ตำรวจสืบสวนนครบาล 5 ตามรวบหนุ่ม นศ.ราชภัฏ-โปรแกรมเมอร์สมาชิกแก๊งทุบกระจกรถ หลังตระเวนก่อเหตุมาแล้วนับไม่ถ้วน สารภาพเลือกลงมือเฉพาะรถหรู กระจกใส ก่อนจะเอาทรัพย์สินที่ได้มาไปแลกยาไอซ์-เที่ยวผู้หญิง
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (25 พ.ย.) พล.ต.ต.โชคชัย ดีประเสริฐวิทย์ ผบก.น.5 พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สืบสวน บก.น.5 พ.ต.ท.เอกวีร์ พงศ์สร้อยเพ็ชร รอง ผกก.สืบสวน บก.น.5 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายกฤชนันท์ หรือต้น อัครวงศ์วิฑูรย์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160 ซอยลาดพร้าว 58 แขวงและเขตวังทองหลาง นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม และนายกฤษณ์ หรือต่อ ลิ่มจุฬารัตน์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/202-203 หมู่ 10 แขวงและเขตลาดพร้าว อาชีพโปรแกรมเมอร์ พร้อมของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนัก 2.8 กิโลกรัม ยาไดอาซีแพม 34 เม็ด กระสุนปืน 5 นัด รถเก๋งยี่ห้อมาสด้า 3 หมายเลขทะเบียน สช-2299 กทม. 1 คัน คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และอุปกรณ์งัดแงะอีก 1 ชุด
พ.ต.อ.สมบัติ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายหลายรายเข้ามาร้องเรียนว่า ถูกกลุ่มคนร้ายตระเวนทุบกระจกรถยนต์แล้วนำเอาทรัพย์สินไป โดยจะเลือกเฉพาะรถยนต์ที่มีราคาแพง จึงได้ทำการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนทราบว่า คนร้ายกลุ่มดังกล่าวจะใช้รถของตัวเองออกตระเวนหาเหยื่อ โดยจะเลือกเฉพาะรถยนต์ที่มีราคาแพง ฟิล์มกระจกรถใส เพื่อสะดวกต่อการใช้ดอกสว่าน หรือไขควงทำการทุบทำลายกระจก เมื่อกระจกร้าว ก็จะใช้ถุงมือที่เตรียมมาสวมใส่แล้วทำการผลักกระจกให้แตกออก จากนั้นขนเอาทรัพย์สินที่มีค่าภายในรถไป
พ.ต.อ.สมบัติ กล่าวต่อว่า คนร้ายกลุ่มนี้ได้ตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ มากมาย โดยมักเลือกช่วงเวลากลางคืนเพื่อความสะดวกในการลงมือ ก่อนถูกจับกุมก็ตระเวนลักทรัพย์ในลักษณะนี้มา 11 ครั้ง ล่าสุดได้ทำการลักทรัพย์จากรถเบนซ์ของนางชมพร โลห์วัชรินทร์ เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดินระดับ 9 ซึ่งจอดไว้ที่บริเวณลานจอดรถห้างคาร์ฟูร์ สาขาลาดพร้าว ภายหลังจากได้ทรัพย์สินไปแล้วก็จะนำเอาไปแลกยาไอซ์มาเพื่อเสพกันในกลุ่ม หรือไม่ก็เอาเงินแบ่งกันเอาไปเที่ยว
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ทั้งสองคนมีเป็นสมาชิกของแก๊งดังกล่าวจึงเข้าจับกุมนายกฤชนันท์ได้ที่ กลางซอยลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน และจับกุมนายกฤษณ์ได้ที่ซอยอารีย์สัมพันธ์ 1 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี และขณะนี้ก็กำลังขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอยู่อีกประมาณ 7 คน
จากการสอบสวน นายกฤชนันท์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเพิ่งตัดสินใจเข้าแก๊งมาได้ประมาณ 6 เดือน สาเหตุที่ทำไปก็เพราะความคึกคะนอง ประกอบกับเงินที่ได้รับจากทางบ้านก็ไม่เพียงพอ โดยในการก่อเหตุแต่ละครั้ง ตนจะทำหน้าที่ขับรถไปจอดเทียบรถของเหยื่อที่เป็นเป้าหมาย จากนั้นนายกฤษณ์ และเพื่อนในกลุ่มอีก 7 คน จะช่วยกันลงมือ เมื่อได้ทรัพย์สินมาก็จะนำไปแลกยาไอซ์ หรือไม่ก็จะแบ่งมาให้ตนครั้งละ 1,000-2,000 บาท โดยหัวหน้ากลุ่มคือ นายเอส และ นายเอก ที่กำลังหลบหนีอยู่จะเป็นผู้มอบให้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ส่วนนายกฤษณ์ ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มคือมียาไอซ์ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, มียาไดอาซีแพน ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน ส่งพนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่ดำเนินคดีต่อไป
