 10 แผ่น ภาพรูปลายน้ำพระบรมฉายาลักษณ์ จำนวน 6 แผ่น เครื่องปริ้นเตอร์และหมึกสี 1 ชุด กัญชาอัดแท่ง จำนวน 3 แท่ง หนัก 3 กก.กระเป๋าถือหนังสีขาว 1 ใบ กระเป๋าถุงผ้าสีน้ำเงิน 1 ใบ และกระเป๋าสตางค์ 1 ใบ
พล.ต.ท.ฉลอง เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ตำรวจภูธรภาค 1 ได้รับการประสานจากธนาคารแห่งประเทศไทย ว่า มีการแพร่ระบาดธนบัตรปลอมเป็นจำนวนมาก จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ออกสืบสวนหาข่าว จนกระทั่งมีสายลับแจ้งว่า เวลาประมาณ 06.00 น.วันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.วิไล นายแหลมทอง และ นายอดุลย์ จะนำธนบัตรปลอมมาส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ธนบัตรไทยปลอมฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 203 ฉบับ และกัญชาอัดแท่งจำนวน 3 แท่งหนัก 3 กก.ซึ่งพาอยู่ในกระเป๋าถือทั้ง 2 ใบ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
“จากการขยายผล ทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ซื้อธนบัตรปลอมมาจาก นายวัชรินทร์ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ใน ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าว ก็พบของกลางเป็นธนบัตรปลอมทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมาก จึงตรวจยึดไว้พร้อมควบคุมตัวมาสอบปากคำ” พล.ต.ท.ฉลอง กล่าว
จากการสอบสวน นายวัชรินทร์ ให้การว่า เป็นอดีต ผอ.โรงเรียนดอนปอ หนองโพ อ.นาหว้า จ.นครพนม และเกษียณอายุราชการเมื่อปี 2540 จากนั้นก็ได้ออกมาอยู่กับภรรยา ระหว่างนั้นก็เกิดขาดแคลนเงิน และรู้มาจากเพื่อน ว่า มีคนทำธนบัตรปลอมขาย จึงไปซื้อมาธนบัตรปลอมจำนวน 200,000 บาท มาเก็บไว้เพื่อรอขายต่อ จนมาถูกจับกุมปี 2543 หลังจากออกจากคุกมา ก็กลับไปขายธนบัตรปลอมอีก และถูกจับกุมอีกครั้งเมื่อปี 2546 พร้อมธนบัตรปลอมจำนวน 100,000 บาท ซึ่งหลังจากพ้นโทษออกมาก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นหลักแหล่ง
นายวัชรินทร์ กล่าวต่ออีกว่า หลังจากนั้น ได้ศึกษาวิธีการทำธนบัตรปลอมจากพรรคพวกและนำมาผลิตทำขายเองเมื่อประมาณ 5 เดือนที่แล้ว โดยจะขายธนบัตรปลอมให้กับลูกค้าจำนวน 100,000 บาท ในราคา 5,000 บาท ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักค้ายาเสพติด และวัยรุ่นที่ติดยาเสพติด เนื่องจากว่าเวลานำไปซื้อยาแล้วพวกผู้ค้าจะไม่ทันสังเกต กระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
พล.ต.ท.ฉลอง กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่า มีหมายจับของศาลจังหวัดนครพนม เลขที่ 305/2550 ลงวันที่ 13 ก.ย.2551 ข้อหาร่วมกันปลอมซึ่งเงินตรา หรือธนบัตรปลอม ร่วมกันมีและนำออกใช้อยู่อีก 1 หมายจับด้วย อย่างไรก็ตามได้แจ้งข้อหา ร่วมกันปลอมซึ่งเงินตรา หรือธนบัตรปลอม ร่วมกันมีและนำออกใช้ และมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย หลังจากนี้ จะนำตัวผู้ต้องทั้งหมดพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (18 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น.พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.1 แถลงข่าวจับกุม นายวัชรินทร์ ประศรี อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 254 หมู่ 4 ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม น.ส.วิไล สีจันทร์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 1 ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี นายแหลมทอง ปัตถาวะโร อายุ 60 ปี และ นายอดุลย์ หวังเกิดกลาง อายุ 37 ปี ทั้ง 2 คนพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 3 ต.แชแล อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พร้อมของกลางธนบัตรปลอม ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 219 ฉบับ มูลค่าประมาณ 219,000 บาท ธนบัตรปลอม ชนิด 500 บาท จำนวน 268 ฉบับ มูลค่า 134,000 บาท ธนบัตรลาวปลอม ชนิด 50,000 กีบ จำนวน 635 ฉบับ มูลค่า 31,750,000 กีบ แผ่นสติกเกอร์สะท้อนแสงสีเงิน จำนวน 10 แผ่น ภาพรูปลายน้ำพระบรมฉายาลักษณ์ จำนวน 6 แผ่น เครื่องปริ้นเตอร์และหมึกสี 1 ชุด กัญชาอัดแท่ง จำนวน 3 แท่ง หนัก 3 กก.กระเป๋าถือหนังสีขาว 1 ใบ กระเป๋าถุงผ้าสีน้ำเงิน 1 ใบ และกระเป๋าสตางค์ 1 ใบ
พล.ต.ท.ฉลอง เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก ตำรวจภูธรภาค 1 ได้รับการประสานจากธนาคารแห่งประเทศไทย ว่า มีการแพร่ระบาดธนบัตรปลอมเป็นจำนวนมาก จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ออกสืบสวนหาข่าว จนกระทั่งมีสายลับแจ้งว่า เวลาประมาณ 06.00 น.วันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.วิไล นายแหลมทอง และ นายอดุลย์ จะนำธนบัตรปลอมมาส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ธนบัตรไทยปลอมฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 203 ฉบับ และกัญชาอัดแท่งจำนวน 3 แท่งหนัก 3 กก.ซึ่งพาอยู่ในกระเป๋าถือทั้ง 2 ใบ จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
“จากการขยายผล ทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ซื้อธนบัตรปลอมมาจาก นายวัชรินทร์ ซึ่งมีบ้านพักอยู่ใน ต.ท่าแร่ อ.เมือง จ.สกลนคร เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าว ก็พบของกลางเป็นธนบัตรปลอมทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมาก จึงตรวจยึดไว้พร้อมควบคุมตัวมาสอบปากคำ” พล.ต.ท.ฉลอง กล่าว
จากการสอบสวน นายวัชรินทร์ ให้การว่า เป็นอดีต ผอ.โรงเรียนดอนปอ หนองโพ อ.นาหว้า จ.นครพนม และเกษียณอายุราชการเมื่อปี 2540 จากนั้นก็ได้ออกมาอยู่กับภรรยา ระหว่างนั้นก็เกิดขาดแคลนเงิน และรู้มาจากเพื่อน ว่า มีคนทำธนบัตรปลอมขาย จึงไปซื้อมาธนบัตรปลอมจำนวน 200,000 บาท มาเก็บไว้เพื่อรอขายต่อ จนมาถูกจับกุมปี 2543 หลังจากออกจากคุกมา ก็กลับไปขายธนบัตรปลอมอีก และถูกจับกุมอีกครั้งเมื่อปี 2546 พร้อมธนบัตรปลอมจำนวน 100,000 บาท ซึ่งหลังจากพ้นโทษออกมาก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นหลักแหล่ง
นายวัชรินทร์ กล่าวต่ออีกว่า หลังจากนั้น ได้ศึกษาวิธีการทำธนบัตรปลอมจากพรรคพวกและนำมาผลิตทำขายเองเมื่อประมาณ 5 เดือนที่แล้ว โดยจะขายธนบัตรปลอมให้กับลูกค้าจำนวน 100,000 บาท ในราคา 5,000 บาท ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักค้ายาเสพติด และวัยรุ่นที่ติดยาเสพติด เนื่องจากว่าเวลานำไปซื้อยาแล้วพวกผู้ค้าจะไม่ทันสังเกต กระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
พล.ต.ท.ฉลอง กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบว่า มีหมายจับของศาลจังหวัดนครพนม เลขที่ 305/2550 ลงวันที่ 13 ก.ย.2551 ข้อหาร่วมกันปลอมซึ่งเงินตรา หรือธนบัตรปลอม ร่วมกันมีและนำออกใช้อยู่อีก 1 หมายจับด้วย อย่างไรก็ตามได้แจ้งข้อหา ร่วมกันปลอมซึ่งเงินตรา หรือธนบัตรปลอม ร่วมกันมีและนำออกใช้ และมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย หลังจากนี้ จะนำตัวผู้ต้องทั้งหมดพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป