ตำรวจนครบาล 7 รวบ 5 ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาร่วมกับผู้ต้องขังใน “เรือนจำเขาบิน” จ.ราชบุรี พร้อมของกลางยาบ้า 4.8 หมื่นเม็ด ยาไอซ์ 0.3 กัม และอาวุธปืน
วันนี้ (11 ธ.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอต ผบก.น.7 พ.ต.อ.พุฒิพงศ์ ภู่เพียนเลิศ ผกก.สน.ท่าพระ และ พ.ต.ต.ภาคภูมิ ระวิโรจน์ สว.สส.สน.ท่าพระ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแก๊งค้ายาบ้า ประกอบด้วย น.ส.วัจนา ทองกาพงษ์ อายุ 23 ปี ,นายกฤษณะ ศิริสาขา อายุ 29 ปี, นายสมภาร ศิริสาขา อายุ 26 ปี, นายสมพงษ์ ศิริสาขา อายุ 23 ปี และนางสุภาณี หุ่นทอง อายุ 28 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 48,100 เม็ด ยาไอซ์ 0.3 กรัม และอาวุธปืนออโตเมติก ยี่ห้อโคลต์ ขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีก 4 นัด โดยสามารถจับกุมทั้งหมดได้จากการสืบสวนขยายผลต่อกันเป็นทอด
พ.ต.ต.ภาคภูมิ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ท่าพระ สามารถจับกุมตัว น.ส.วัจนา พร้อมยาบ้า จำนวน 100 เม็ด ได้ที่บริเวณปากซอยเพชรเกษม 1 จึงควบคุมตัวมาสอบสวน โดย น.ส.วัจนา ซัดทอดว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของเเฟนหนุ่มชื่อ นายกฤษณะ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจค้นภายในห้องเลขที่ 308 สุวรรณอพาร์ทเมนท์ ถนนพุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม.พบ นายกฤษณะ นายสมภาร และ นายสมพงษ์ ซึ่งเป็นญาติกันพักอยู่ในห้อง จากการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน 48,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่จึงยึดไว้เป็นของกลาง
พ.ต.ต.ภาคภูมิ กล่าวต่อว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ไปสอบสวนที่โรงพักนั้น ปรากฏว่า นางสุภาณี ได้โทรศัพท์เข้ามาที่เบอร์มือถือ ของนายกฤษณะ เพื่อนัดหมายให้ไปพบกันที่บริเวณปากทางเข้าโรงแรมเวสต์อินท์ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 8 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. เจ้าหน้าที่จึงสวมรอยเดินทางไปแทนจากการตรวจค้นกระเป๋าของ นางสุภาณี พบยาไอซ์และอาวุธปืนอยู่ภายในจึงควบคุมตัวมาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีด้วย
จากการสอบสวน นายกฤษณะ ให้การว่า ตนมีอาชีพขับรถแท็กซี่ แต่รายได้ไม่พอใช้จ่ายจึงตัดสินใจขนยาบ้าให้เอเย่นต์เครือข่าย นายวุฒิ และ นายเล่าอู ซึ่งเป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติดอยู่ในเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี โดยเที่ยวก่อนมีคนขับรถนำยาบ้าจาก จ.อุดรธานี มาให้ตนนำไปส่งลูกค้าย่านพุทธมณฑล สาย 1 จำนวน 10 มัด ได้ค่าจ้างมัดละ 20,000 บาท แต่ครั้งนี้ยังไม่ทันจะได้ส่งยาก็มาถูกตำรวจจับกุมเอาไว้ได้เสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” แก่ผู้ต้องหาทุกราย ส่วน นางสุภาณี ถูกแจ้งเพิ่มเติมในข้อกล่าวหาครอบครองยาไอซ์ และ ครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป