xs
xsm
sm
md
lg

“นวย นปช.” ขู่พันธมิตรฯ ทำผิดก่อการร้าย-ถูกยึดทรัพย์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.
“อำนวย” ตำรวจสาย นปช.กล่าวหาพันธมิตรฯ รายวัน ระบุยอดผู้ชุมนุมลดลงคงอยู่ทำเนียบฯ 500 คน ดอนเมือง 300-500 คน สุวรรณภูมิ 1 หมื่นคน พร้อมขู่การชุมนุมทำผิดก่อการร้าย ผิดกฎหมายฟอกเงิน ถูกยึดทรัพย์ ไม่เว้นผู้สนับสนุน ผู้ส่งเงินให้จะต้องถูกตรวจสอบ ขณะที่ นปช.วิทยุแท็กซี่ จัดกำลังตำรวจดูแลอย่างเต็มที่

วันนี้ (27 พ.ย.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ในฐานะรองโฆษก บช.น.กล่าวถึงการดูแลความเรียบร้อยการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ตำรวจนครบาลประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องซึ่งการดูแลความปลอดภัยสนามบินดอนเมืองนั้น มอบหมายให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จัดกำลังตำรวจเข้าไปดูแลไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงป้องกันมือที่ 3 แทรกแซงสถานการณ์ ซึ่งจากการประเมินยอดผู้ชุมนุมนั้นพบว่าเหลือน้อยมาก โดยเฉพาะในทำเนียบรัฐบาลมีประมาณ 500 คน ดอนเมืองเหลือ 300-500 คน จะมีมากก็ที่สุวรรณภูมิประมาณ 1 หมื่นคน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังสั่งการให้จัดกำลังสายตรวจเข้าไปตรวจตราภายในซอยวิภาวดี 3 ที่ตั้งของสถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ และสถานีวิทยุชุมชนคนจริงใจ ซอยลาดพร้าว 20 เกรงว่าจะมีการล้างแค้นกันเกิดขึ้น

พล.ต.ต.อำนวย ยังกล่าวถึงส่วนเหตุการณ์คนร้ายระดมยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ด้านหลัง บช.น.นั้น ตำรวจถูกยิงข้างเดียว เหตุเกิดประมาณ 02.50 น. ตำรวจจากจังหวัดอุตรดิตถ์ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 รักษาการบริเวณแยกสวนมิกสกวัน มีคนร้ายใช้ปืนกล ยิงเป็นชุด แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นปืนกลที่หายจากทำเนียบหรือไม่ เพราะที่หายไปนั้นเกือบ 10 กระบอก และก่อนหน้านี้สามารถจับกุมได้ที่ สน.ดินแดง เป็นปืนอินแกรม และมีการเสริมกับปืนกล เป็นปืนพก ยิงทีละนัด จากรายงานของตำรวจที่ถูกกระทำ ความเสียหายเกิดกับรถบรรทุกผู้ต้องหา ยังดีว่ามีรถจอดบัง มีแต่แผงเหล็ก ไม่มีบังเกอร์ ไม่มีสปอตไลต์ส่อง หากตำรวจนั่งอยู่ตัวเปล่าๆ ก็คงโดนไปแล้ว หากจับคนร้ายได้ก็ต้องตั้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน

“ผมไม่ได้พูดมาก ยิงมาจากฝ่ายพันธมิตรฯ แต่เจ้าหน้าที่ พฐ.จะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุว่าแนวกระสุนมาจากทิศทางไหน และขณะนี้กำลังดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิด แต่คิดว่าคงไม่สามารถจับภาพคนร้ายได้ เพราะเชื่อว่าคนร้ายน่าจะรู้มุมกล้องเช่นกัน” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว

รองโฆษก บช.น.ยังกล่าวถึงการที่กลุ่มพันธมิตรฯ ยึดสนามบินสุวรรณภูมิว่า การประชุมที่ บก.ทบ.เมื่อวันที่ 26 พ.ย. กลุ่มภาคธุรกิจ เอกชนได้รายงานสถานการณ์เป็นกังวลอย่างมากเนื่องจากสนามบิสุวรรณภูมิถูกยึด หอบังคับการบินก็ถูกควบคุม กลายเป็นว่าขณะนี้ประเทศไทยถูกปิดไปแล้ว เศรษฐกิจเสียหายอย่างร้ายแรง หากเป็นอย่างนี้ประเทศไทยต้องดิ่งลงเหวอย่างแน่นอน อยากวิงวอนว่าการชุมนุมอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ ที่พูดกันมาหลายเดือนนั้นขณะนี้มีการพูดต่อไปว่ามีการพัฒนาเข้มข้นขึ้น นี่ไม่ใช่การพัฒนาแล้ว แต่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลงจากการชุมนุม ล่อแหลม เป็นการก่อการร้าย เพราะส่วนนั้นจะเป็นอันตรายต่อประเทศชาติ และเป็นความผิดที่ร้ายแรง

ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 135/1 ผู้ใดกระทำการใดเป็นการผิดอาญาดังต่อไปนี้ ในอนุ 2 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 135/1 กระทำการใดก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ระบบการขนส่งสาธารณะ และการกระทำนั้นเป็นการประทำเพื่อมุ่งหมายขู่เข็ญ หรือบังคับรัฐบาลไทยให้กระทำการหรือไม่กระทำการใด อันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง หรือเพื่อสร้างความปั่นป่วนหรือความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน ผู้นั้นกระทำผิดฐานก่อการร้าย โทษถึงขั้นประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือ 3 ถึง 20 ปี สนามบินสุวรรณภูมิถือเป็นสนามบินนานาชาติ เป็นระบบขนส่งสาธารณะ การปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เครื่องบินไม่สามารถลงได้ ผู้ชุมนุมต้องคิดให้ดีและพึงตระหนักว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่ และผิดหรือไม่

“อีกทั้งการกระทำผิดตามมาตรานี้เป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน เพราะฉะนั้นแปลว่าหากผิดตามมาตรานี้จะถูกกฎหมายฟอกเงิน คือ จะถูก ปปง.เข้ามาตรวจสอบทรัพย์สิน รวมถึงการยึดทรัพย์ เพราะฉะนั้น ผู้สนับสนุน ผู้กระทำผิดมูลฐานนี้ ส่งเงินให้อย่างไรก็แล้วแต่จะต้องถูกตรวจสอบ ผมจึงวิงวอนแกนนำฯ ให้พิจารณา อย่าก้าวล่วงให้จนถึงผิดความผิดตามมาตรานี้เลย การที่ศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวนั่นแหละเปรียบเสมือนบันไดให้ท่านออกมา ผมไม่ได้ขู่ เพียงแค่พูดตามตัวบทกฎหมาย” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว

นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ที่บริเวณวิภาวดีซอย 3 ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของ สถานีวิทยุชุมชนคนรักแท็กซี่ ตำรวจได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมรถขังผู้ต้องหาไปจอดไว้ พร้อมกับปล่อยข่าวว่า จะมีพันธมิตรฯมาทำร้าย ซึ่งการกระทำดังกล่าวของตำรวจ เป็นการดูแลป้องกันกลุ่มแท็กซี่อย่างเต็มที่
กำลังโหลดความคิดเห็น