ตำรวจพบรถกระบะต้องสงสัย ไปตรวจสอบพบกระสุนปืนเอ็ม 16 ในรถ ถึง 81 นัด รวมทั้งปลอกกระสุน .38 อีก 3 ปลอก เสื้อเกราะ 1 ตัว พร้อมอุปกรณ์สนาม ขณะที่บริเวณใต้แก้มหน้าขวา เหนือล้อ พบหัวกระสุนปืนติดคาอยู่ 1 หัว ตรวจสอบแล้วเจ้าของรถ เป็นพ่อค้าอาวุธสงคราม ต้องคดีหลายคดี เตรียมล่าตัวมาสอบปากคำ เพราะเชื่อมั่นว่า น่าจะไปก่อเหตุอะไรมาแล้วขับรถมาทิ้งไว้ก่อนจะหลบหนีไป
วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น.พ.ต.ท.ปรีชา วงศ์รวิวรรณ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วิภาวดี ว่า มีรถกระบะต้องสงสัยจอดอยู่บนทางเท้า หน้าโชว์รูมรถมาสด้า ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมฝ่ายสืบสวน
ในที่เกิดเหตุ ตำรวจพบรถกระบะโตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ณร-9798 กทม.จอดอยู่บนทางเท้าหน้าโชว์รูมดังกล่าว โดยสภาพล้อและตัวถังรถเปื้อนคราบโคลนจำนวนมาก และที่บริเวณใต้แก้มหน้าขวา เหนือล้อ พบหัวกระสุนปืน .765 มม.ฝังอยู่ 1 หัว จากการตรวจสอบไม่พบเจ้าของรถ หรือมีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ พ.ต.ท.ปรีชา จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเปิดรถและตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าว
จากการตรวจสอบภายในรถ ตำรวจพบกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 81 นัด ปลอกกระสุนปืน .38 จำนวน 3 ปลอก นอกจากนี้ ยังพบเสื้อเกราะ 1 ตัว ถุงมือ และหมวกทหารพราน รวมทั้งเชือกใช้สำหรับโรยตัวสีเขียวเข้ม พร้อมเอกสาร ระบุว่า รถเป็นของ นายวรปกรณ์ นุชประมูล อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/236 หมู่ 5 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี
พ.ต.ท.ปรีชา กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของ นายวรปกรณ์ ในเบื้องต้น พบว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2550 นายวรปกรณ์ ถูกจับดำเนินคดีในข้อหา ค้าอาวุธสงคราม ที่ สภ.ปากพลี อ.ปากพลี จ.นครนายก แต่ได้ประกันตัวในชั้นศาลออกมาสู้คดี และเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา นายวรปกรณ์ยังตกเป็นผู้ต้องหาพยายามฆ่าที่ สภ.เมืองนครนายก ด้วย
“หลังจากนี้ ตำรวจจะทำการออกหมายเรียกนายวรปกรณ์มาสอบปากคำ ว่ากระสุนปืน เสื้อเกราะที่พบ เป็นของนายวรปกรณ์หรือไม่ และก่อนเกิดเหตุ นายวรปกรณ์ขับรถไปไหนมา ถึงมีหัวกระสุนฝังอยู่ที่บริเวณที่พบ และเหตุใดจึงทิ้งรถและหายตัวไป ทั้งนี้ หากตำรวจตามตัวหรือจับกุมตัวนายวรปกรณ์ได้แล้ว จะแจ้งข้อหา มีเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมาย ส่วนเรื่องเสื้อเกราะจะต้องพิจารณาอีกครั้งว่า จะเข้าข่ายความผิดกฏหมายข้อใด” พ.ต.ท.ปรีชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฝ่ายสืบสวนทราบว่า รถคันดังกล่าวเป็นของ นายวรปกรณ์ จึงได้เดินทางไปยังบ้าน นายวรปกรณ์ ตามที่อยู่ที่พบในรถ เพื่อจะเชิญตัวมาสอบปากคำ แต่ทว่าไม่พบตัว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้พบเบอร์โทรศัพท์ ที่นายวรปกรณ์โทรไปหาแฟนเก่า แต่ก็ไม่พบตัวเช่นกัน ทั้งนี้ ฝ่ายสืบสวนเชื่อมั่นว่า นายวรปกรณ์ เจ้าของรถคันดังกล่าว น่าจะไปก่อเหตุอะไรมา จึงถูกยิง จากนั้นได้ขับรถมาทิ้งไว้บนทางเท้าในที่เกิดเหตุ แล้วหลบหนีไป ซึ่งจะได้ออกติดตามตัวมาสอบปากคำและดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (28 พ.ค.) เมื่อเวลา 08.30 น.พ.ต.ท.ปรีชา วงศ์รวิวรรณ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วิภาวดี ว่า มีรถกระบะต้องสงสัยจอดอยู่บนทางเท้า หน้าโชว์รูมรถมาสด้า ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.จึงรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมฝ่ายสืบสวน
ในที่เกิดเหตุ ตำรวจพบรถกระบะโตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ณร-9798 กทม.จอดอยู่บนทางเท้าหน้าโชว์รูมดังกล่าว โดยสภาพล้อและตัวถังรถเปื้อนคราบโคลนจำนวนมาก และที่บริเวณใต้แก้มหน้าขวา เหนือล้อ พบหัวกระสุนปืน .765 มม.ฝังอยู่ 1 หัว จากการตรวจสอบไม่พบเจ้าของรถ หรือมีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ พ.ต.ท.ปรีชา จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเปิดรถและตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าว
จากการตรวจสอบภายในรถ ตำรวจพบกระสุนปืนเอ็ม 16 จำนวน 81 นัด ปลอกกระสุนปืน .38 จำนวน 3 ปลอก นอกจากนี้ ยังพบเสื้อเกราะ 1 ตัว ถุงมือ และหมวกทหารพราน รวมทั้งเชือกใช้สำหรับโรยตัวสีเขียวเข้ม พร้อมเอกสาร ระบุว่า รถเป็นของ นายวรปกรณ์ นุชประมูล อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/236 หมู่ 5 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี
พ.ต.ท.ปรีชา กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของ นายวรปกรณ์ ในเบื้องต้น พบว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2550 นายวรปกรณ์ ถูกจับดำเนินคดีในข้อหา ค้าอาวุธสงคราม ที่ สภ.ปากพลี อ.ปากพลี จ.นครนายก แต่ได้ประกันตัวในชั้นศาลออกมาสู้คดี และเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา นายวรปกรณ์ยังตกเป็นผู้ต้องหาพยายามฆ่าที่ สภ.เมืองนครนายก ด้วย
“หลังจากนี้ ตำรวจจะทำการออกหมายเรียกนายวรปกรณ์มาสอบปากคำ ว่ากระสุนปืน เสื้อเกราะที่พบ เป็นของนายวรปกรณ์หรือไม่ และก่อนเกิดเหตุ นายวรปกรณ์ขับรถไปไหนมา ถึงมีหัวกระสุนฝังอยู่ที่บริเวณที่พบ และเหตุใดจึงทิ้งรถและหายตัวไป ทั้งนี้ หากตำรวจตามตัวหรือจับกุมตัวนายวรปกรณ์ได้แล้ว จะแจ้งข้อหา มีเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมาย ส่วนเรื่องเสื้อเกราะจะต้องพิจารณาอีกครั้งว่า จะเข้าข่ายความผิดกฏหมายข้อใด” พ.ต.ท.ปรีชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฝ่ายสืบสวนทราบว่า รถคันดังกล่าวเป็นของ นายวรปกรณ์ จึงได้เดินทางไปยังบ้าน นายวรปกรณ์ ตามที่อยู่ที่พบในรถ เพื่อจะเชิญตัวมาสอบปากคำ แต่ทว่าไม่พบตัว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้พบเบอร์โทรศัพท์ ที่นายวรปกรณ์โทรไปหาแฟนเก่า แต่ก็ไม่พบตัวเช่นกัน ทั้งนี้ ฝ่ายสืบสวนเชื่อมั่นว่า นายวรปกรณ์ เจ้าของรถคันดังกล่าว น่าจะไปก่อเหตุอะไรมา จึงถูกยิง จากนั้นได้ขับรถมาทิ้งไว้บนทางเท้าในที่เกิดเหตุ แล้วหลบหนีไป ซึ่งจะได้ออกติดตามตัวมาสอบปากคำและดำเนินคดีต่อไป
