ตำรวจทำพิลึก ตั้งด่านสกัดค้นรถยนต์การ์ดพันธมิตรฯ แล้วนำปืนอัดลมซึ่งเป็นเพียงสิ่งเทียมอาวุธปืนที่จับได้ตั้งประจานแถลงข่าวกลางถนน ทั้งที่ ก.ตร.มีคำสั่งห้ามประจานผู้ต้องหา และเป็นเพียงสิ่งเทียมอาวุธปืน ซึ่งไม่มีความผิดตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.20 น.วันนี้ (29 พ.ย.) ตำรวจ สน.ชนะสงคราม นำโดย พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้นำตำรวจตั้งด่านสกัดบริเวณถนนสามเสน ห่างจากแยกบางขุนพรหม ประมาณ 50 เมตร ได้ตรวจค้นรถยนต์โตโยต้า พร้อมควบคุมตัวผู้ขับรถยนต์ดังกล่าว อ้างว่า ชื่อ บังหมัด มาจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ในรถยนต์ดังกล่าวพบผ้าพันคอเขียนว่า “การ์ดอาสาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ปืนอัดลมบีบีกันจำนวน 1 กระบอก กระบองจำนวน 2 อัน
ระหว่างผู้สื่อข่าวไปถึง พ.ต.อ.ขิง ได้นำหลักฐานที่ค้นได้มาวางไว้หน้ารถยนต์บริเวณที่จับกุม โดยวางอาวุธปืนปลอมและไม้กระบองบนผ้าพันคอที่เขียนว่า “การ์ดอาสา พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” แล้วแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในบริเวณที่จับกุม พร้อมอธิบายว่าปืนดังกล่าวเป็นปืนชนิดใด เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าตำรวจแจ้งข้อหาใด พ.ต.อ.ขิง ระบุว่า เบื้องต้นจะแจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาต
ทั้งที่ปืนชนิดดังกล่าวเป็นเพียงสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ใช้ในการเล่นกีฬา หรือสันทนาการก็ได้ และไม่มีกฎหมายห้ามในการครอบครองสิ่งเทียมอาวุธปืนแต่อย่างใด ทั้งนี้ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 52 ห้ามมิให้ผู้ใดสั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่งสิ่งเทียมอาวุธปืน เว้นแต่ได้รับจากอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่เท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับนำมาประจานให้เห็นเหมือนกับว่า ผู้ต้องหาพาอาวุธปืนร้ายแรง
ผู้สื่อข่าวจึงแจ้งว่า ตำรวจไม่มีอำนาจในการแถลงข่าวในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้เคยมีหนังสือของ ก.ตร.ว่า ห้ามนำผู้ต้องหามาประจาน โดยต้องคำนึงถึงสิทธิตามรัฐธรรมนูญและหลักสิทธิมนุษยชน
ผู้สื่อข่าวจึงแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควรนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนที่โรงพัก หากพบว่า ผู้ต้องหาคนดังกล่าวมีความผิด และเป็นการ์ดพันธมิตรฯ จริงก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างเต็มที่ แต่ได้สร้างความไม่พอใจให้กับ ผกก.ชนะสงคราม โดยได้ยกโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปผู้สื่อข่าว และขณะนี้ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าวไปสอบสวนที่ สน.ชนะสงคราม โดยทางทนายความของพันธมิตรฯ กำลังเดินทางไปร่วมสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.20 น.วันนี้ (29 พ.ย.) ตำรวจ สน.ชนะสงคราม นำโดย พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้นำตำรวจตั้งด่านสกัดบริเวณถนนสามเสน ห่างจากแยกบางขุนพรหม ประมาณ 50 เมตร ได้ตรวจค้นรถยนต์โตโยต้า พร้อมควบคุมตัวผู้ขับรถยนต์ดังกล่าว อ้างว่า ชื่อ บังหมัด มาจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ในรถยนต์ดังกล่าวพบผ้าพันคอเขียนว่า “การ์ดอาสาพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” ปืนอัดลมบีบีกันจำนวน 1 กระบอก กระบองจำนวน 2 อัน
ระหว่างผู้สื่อข่าวไปถึง พ.ต.อ.ขิง ได้นำหลักฐานที่ค้นได้มาวางไว้หน้ารถยนต์บริเวณที่จับกุม โดยวางอาวุธปืนปลอมและไม้กระบองบนผ้าพันคอที่เขียนว่า “การ์ดอาสา พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” แล้วแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในบริเวณที่จับกุม พร้อมอธิบายว่าปืนดังกล่าวเป็นปืนชนิดใด เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าตำรวจแจ้งข้อหาใด พ.ต.อ.ขิง ระบุว่า เบื้องต้นจะแจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนโดยไม่มีใบอนุญาต
ทั้งที่ปืนชนิดดังกล่าวเป็นเพียงสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ใช้ในการเล่นกีฬา หรือสันทนาการก็ได้ และไม่มีกฎหมายห้ามในการครอบครองสิ่งเทียมอาวุธปืนแต่อย่างใด ทั้งนี้ พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 52 ห้ามมิให้ผู้ใดสั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่งสิ่งเทียมอาวุธปืน เว้นแต่ได้รับจากอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่เท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับนำมาประจานให้เห็นเหมือนกับว่า ผู้ต้องหาพาอาวุธปืนร้ายแรง
ผู้สื่อข่าวจึงแจ้งว่า ตำรวจไม่มีอำนาจในการแถลงข่าวในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้เคยมีหนังสือของ ก.ตร.ว่า ห้ามนำผู้ต้องหามาประจาน โดยต้องคำนึงถึงสิทธิตามรัฐธรรมนูญและหลักสิทธิมนุษยชน
ผู้สื่อข่าวจึงแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควรนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนที่โรงพัก หากพบว่า ผู้ต้องหาคนดังกล่าวมีความผิด และเป็นการ์ดพันธมิตรฯ จริงก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างเต็มที่ แต่ได้สร้างความไม่พอใจให้กับ ผกก.ชนะสงคราม โดยได้ยกโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปผู้สื่อข่าว และขณะนี้ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาคนดังกล่าวไปสอบสวนที่ สน.ชนะสงคราม โดยทางทนายความของพันธมิตรฯ กำลังเดินทางไปร่วมสอบสวน