ตร.เร่งสอบลงพื้นที่หาเบาะแส คดียิงเสี่ยขอนแก่นดับหน้าสถานบันเทิงเรือนพระยา ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา เชื่อ คนร้ายทำงานเป็นทีมวางแผนเป็นอย่างดี ก่อนที่จะลงมือสังหาร ยังไม่ตัดประเด็นชู้สาวและการพนัน ด้านภรรยาผู้ตายร่ำไห้รับศพสามี ระบุไม่ทราบสามีเสียชีวิตจากสาเหตุใด เพราะผู้ตายมีธุรกิจหลายอย่าง
วันนี้ (15 ธ.ค.) พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายวีรพงษ์ การกิจโอฬาร อายุ 44 ปี นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ จ.ขอนแก่น ถูกคนร้ายกระหน่ำยิงในลานจอดรถ ของสถานบันเทิงเรือนพระยา ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา จนเสียชีวิตเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย และกก.สืบสวน บก.น.4 ลงพื้นที่เพื่อหาพยานแวดล้อม และทำการตรวจสอบกล้องวงปิดในพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งตรวจสอบว่า ผู้ตายมีความขัดแย้งเรื่องธุรกิจกับผู้ใดหรือไม่ ส่วนประเด็นเรื่องชู้สาวและเรื่องการพนันนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ทิ้งประเด็นแต่อย่างใด
พล.ต.ต.วิมล กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่อีกครั้งเพื่อสรุปแนวทางในการสืบสวน เนื่องจากดูจากการลงมือของคนร้ายนั้น มีการวางแผนมาอย่างดี มีการโรยตะปูเรือใบทำให้รถผู้ตายยางแตก เพื่อคนร้ายจะได้มีเวลาในการลงมือ โดยเชื่อว่าคนร้ายทำงานเป็นทีม โดยได้ติดตามผู้ตายตั้งแต่ออกเดินทางและทราบการเคลื่อนไหวของผู้ตายเป็นอย่างดี ซึ่งต้องใช้เวลาสืบสวนอีกระยะเพื่อที่สาวถึงผู้บงการสังหารในครั้งนี้
ด้าน พ.ต.ท.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ ก็พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 6 ปลอก และตะปูเรือใบที่ใช้วางยางล้อรถผู้ตายจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ก็เรียกเด็กรับรถที่อยู่ในเหตุการณ์ และเด็กเปลี่ยนยางมาสอบปากคำแล้ว แต่ยังไม่ได้รูปพรรณของคนร้ายที่ชัดเจนนัก เพราะขณะเกิดเหตุ ทั้งหมดกำลังจัดการเปลี่ยนยางรถอยู่ และเห็นเพียงชายชุดดำสวมหมวกกันน็อคเต็มใบวิ่งลงจากจยย.แบบผู้หญิงที่มีคนร้ายอีกคนติดเครื่องรออยู่ แล้วใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงรวม 6 นัด จนผุ้ตายล้มลงเสียชีวิต
จากการสอบปากคำนางวาราดา การกิจโอฬาร อายุ 38 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การว่า ปกติผู้ตายจะเดินทางเข้า กทม.เพื่อมาชมการแข่งม้าเป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งในวันเกิดเหตุ ตนและสามีได้เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรอรับลูกที่กลับจากไปศึกษาที่ต่างประเทศ จากนั้นสามี ก็ได้แยกไปสนามม้าปทุมวัน จากนั้นก็เดินทางไปซาวน่าที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง และมาถูกยิงจนเสียชีวิตขณะกำลังจะเดินทางกลับ ส่วนเรื่องความขัดแย้งทางเรื่องธุรกิจนั้น ตนไม่ทราบ เพราะสามีทำธุรกิจหลายอย่างทั้งในกทม.และต่างจังหวัด ซึ่งตนก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด ส่วนทางด้านคอกม้าช่วงนี้สามีไม่ได้ส่งม้าลงแข่งเพราะมีม้าป่วยตายไปหลายตัว
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางวาราดา การกิจโอฬาร อายุ 38 ปี ภรรยา ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพที่สถาบันนิติเวช เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าของบรรดาญาติๆ จำนวนกว่า 15 คน โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง และเข้าเส้นเลือดแดงใหญ่ช่องท้อง ทำให้เสียชีวิตโดยเฉียบพลัน
ทั้งนี้ นางวาราดา ได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดถึงสาเหตุการตายของนายวีระพงษ์ โดยบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการรับศพนายวีระพงษ์ไปบำเพ็ญกุศลนั้น ก็เป็นไปตามธรรมเนียมประเพณีจีน ซึ่งไม่ได้มีการนำศพใส่โลง เพียงแต่มีผ้าแพรสีฟ้าคลุมตัว โดยจะนำศพไปฝังไว้ที่สุสานเซียงตึ๊ง จังหวัดขอนแก่น
บุกยิงนักธุรกิจเมืองขอนแก่นดับหน้าสถานบันเทิงหรูกลางกรุง
วันนี้ (15 ธ.ค.) พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนายวีรพงษ์ การกิจโอฬาร อายุ 44 ปี นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ จ.ขอนแก่น ถูกคนร้ายกระหน่ำยิงในลานจอดรถ ของสถานบันเทิงเรือนพระยา ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา จนเสียชีวิตเมื่อกลางดึกที่ผ่านมาว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย และกก.สืบสวน บก.น.4 ลงพื้นที่เพื่อหาพยานแวดล้อม และทำการตรวจสอบกล้องวงปิดในพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งตรวจสอบว่า ผู้ตายมีความขัดแย้งเรื่องธุรกิจกับผู้ใดหรือไม่ ส่วนประเด็นเรื่องชู้สาวและเรื่องการพนันนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ทิ้งประเด็นแต่อย่างใด
พล.ต.ต.วิมล กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่อีกครั้งเพื่อสรุปแนวทางในการสืบสวน เนื่องจากดูจากการลงมือของคนร้ายนั้น มีการวางแผนมาอย่างดี มีการโรยตะปูเรือใบทำให้รถผู้ตายยางแตก เพื่อคนร้ายจะได้มีเวลาในการลงมือ โดยเชื่อว่าคนร้ายทำงานเป็นทีม โดยได้ติดตามผู้ตายตั้งแต่ออกเดินทางและทราบการเคลื่อนไหวของผู้ตายเป็นอย่างดี ซึ่งต้องใช้เวลาสืบสวนอีกระยะเพื่อที่สาวถึงผู้บงการสังหารในครั้งนี้
ด้าน พ.ต.ท.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผกก.สส.สน.โชคชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ ก็พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 6 ปลอก และตะปูเรือใบที่ใช้วางยางล้อรถผู้ตายจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ก็เรียกเด็กรับรถที่อยู่ในเหตุการณ์ และเด็กเปลี่ยนยางมาสอบปากคำแล้ว แต่ยังไม่ได้รูปพรรณของคนร้ายที่ชัดเจนนัก เพราะขณะเกิดเหตุ ทั้งหมดกำลังจัดการเปลี่ยนยางรถอยู่ และเห็นเพียงชายชุดดำสวมหมวกกันน็อคเต็มใบวิ่งลงจากจยย.แบบผู้หญิงที่มีคนร้ายอีกคนติดเครื่องรออยู่ แล้วใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงรวม 6 นัด จนผุ้ตายล้มลงเสียชีวิต
จากการสอบปากคำนางวาราดา การกิจโอฬาร อายุ 38 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การว่า ปกติผู้ตายจะเดินทางเข้า กทม.เพื่อมาชมการแข่งม้าเป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งในวันเกิดเหตุ ตนและสามีได้เดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรอรับลูกที่กลับจากไปศึกษาที่ต่างประเทศ จากนั้นสามี ก็ได้แยกไปสนามม้าปทุมวัน จากนั้นก็เดินทางไปซาวน่าที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมง และมาถูกยิงจนเสียชีวิตขณะกำลังจะเดินทางกลับ ส่วนเรื่องความขัดแย้งทางเรื่องธุรกิจนั้น ตนไม่ทราบ เพราะสามีทำธุรกิจหลายอย่างทั้งในกทม.และต่างจังหวัด ซึ่งตนก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด ส่วนทางด้านคอกม้าช่วงนี้สามีไม่ได้ส่งม้าลงแข่งเพราะมีม้าป่วยตายไปหลายตัว
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางวาราดา การกิจโอฬาร อายุ 38 ปี ภรรยา ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพที่สถาบันนิติเวช เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าของบรรดาญาติๆ จำนวนกว่า 15 คน โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง และเข้าเส้นเลือดแดงใหญ่ช่องท้อง ทำให้เสียชีวิตโดยเฉียบพลัน
ทั้งนี้ นางวาราดา ได้ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดถึงสาเหตุการตายของนายวีระพงษ์ โดยบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยการรับศพนายวีระพงษ์ไปบำเพ็ญกุศลนั้น ก็เป็นไปตามธรรมเนียมประเพณีจีน ซึ่งไม่ได้มีการนำศพใส่โลง เพียงแต่มีผ้าแพรสีฟ้าคลุมตัว โดยจะนำศพไปฝังไว้ที่สุสานเซียงตึ๊ง จังหวัดขอนแก่น
บุกยิงนักธุรกิจเมืองขอนแก่นดับหน้าสถานบันเทิงหรูกลางกรุง
