ตามจับได้แล้ว หลังตำรวจใช้เวลากว่า 7 เดือน แกะรอยเจ้าหน้าที่กู้ภัยศูนย์พญาอินทรีที่เข้าไปช่วยเหลือเหตุเพลิงไหม้คอนโดฯ แต่กลับไปลักทรัพย์เจ้าของห้อง นำบัตรเครดิตไปรูดซื้อสินค้า อ้างอารมณ์โลภชั่ววูบ แต่พบประวัติต้องคดีลักทรัพย์เพียบ
วันนี้ (17 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.เสนาะ อ่อนศรี รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.ธีระพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สน.พลับพลาไชย 2 พ.ต.ต.สุรวิทย์ โยนจอหอ สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พลับพลาไชย 2 ร่วมกันแถลงการจับกุม นายเอกอัมรินทร์ อุราเลิศ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 734/11 ตรอกวัดจันทร์ใน แขวงและเขตบางคอแหลม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ จ.725/2551 ลง 3 ก.ค.51 โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณข้างสถานีขนส่งหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร 6 แขวงและเขตจตุจักร เมื่อเวลา 02.30 น.วันนี้
พ.ต.อ.ธีระพงษ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุเพลงไหม้อาคารสี่พระยาริเวอร์วิว คอนโดมีเนียม เลขที่ 108 ซอยโยธา ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก เขตสัมพันธวงศ์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ศพ โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าดับเพลิงนั้น นายเอกอัมรินทร์ซึ่งเป็นสมาชิกของศูนย์พญาอินทรี เข้าไปลักเอาบัตรเครดิตอเมริกันเอ็กซ์เพรส และทรัพย์สินต่างๆ ของผู้เสียหายไปจากสถานที่เกิดเหตุ ก่อนจะนำบัตรเครดิตไปทำการรูดซื้อสินค้าต่างๆ และซื้อโทรศัพท์มือถือจากห้างสรรพสินค้าแล้วหลบหนีไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาขับแท็กซี่และซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต 2 จึงติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายเอกอัมรินทร์ให้การรับสารภาพว่าก่อนเกิดเหตุได้เข้ามาทำงานที่ศูนย์พญาอินทรี เป็นเวลา 3 ปี ใช้รหัสอีเกิล 119 โดยทำหน้าหน้าที่เป็นพนักงานวิทยุ และยังเคยขับรถให้นายศักดิ์ศรี แสนสุข ประธานศูนย์ปฏิบัติการพิเศษพญาอินทรีอีกด้วย
ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุได้เข้าไปในอาคารที่เกิดเหตุเพื่อต้องการจะถ่ายรูปไปลงเว็บไซต์ แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่าห้องที่เกิดเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งไม่อนุญาตให้เข้าไป จึงเข้าไปในห้องเลขที่ 2609 ของผู้เสียหายซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องที่เกิดเหตุ ที่มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และเจ้าหน้าที่ศูนย์พญาอินทรี นั่งอยู่ก่อนจำนวนหนึ่งแล้ว
นายเอกอัมรินทร์ ให้การต่อว่า เมื่อเข้าไปนั่งได้สักพักก็เป็นช่วงที่เจ้าหน้าเปิดระบายน้ำออกมา จึงทำให้กระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายลอยออกมาจากใต้โซฟาแล้วมาติดที่ขาตน เมื่อเปิดออกดูจึงเกิดความคิดชั่ววูบเก็บเงียบไว้ เมื่อออกมาจากที่เกิดเหตุก็นำบัตรเคตดิตในกระเป๋าไปลองรูดซื้อโทรศัพท์มือถือดูปรากฏว่าซื้อได้ เลยเอาไปรูดซื้อของใข้อื่นๆ รวมทั้งผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้ลูก ก่อนจะหลบหนีไปอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีได้ 2 เดือน แล้วกลับเข้ามาขับแท็กซี่อยู่ใน กทม. จนกระทั่งถูกจับกุมได้ดังกล่าว
“ยอมรับว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบของคนที่ไม่เคยใช้บัตรเครดิต เมื่อเห็นก็เลยเอาไปลองใช้ดู ปรากฏว่าใช้ได้จริง ส่วนสาเหตุที่ผมไม่คิดมอบตัวก็เพราะผมไม่ได้ขโมยเพชรไปจากห้องของคนตายตามที่เป็นข่าว หากผมขโมยเพชรไปขายเอาเงินมาใช้จริง แล้วทำไมจะต้องหนีไปขับแท็กซี่หาเงินให้ลำบากด้วย” นายเอกอัมรินทร์กล่าว
ด้าน น.ส.ไสว ศรีหลิ่ง อายุ 31 ปี เจ้าของห้องเลขที่ 2609 ชั้น 26 ที่ถูกผู้ต้องหาขโมยบัตรเครดิตไป กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนก็รีบล็อกห้องแล้วลงไปชั้นล่างทันที แต่เมื่อกลับมาที่ก้องปรากฏกว่าบัตรเครดิต โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป และเงินสดหายไป ซึ่งหลังตรวจสอบก็พบว่าผู้ต้องหานำบัตรเครดิตไปรูดซื้อถึง 40,000 บาท ทำให้ตนรู้สึกเสียใจที่ห้องมาถูกไฟไหม้แล้วยังมาถูกขโมยทรัพย์สินไปอีก
พ.ต.อ.ธีระพงษ์ กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายเอกอัมรินทร์ พบว่าเคยกระทำผิดในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งในหลายท้องที่ โดยเคยถูกดำเนินคดีมาแล้วในความผิดฐานลักทรัพย์ จำนวน 4 คดีในเขตพื้นที่ สภ.เมืองสุโขทัย และศาลจังหวัดสุโขทัย พิพากษาจำคุก หลังพ้นโทษออกมาใน พ.ศ.2549 ก็ยังคงก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าตัวยังมีหมายจับข้อหาลักทรัพย์อีกจำนวน 3 หมายจับในท้องที่ สน.บางพลัด สน.ลาดพร้าว ข้อหายักยอกในท้องที่สน.มักกะสัน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในที่หรือบริเวณที่มีเหตุเพลิงไหม้หรืออาศัยโอกาสที่ประชาชนกำลังตื่นกลัวในภยันตรายใดๆ ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ, เอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นฯ หรือรับของโจร ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
อีเกิล 119 ยังลอยนวล-ลักบัตรเครคิตคนตายรูดส่วนตัว
“อัศวิน” สั่งลากตัวกู้ภัยแสบฉกทรัพย์สินเหยื่อไฟไหม้คอนโดหรู!
ตร.เชื่อไฟไหม้คอนโดหรู เกิดจากประมาท ไม่ใช่วางเพลิง-ไฟช็อต
ญาติยันไฟไหม้คอนโดฯ หรูไม่ใช่วางเพลิงฆ่าตัวตาย
ไฟไหม้คอนโดฯ หรู 26 ชั้นหนีตายอลหม่านสังเวย 3 ศพ!
