ตร.สน.ลุมพินี ซ้อนแผนรวบพ่อเล้าชาวอินเดีย ลวงหญิงอุซเบฯ ค้ากามคาโรงพัก ขณะนำพาสปอร์ตเหยื่อสาวมาแสดงความบริสุทธิ์ หลังค้นห้องพักย่านถนนเพชรบุรี พบสาวอุซเบฯ อีก 12 คนถูกกักขัง พร้อมเร่งตามตัวอีก 1 แม่เล้าชาวอินเดียมาดำเนินคดี
วันนี้ (14 ธ.ค.) พ.ต.อ.สมประสงค์ เย็นท้วม ผกก.สน.ลุมพินี พร้อมด้วย พ.ต.ต.ปิโยรส กัณหะสิริ สว.สส.สน.ลุมพินี ร่วมกันจับกุมตัว นายดาลจีท ซิงห์ อายุ 30 ปี สัญชาติอินเดีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่ ส.2432/2551 ลงวันที่ 14 ธ.ค.ในความผิดฐานร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อการอนาจารและสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหาพาไปเพื่อการอนาจาร โดยการขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.ลุมพินี ถ.วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
พ.ต.ต.ปิโยรส เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.คาห์ดิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี สาวสัญชาติอุซเบกิสสถาน เดินทางเข้าแจ้งความว่าถูกนายดาลจีท และนางนอชูชุค ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี หลอกลวงเข้ามาทำงานเป็นแม่บ้านในราชอาณาจักรไทย แต่เมื่อเดินทางมาถึงกลับถูกยึดหนังสือเดินทางเอาไว้แล้วพาตัวไปกักขังที่ห้องเลขที่ 3302 อาคารแกรนด์ไดม่อน ถนนเพชรบุรี ก่อนบังคับให้ค้าประเวณี หากไม่ยอมก็จะถูกทำร้ายทุบตี ต่อมา น.ส.คาห์ดิชา ถูกบังคับให้มาค้าประเวณีที่โรงเเรมเกรซ ย่านซอยสุขุมวิท 3 จึงอาศัยจังหวะหลบหนีออกมาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.เวลา 23.00 น.ที่ผ่านมา
พ.ต.ต.ปิโยรส กล่าวอีกว่า หลังรับแจ้งความเจ้าหน้าที่จึงได้ขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนงออกหมายค้นห้องพักดังกล่าว ก่อนนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบที่ห้องพักดังกล่าว พบหญิงสาวสัญชาติอุซเบกิสสถานถูกกักขังไว้อีก 12 คน จึงช่วยเหลือออกมาได้ทั้งหมด โดยทุกคนให้การว่าถูกทำร้ายร่างกายและบังคับให้ค้าประเวณีเช่นเดียวกัน ส่วนหนังสือเดินทางก็ถูกนายดาลจีท และนางนอชูชุค ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนียึดเอาไว้จึงไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้
พ.ต.ต.ปิโยรส กล่าวด้วยว่า ผู้ต้องหาดังกล่าวยังมีพฤติกรรมบังคับผู้เสียหาย ซึ่งหากผู้เสียหายรายใดอยากกลับบ้านเกิดต้องค้าประเวณีหักหนี้สินจำนวน 400,000 บาท ให้ได้เสียก่อน ตนจึงซ้อนแผนหลอกให้นายดาลจีทนำหนังสือเดินทางของ น.ส.คาห์ดิชา และเพื่อนๆ ทั้ง 12 คน มาให้ดู โดยบอกว่าหากเป็นของจริงก็จะปล่อยตัวทั้งหมดไป เมื่อนายดาลจีทเดินทางมาถึงโรงพักจึงได้จับกุมตัว โดยมีผู้เสียหายทุกรายให้การเป็นพยานและร่วมกันชี้ตัวยืนยันความผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวนนายดาลจีทให้การว่าไม่เคยรู้จักกับหญิงสาวชาวอุซเบกิสถานทั้ง 13 คน ส่วนเรื่องที่นำหนังสือเดินทางมาให้ตำรวจตรวจสอบ เนื่องจากเป็นเพื่อนกับ นางนอชูชุค ซึ่งไหว้วานให้เดินทางเอามาให้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อหาให้นายดาลจีททราบก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ไปดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมขยายผลเร่งติดตามจับกุมตัวนางนอชูชุคที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป