“ลอยกระทง” ตร.คุมเข้มเขตปลอดวัยรุ่นพลอดรัก-ห้ามจุดพลุอันตราย

ตำรวจวางมาตรการรับมือวัน “ลอยกระทง” ตรวจเข้มสถานที่สาธารณะป้องกันหนุ่มสาวแอบพลอดรัก ลุยปราบผู้ขาย-ผู้เล่นประทัด ดอกไม้เพลิง ที่เข้าข่ายเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมอำนวยความสะดวกการจราจรทั้งทางบก ทางน้ำ แก่นักท่องเที่ยว

วันนี้ (4 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สัญชัย สุนทรบุระ ผบก.สท.กล่าวถึงมาตรการป้องกันอาชญากรรมและอำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2551 ว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ได้กำหนดมาตรการป้องกันอาชญากรรมและอำนวยความสะดวกการจราจรในช่วงเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 2551 ให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องระดมกวาดล้างอาชญากรรมช่วงก่อนและหลังเทศกาลลอยกระทง ตั้งแต่วันที่ 5-14 พ.ย.2551 เพื่อเป็นการป้องกันอาชญากรรมต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากกลุ่มมิจฉาชีพ และป้องกันอันตรายอันเกิดจากการเล่นดอกไม้เพลิง

พล.ต.ต.สัญชัย กล่าวว่า ด้านการป้องกันให้เพิ่มการตรวจสอบกวดขันสถานที่เก็บวัตถุที่ใช้ในการผลิต การขนย้ายสารเคมีที่ใช้ในการผลิตดอกไม้เพลิง พลุ ประทัดให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด และปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 พร้อมทั้งกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ทั้งทางบก ทางน้ำ มาตรการในการระงับเหตุต่างๆ โดยให้ซักซ้อมการระงับเหตุอันตราย และการช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว โดยประสานการปฏิบัติกับฝ่ายปกครอง ผู้ประกอบการ มูลนิธิต่างๆ ในพื้นที่ที่

พล.ต.ต.สัญชัย กล่าวยังกล่าวถึงการปราบปรามกวดขันจับกุมผู้ผลิต ว่า ผู้จำหน่ายดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งสอดส่องดูแลผู้ผลิต ผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้เล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัดในลักษณะที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน รวมถึงการเล่นที่ก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่ประชาชนอย่างจริงจัง หากพบผู้เล่นที่ฝ่าฝืนกฎหมายจะจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที รวมทั้งสอดส่องดูแลตามสถานที่สาธารณะต่างๆ เป็นกรณีพิเศษ เพื่อป้องกันหนุ่มสาวแอบแฝงใช้เป็นที่พลอดรัก หรือกระทำความผิดทางเพศ

พล.ต.ต.สัญชัย กล่าวอีกว่า ในการอำนวยความสะดวกและป้องกันอุบัติเหตุการจราจร ก็ให้อำนวยความสะดวกและจัดการจราจรในบริเวณสถานีขนส่ง สถานีรถไฟทุกแห่ง เส้นทางหลัก เส้นทางรองที่คาดว่าจะมีปัญหาการจราจร หลีกเลี่ยงการตั้งจุดตรวจในพื้นที่ที่มีกาจราจรคับคั่ง เว้นแต่เป็นการตั้งจุดตรวจเพื่อตรวจวัดแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือในการนำส่งผู้เจ็บป่วยระหว่างการเดินทาง หรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุไปยังสถานพยาบาลให้เร็วที่สุด รวมถึงจัดรถยกช่วยเหลือกรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือมีสิ่งกีดขวางการจราจรด้วย