xs
xsm
sm
md
lg

คนร้ายลองของ! เหนี่ยว.38 ใส่อาคาร กกต.-ตร.ปักใจฝีมือขี้เมา!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

คนร้ายยิงปืนใส่สำนักงาน กกต.1 นัด เมื่อคืนที่ผ่านมา มีเพียงกระจกหน้าสำนักงานเป็นรอยแตกร้าวแต่ไม่ทะลุ ตำรวจ เชื่อ น่าจะเป็นกระสุนขนาด .38 เพราะหัวกระสุนยืดหยุ่นได้ ทำให้ไม่สามารถทะลุผ่านกระจกที่หนา 1.8 ซม.ไปได้ ระบุ อาจเป็นฝีมือขี้เมาลองของ เพื่อสร้างสถานการณ์ แต่เชื่อไม่เกี่ยวเรื่องการเมือง

วันนี้ (18 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ร.ต.อ.สมเกียรติ รวมเงิน พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ปทุมวัน รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่อาคารศรีจุลทรัพย์ ตั้งอยู่เลขที่ 44 ถนนพระราม 1 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6 พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.อุดม เปี่ยมศักดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน กำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจและกำลังฝ่ายสืบสวน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 23 ชั้น ซึ่งเป็นที่ทำการของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สำนักงานสรรพากร เขตปทุมวัน ศูนย์บริการ ทีโอที สาขาปทุมวัน นอกจากนี้ ยังมีบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ ตั้งอยู่ที่อาคารแห่งนี้อีก 4 บริษัท จากการตรวจสอบที่บริเวณกระจกด้านหน้าอาคาร ติดกับศูนย์บริการทีโอที สาขาปทุมวัน พบร่องรอยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด จำนวน 1 นัด ทำให้กระจกแตกร้าว แต่ไม่ทะลุกระจกไปได้ เนื่องจากเป็นกระจกชนิดหนาเป็นพิเศษ ทั้งนี้จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ไม่พบหัวกระสุนปืนตกอยู่แต่อย่างใด

จากการสอบสวน นายวิเชียร บางขุนทด อายุ 44 ปี รปภ.ของบริษัท พีพีเอ ซิเคียวริตี้ จำกัด ซึ่งเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่ ให้การว่า ช่วงเวลาประมาณ 21.42 น.วานนี้ (17 ธ.ค.) ขณะที่นั่งเฝ้ายามอยู่ที่เคาน์เตอร์ ชั้น 1 ก็ได้ยินเสียงคล้ายอาวุธปืนดังขึ้นมาจากด้านนอกอาคาร 1 นัด ตามด้วยเสียงเศษกระจกหล่นลงพื้น จึงรีบวิ่งออกไปตรวจสอบ พบร่องรอยกระสุนที่คนร้ายยิงใส่กระจกด้านหน้าอาคาร แต่ไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือตัวคนร้ายแต่อย่างใด จึงรีบแจ้งให้หัวหน้า รปภ.และผู้ดูแลอาคารทราบ ก่อนที่ทุกฝ่ายจะตัดสินใจโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบในวันนี้

พ.ต.อ.ไพศาล เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางฝ่ายสืบสวนได้ประสานฝ่ายผู้ดูแลอาคาร ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว ปรากฏว่า ในช่วงที่มีเสียงปืนดังขึ้นกล้องสามารถบันทึกภาพ รถแท็กซี่ สีชมพู จำนวน 2 คัน วิ่งผ่านไป ตามด้วยรถ จยย.อีก 1 คัน และ รถแท็กซี่ สีน้ำเงิน อีก 1 คัน ซึ่งหลังจากนี้ จะให้ฝ่ายสืบสวนแกะรอยล่าตัวคนร้ายจากภาพที่กล้องบันทึกได้อย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนข้อมูลที่ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แจ้งไว้ในเบื้องต้น คาดว่า อาวุธปืนที่คนร้ายใช้น่าจะเป็นขนาด .38 เพราะหัวกระสุนเป็นลูกตะกั่ว มีความยืดหยุ่นสูง จึงไม่สามารถทะลุกระจกที่มีความหนามากถึง 1.8 เซนติเมตรไปได้ อย่างไรก็ตาม จะตรวจสอบหาหัวกระสุนที่คาดว่า น่าจะยังตกอยู่ในที่เกิดเหตุอีกครั้ง

ขณะที่ พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ไม่อยากมุ่งเป้าไปที่สถานการณ์บ้านเมืองเพียงอย่างเดียว เพราะเรื่องเช่นนี้อาจเป็นฝีมือของพวกขี้เมา ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูจากวิถีกระสุนแล้ว คนร้ายน่าจะยิงในระยะไกลพอสมควร ซึ่งจุดที่คนร้ายยืนอยู่อาจจะเป็นบริเวณหน้าอาคารยศเสเซ็นจูรี่ ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งประสานขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากอาคารดังกล่าวแล้ว
ตำรวจตรวจสอบรอยแตกร้าวของกระจกหน้าอาคารสำนักงานของกกต.
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาร่องรอยและหลักฐานที่คนร้ายยิงปืนใส่สำนักงานกกต.
กำลังโหลดความคิดเห็น