xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เร่งเครื่องปรับงานด้านข่าวล้างภาพลบให้ ปชช.เชื่อมั่น

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตร.ดึงศูนย์ปฏิบัติการข่าวสาร ช่วยซักฟอกล้างภาพลบของตำรวจ หวังให้ประชาชนยอมรับ และไม่ให้ถูกเกลียดชัง ไม่ต้องตกเป็นจำเลยของสังคม

วันนี้ (7 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ห้องประชุม 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร.พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก จเรตำรวจแห่งชาติ (สบ 8) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ฯลฯ ร่วมประชุมคณะกรรมศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์ร่วมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศตร.ตร.) ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อรองรับการปฏิบัติงานในคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วมของรัฐบาล โดยใช้เวลาประชุมร่วม 3 ชั่วโมง

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวภายหลังการประชุมว่า ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ตั้งขึ้นตามคำสั่ง ตร.ที่ 730/2551 ตั้ง ศตร.ตร.ขึ้นเป็นศูนย์ปฏิบัติการข่าวสาร ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะที่มีการชุมนุมเรียกร้องต่างๆ ในขณะนี้ โดยมีหน้าที่ตรวจสอบประเมินแนวโน้มสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน และเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ เสนอแนะ ความเห็นต่อ เสนอมาตรการ ผบ.ตร.และประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการวางแผน เตรียมการ และจัดหน่วยงานเพื่อติดตามสถานการณ์และแก้ไขความไม่สงบที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้การรักษาความสบเรียบร้อยภายในประเทศ การรักษาความปลอดภัยของประชาชน เป็นไปอย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ มีหน้าที่ติดตามตรวจสอบ การนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน รวมทั้งดำเนินการเกี่ยวกับการปฏิบัติการข่าวสารในส่วนของ ตร.อย่างเหมาะสม ซึ่งจุดเน้นสำคัญคือการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ตรงไปตรงมาแก่ประชาชน เกี่ยวกับการชุมนุมที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ

“วันนี้ได้พูดคุยกันถึงรูปแบบการนำเสนอข้อมูลข่าวสารจากศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ มายังศูนย์แห่งนี้ โดยเน้นติดตามข่าวสาร ข้อมูลต่างๆ อย่างเป็นระบบ ซึ่งจะประเมินการให้ข้อมูลข่าวสารต่อสื่อมวลชนที่ต้องไม่ทำให้เกิดภาพลบต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากที่ผ่านมา แม้ตำรวจทำตามเงื่อนไขกฎหมาย ตามหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่ประชาชน แต่ผลที่ออกมากลับเป็นในทางตรงข้ามเราตกเป็นจำเลย ซึ่งหากเป็นจำเลยทางกฎหมายเราสามารถเอาพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริงมาต่อสู้ได้ แต่การตกเป็นจำเลยสังคม เราไม่สามารถเอาข้อเท็จจริงไปหักล้างได้อย่างทันท่วงที ที่ผ่านมา ตำรวจต้องทำงานภายใต้การดูถูกเกลียดชัง ซึ่งคณะกรรมการได้คุยกันเพื่อหาแนวทางการนำเสนอข้อเท็จจริงของตำรวจผ่านสื่อทุกแขนงให้สังคมได้รับความความจริงมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเราตั้งรับมาโดยตลอด” พล.ต.ต.สุรพล กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น