สัตว์นรกกัดไม่เลิก! ยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่พันธมิตรฯ ใกล้เวทีภายในทำเนียบรัฐบาล บาดเจ็บหลายราย เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต การ์ดพันธมิตรฯรีบนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ไม่หนำใจลอบยิงระเบิดใส่ "เอเอสทีวี" อีก
วันนี้ (29 พ.ย.) เมื่อเวลา 23.50 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยใกล้เวทีทำเนียบรัฐบาล จนทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายราย โดยขณะนี้การ์ดพันธมิตรฯ กำลังนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลและในจำนวนผู้บาดเจ็บมีช่างกล้องของเอเอสทีวีด้วย
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุบริเวณหลังคาเต็นท์มีรอยถูกยิงเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ ห่างจากเวทีประมาณ 20 เมตร ส่วนบริเวณพื้นในที่เกิดเหตุพบสะเก็ดระเบิดเป็นเศษอลูมิเนียม พลาสติกและรอยเลือด โดยผู้ชุมนุมบาดเจ็บเล็กน้อย 47 คน อาการสาหัสอยู่ห้องไอซียูจำนวน 4 คน คือ 1.นางสาวกาญจนา หมื่นหนู อายุ 27 ปี มีอาการปอดฉีก แพทย์ต้องปั้มหัวใจ 2.นางจิตรา จินตนธรรม อายุ 57 ปี 3.นางสาวสุพรรณา ไม่ทราบนามสกุล และนางเพียงใจ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งหลังเกิดเหตุแพทย์อาสาและการ์ดพันธมิตรฯได้ทยอยนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งรพ.รามาธิบดี รพ.พระมงกฎเกล้าฯ และรพ.วชิระ
นางสาวหทัยรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผู้บาดเจ็บที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่จุดที่ระเบิดลงประมาณ 5 เมตร โดยนั่งอยู่กับเพื่อน 3-4 คน ตั้งแต่เวลา 1 ทุ่ม จนถึงช่วงที่เกิดเหตุตนเห็นแสงไฟแลบและระเบิดดังสนั่น ผู้ชุมนุมต่างก้มหมอบลงกับพื้นโดยตนถูกสะเก็ดระเบิดที่แขนขวา บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหลังมีเลือดไหล หลังจากนั้นแพทย์ก็ได้มาช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล
จากการสอบถามการ์ดพันธมิตรฯ คาดว่า คนร้ายยิงเอ็ม 79 เข้ามาเหมือนระเบิดครั้งก่อนและเป็นจุดใกล้เคียงที่ทำให้นายเจนกิจ กลัดสาคร พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.ชลบุรี เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดในทำเนียบรัฐบาล เมื่อเช้ามืดวันที่ 20 พ.ย.เบื้องต้นสันนิษฐานคนร้ายว่าน่าจะยิงมาจากทางด้านข้างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เพื่อการเกษตร (ธ.ก.ส.) ใกล้อาคารก่อสร้างของเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพณิชยการพระนคร หรือบริเวณตรอกใกล้วัดเบญจมบพิตร โดยปืนชนิดเอ็ม 79 นั้นเป็นอาวุธสงครามที่ตำรวจตระเวนชายแดนมีความถนัดและชำนาญในการใช้มากที่สุด
หลังจากนั้นเมื่อเวลา 00.15 น.ที่ผ่านมา คนร้ายได้ยิงระเบิดเข้าใส่สำนักงานเอเสทีวีที่บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม.จำนวน 2 ลูก พร้อมกับยิงอาวุธสงครามคาดว่าเป็นปืนอาก้าเข้าใส่จากทางแม่น้ำเจ้าพระยาหลายนัด
จากการสอบถาม คนในพื้นที่ซึ่งทำหน้าที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ กล่าวว่า คนร้ายที่ลอบก่อเหตุนั่งเรือมากัน 2 ลำ โดยอาศัยอำพรางกับความมืดล่องเรือทางริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณด้านหลังสำนักงานเอเอสทีวี ก่อนที่จะยิงระเบิดใส่สำนักงานเอเสทีวี 2 ลูก และยิงอาวุธปืนใส่อีกหลายนัดจนเสียงดังสนั่น ก่อนที่จะนั่งเรือหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของสำนักงานเอเอสทีวี ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยการนำแผงเหล็กมากั้นปิดถนนพระอาทิตย์ บริเวณด้านหน้าสำนักงานเอเอสทีวีอีกด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 00.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม นำโดย พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า มีแต่เสียงดัง ไม่มีผู้บาดเจ็บ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันเอาไว้ โดยเช้าวันนี้จะมาดูจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาร่องรอยเหตุระเบิดครั้งนี้
วันนี้ (29 พ.ย.) เมื่อเวลา 23.50 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยใกล้เวทีทำเนียบรัฐบาล จนทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายราย โดยขณะนี้การ์ดพันธมิตรฯ กำลังนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลและในจำนวนผู้บาดเจ็บมีช่างกล้องของเอเอสทีวีด้วย
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุบริเวณหลังคาเต็นท์มีรอยถูกยิงเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ ห่างจากเวทีประมาณ 20 เมตร ส่วนบริเวณพื้นในที่เกิดเหตุพบสะเก็ดระเบิดเป็นเศษอลูมิเนียม พลาสติกและรอยเลือด โดยผู้ชุมนุมบาดเจ็บเล็กน้อย 47 คน อาการสาหัสอยู่ห้องไอซียูจำนวน 4 คน คือ 1.นางสาวกาญจนา หมื่นหนู อายุ 27 ปี มีอาการปอดฉีก แพทย์ต้องปั้มหัวใจ 2.นางจิตรา จินตนธรรม อายุ 57 ปี 3.นางสาวสุพรรณา ไม่ทราบนามสกุล และนางเพียงใจ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งหลังเกิดเหตุแพทย์อาสาและการ์ดพันธมิตรฯได้ทยอยนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งรพ.รามาธิบดี รพ.พระมงกฎเกล้าฯ และรพ.วชิระ
นางสาวหทัยรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผู้บาดเจ็บที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนนั่งอยู่จุดที่ระเบิดลงประมาณ 5 เมตร โดยนั่งอยู่กับเพื่อน 3-4 คน ตั้งแต่เวลา 1 ทุ่ม จนถึงช่วงที่เกิดเหตุตนเห็นแสงไฟแลบและระเบิดดังสนั่น ผู้ชุมนุมต่างก้มหมอบลงกับพื้นโดยตนถูกสะเก็ดระเบิดที่แขนขวา บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหลังมีเลือดไหล หลังจากนั้นแพทย์ก็ได้มาช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาล
จากการสอบถามการ์ดพันธมิตรฯ คาดว่า คนร้ายยิงเอ็ม 79 เข้ามาเหมือนระเบิดครั้งก่อนและเป็นจุดใกล้เคียงที่ทำให้นายเจนกิจ กลัดสาคร พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.ชลบุรี เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดในทำเนียบรัฐบาล เมื่อเช้ามืดวันที่ 20 พ.ย.เบื้องต้นสันนิษฐานคนร้ายว่าน่าจะยิงมาจากทางด้านข้างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เพื่อการเกษตร (ธ.ก.ส.) ใกล้อาคารก่อสร้างของเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพณิชยการพระนคร หรือบริเวณตรอกใกล้วัดเบญจมบพิตร โดยปืนชนิดเอ็ม 79 นั้นเป็นอาวุธสงครามที่ตำรวจตระเวนชายแดนมีความถนัดและชำนาญในการใช้มากที่สุด
หลังจากนั้นเมื่อเวลา 00.15 น.ที่ผ่านมา คนร้ายได้ยิงระเบิดเข้าใส่สำนักงานเอเสทีวีที่บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม.จำนวน 2 ลูก พร้อมกับยิงอาวุธสงครามคาดว่าเป็นปืนอาก้าเข้าใส่จากทางแม่น้ำเจ้าพระยาหลายนัด
จากการสอบถาม คนในพื้นที่ซึ่งทำหน้าที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ กล่าวว่า คนร้ายที่ลอบก่อเหตุนั่งเรือมากัน 2 ลำ โดยอาศัยอำพรางกับความมืดล่องเรือทางริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณด้านหลังสำนักงานเอเอสทีวี ก่อนที่จะยิงระเบิดใส่สำนักงานเอเสทีวี 2 ลูก และยิงอาวุธปืนใส่อีกหลายนัดจนเสียงดังสนั่น ก่อนที่จะนั่งเรือหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของสำนักงานเอเอสทีวี ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยการนำแผงเหล็กมากั้นปิดถนนพระอาทิตย์ บริเวณด้านหน้าสำนักงานเอเอสทีวีอีกด้วย
ต่อมาเมื่อเวลา 00.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม นำโดย พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า มีแต่เสียงดัง ไม่มีผู้บาดเจ็บ จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันเอาไว้ โดยเช้าวันนี้จะมาดูจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาร่องรอยเหตุระเบิดครั้งนี้