ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 26 ปี 11 เดือน เฒ่าปืนโหดอดีตพนักงาน กฟน.ยิง 2 พ่อลูกดับ เหตุแค่จอด ติดเครื่องรถ จยย.ขวางทางหน้าบ้าน
วันนี้ (26 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 814 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ ปน.426/2551 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายอุทิศ ลิ้มประเสริฐ อายุ 70 ปี อดีตพนักงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง เป็นจำเลยในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดย ไม่มีเหตุอันควร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 80, 91, 288, 289, 371 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4, 8 ทวิ, 72 ทวิ
คดีนี้โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.51 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.50 เวลากลางวัน จำเลยได้บังอาจพาอาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก เครื่องหมายทะเบียน กท 3917792 เลขหมายประจำปืน 9582 ซีแซด จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุนปืน จำนวน 1 อัน และเครื่องกระสุนปืน อันเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนตามกฎหมาย ใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุได้ โดยพาติดตัวไปที่หน้าบ้านเลขที่ 128/36 ซอยสังคมสงเคราะห์ 24 (ซอยคำเปรม) ถนนโชคชัย 4 แยก 6 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. โดยไม่มีเหตุอันควร และมีเจตนายิงนายชัยฤทธิ์ หรือตี๋ ชัยฤกษ์วิลัยกุล หรือชัยฤกษ์วิไลกุล จำนวนหลายนัด โดยไตร่ตรองไว้ก่อน กระสุนปืนยิงถูกที่บริเวณอกขวา เป็นเหตุให้นายชัยฤทธิ์ ถึงแก่ความตายสมดังเจตนา ขณะผู้ตายนั่งค่อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมช สีฟ้า ยตษ 622 กรุงเทพฯ ที่ติดเครื่องอยู่ โดยคมกระสุนยังพุ่งไปโดน ด.ช.ภาณุวัฒน์ ชัยฤกษ์วิไลกุล ลูกชายวัย 6 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนวัดลาดพร้าว ที่นั่งซ้อนท้ายอยู่เบาะหลัง เสียชีวิตอีก 1 คน เมื่อถูกยิงเข้าที่ลิ้นปี่ทะลุหลัง 1 นัด
นอกจากนี้ จำเลยได้ยิงนางรุ้งลาวัลย์ หรือติ๋ม เย็นกาย ภรรยาผู้ตาย ที่ออกจากบ้านมาดูเหตุการณ์ ถูกยิงที่บริเวณอกซ้าย หน้ารักแร้ข้างขวา แต่รอดตายหวุดหวิด ทั้งนี้สาเหตุเกิดจากจำเลยไม่พอใจที่ นายชัยฤทธิ์ ชอบนำรถที่ซ่อมมาจอดขวางหน้าบ้านตนเอง จนเคยยิงปืนขู่ขึ้นฟ้ามาแล้ว ก่อนเกิดเหตุจำเลยโกรธเคืองที่นายชัยฤทธิ์ติดเครื่องรถจักรยานยนต์ไว้ส่งเสียงดังจึงคว้าปืนยิงดังกล่าว ขอให้ลงโทษตามความผิด
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานจากการนำสืบของพยานโจทก์จำเลยแล้วเห็นว่า โจทก์มีพยานซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของผู้ตาย กำลังกวาดลานบ้านอยู่ในวันเกิดเหตุซึ่งเป็นผู้ไม่ได้มีส่วนได้เสียกับเหตุการณ์ เบิกความว่าจำเลยเป็นผู้ลงมือใช้อาวุธปืนยิงนายชัยฤทธิ์ และด.ช.ภาณุวัฒน์ จนเสียชีวิต ฟังประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลย แล้วรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง
ส่วนที่จำเลยขอให้ศาลลงโทษสถานเบานั้น ศาลเห็นว่าโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานมาเบิกความยืนยันได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายโดยไต่ตรองไว้ก่อน ซึ่งคำให้การในชั้นสอบสวนจำเลยให้การเพียงว่า มีปากเสียงกันเกี่ยวกับเรื่องที่ผู้ตายชอบเปิดเพลงเสียงดัง บางครั้งก็นำรถยนต์มาซ่อมหน้าบ้าน ทำให้ขวางทางเข้าออก เมื่อบอกให้ผู้ตายนำไปจอดที่อื่นผู้ตายก็ไม่ยอม จนถึงวันเกิดเหตุทนไม่ได้จึงใช้อาวุธปืนบุกเข้าไปยิงผู้ตายถึงบ้าน คำให้การของจำเลยรับฟังได้ว่า จำเลยและผู้ตายมีปัญหาเรื่องการเปิดเครื่องขยายเสียง และเรื่องที่จอดรถขวางทางเข้าออกหน้าบ้าน เหตุที่ทะเลาะกันไม่ใช่เหตุร้ายแรง และหากมีเจตนาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คงไม่บุกไปยิงผู้ตายในตอนกลางวัน แต่เหตุที่เกิดขึ้น เป็นอารมณ์โกรธของผู้ตายที่ไม่ได้ทำการวางแผนไว้เป็นลำดับขั้นตอน พฤติการณ์แห่งคดีบ่งชี้ไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายและบุตรชาย
พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย ความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จำเลยรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้เป็นเวลา 26 ปี 11 เดือน ส่วนข้อหาอื่นให้ยก
เฒ่ายิงยกครัวรับสารภาพ แต่ไม่ขอทำแผนฯ
เฒ่าฆ่าล้างครัวดอดมอบตัวแล้ว ตร.ค้านประกัน
เฒ่าฆ่าล้างครัวสะกิดญาติติดต่อมอบตัวตำรวจโชคชัย
เฒ่าอารมณ์ร้ายฆ่ายกครัวเพื่อนบ้านดับพร้อมลูกวัย 7 ขวบ สาเหตุขี้ปะติ๋ว!