เจ้าหน้าที่กรมธุรกิจพลังงานรุดตรวจปั๊ม ปตท.หาเหตุไฟดูดอาจารย์ธรรมศาตร์เสียชีวิต พบตู้เติมลมไม่ได้มาตรฐาน ล้มลงขณะเกิดฝนตกจนทำให้ไฟฟ้ารั่ว คาดผู้ตายล้มไปโดนตู้ดังกล่าวจนทำให้ไฟดูด ทาง ตร.ยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาใคร รอสอบปากคำที่เกิดเหตุและผลชันสูตรศพอีกครั้ง ด้าน ปตท.อ้าแขนรับผิดพร้อมดูแลผู้เสียชีวิตให้ดีที่สุด
วันนี้ (22 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่จากกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่จากบริษัท ปตท.เดินทางมาตรวจสอบปั๊มน้ำมัน ปตท.ข้างกองพันทหารราบที่ 1 ร.อ.ถนนวิภาวดี แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ที่เกิดเหตุไฟฟ้าจากตู้เติมลมรั่วจนทำให้ นายรพีพงศ์ สุวรรณวรางกูร อายุ 31 ปี อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เสียชีวิตอยู่ภายในปั๊ม ก็พบว่าทางปั๊มได้ยกตู้เติมลมที่ล้มออกไปแล้ว พร้อมกับนำป้าย “ขออภัยเครื่องขัดข้องงดใช้งาน” มาแขวนไว้ที่ตู้ที่เหลืออีก 2 ตู้
หลังจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 1 ชั่วโมง นายธานินทร์ มุสิกวัตร เจ้าหน้าที่บริหารงานช่าง 7 กรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า เท่าที่ตรวจสอบและสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ก็พบว่าก่อนเกิดเหตุตู้เติมลมได้ล้มลงมาทำให้เกิดไฟรั่วบริเวณพื้น จากนั้นผู้ตายได้เดินมาขึ้นรถแล้วเหยียบไปบนฐานของตู้น้ำล้างมือเพื่อจะหลบน้ำที่ท่วมพื้นอยู่แต่เกิดลื่นล้ม ซึ่งคาดว่าจังหวะนั้นผู้ตายอาจจะล้มไปโดนตู้เติมลมที่ล้มอยู่จนทำให้โดนไฟดูดจนเสียชีวิตดังกล่าว
นายธานินทร์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบการติดตั้งตู้เติมลมของปั๊มก็พบว่ายังไม่ได้มาตรฐาน โดยการยึดตู้กับฐานปูนนั้นใช้การเจาะรูที่พื้นแล้วใส่พุกพลาสติกเบอร์ 7 ฝังลงไป ก่อนจะยึดด้วยนอตเพียง 4 ตัวเท่านั้น ทั้งที่จริงแล้วจะต้องฝังน็อตตัวผู้ให้ยึดติดแน่นกับฐานปูนก่อนจะนำตู้มาวางทับแล้วขันน็อตให้แน่นอีกที นอกจากนี้ ที่ด้านบนของตู้ยังติดตั้งป้ายปริมาณลมที่รถแต่ละชนิดใช้เติมซึ่งป้ายดังกล่าวเป็นตัวต้านลม โดยหากโดนลมแรงพัดใส่ก็อาจจะทำให้ล้มลงได้ อีกอย่างหนึ่งสวิตช์ตัดไฟอัตโนมัติ (เบรกเกอร์) ที่ใช้กับตู้เติมลมนั้นก็เป็นลักษณะป้องกันไฟฟ้าช็อตหรือลัดวงจร แต่ไม่ได้ป้องกันไฟดูด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตตู้เติมลมที่เหลืออีก 2 ตู้นั้น นอตเริ่มหลุดคลายขึ้นมาจากฐาน ทำให้สามารถใช้มือโยกได้อย่างเห็นได้ชัด และยังไม่พบว่ามีการติดตั้งสายดินแต่อย่างใด และจากการพูดคุยกับพนังงานบางรายในปั๊มทราบว่าตู้เติมลมดังกล่าวเดิมเคยอยู่ด้านที่ใกล้กับศาลาจุดพักรถ ซึ่งเป็นจุดอับไม่ปะทะกับสายลมโดยตรง แต่หลังย้ายมาตั้งอยู่ในจุดปัจจุบัน ซึ่งเป็นจุดที่โปร่งรับกระแสลมอย่างเต็มๆ ก่อนหน้านี้ต้นไม้ที่ปลูกอยู่ใกล้ ๆ ตู้เติมลมก็เคยล้มโค่นจากแรงลมมาแล้ว จนต้องมีการเสริมไม้ค้ำยันรอบต้นไม้ที่ปลูกอยู่ด้วย
ด้าน ร.ต.ท.แผน สวาสดินา พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางซื่อ เจ้าของคดี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นพนักงานของปั๊มที่เกิดเหตุไปแล้ว 2 คน โดยทั้งสองคนให้การตรงกันว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมาใช้บริการที่ปั๊มก่อนจะจอดรถแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งขณะนั้นเกิดฝนตกหนักและมีลมพัดแรงจนทำให้ตู้เติมลมล้มลงมาจนเกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว ซึ่งจากนั้นผู้ตายก็ได้เดินกลับออกมาจากห้องน้ำเพื่อไปขึ้นรถ แต่เกิดลื่นล้มลงจนโดนไฟฟ้าดูด ซึ่งพนักงานทั้งสองคนก็พยายามจะเข้าไปช่วยแต่ผู้ตายเสียชีวิตเสียก่อน
ร.ต.ท.แผน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหากล่าวหา หรือสรุปว่าเกิดจากความประมาทของใคร อยู่ระหว่างสอบพยานในที่เกิดเหตุให้แน่ชัดอีกครั้ง รวมทั้งรอผลชันสูตรศพจากสถานบันนิติเวชว่าผู้ตายเสียชีวิตเนื่องมาจากสาเหตุใด ก่อนจะสรุปว่าจะต้องดำเนินการตามกฎหมายกับใครหรือไม่
ด้าน นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต ที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ปตท. เพื่อสวัสดิการ ร.1 รอ. ในช่วงเย็นวานนี้ (21 ต.ค.) ว่า ปตท.รู้สึกเสียใจต่ออุบัติเหตุและการเสียชีวิตของนายระพีพงษ์ สุวรรณรงค์กูร เป็นอย่างยิ่ง และ ปตท.จะดูแลรับผิดชอบอย่างดีที่สุด
“ได้รับรายงานในเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุได้มีฝนตกหนักและพายุลมแรงมาก ทำให้เครื่องเติมลมยาง (Digital) ล้มลงมา ประกอบกับมีน้ำท่วมขัง ช่วงเดียวกัน นายระพีพงษ์ได้มาใช้บริการสุขาที่สถานีบริการน้ำมัน และได้วิ่งผ่านบริเวณที่มีน้ำขังเพื่อกลับขึ้นรถ ในช่วงนั้นได้เกิดอุบัติเหตุล้มลงใบหน้ากระแทกลงในน้ำ ซึ่งพนักงานหน้าลาน 2 คน และพลเมืองดีได้วิ่งเข้าไปช่วยปฐมพยาบาล แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุอาจเกิดจากไฟฟ้าดูดจนถึงแก่ชีวิต แต่ต้องรอการผลการพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป” นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวอีกว่า ปตท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะดำเนินการตรวจสอบในสถานีบริการฯ อื่นๆ อย่างเข้มงวดต่อไป สำหรับกรณีของนายระพีพงษ์นั้น ปตท.ขอแสดงความเสียใจกับความสูญเสียของครอบครัว มา ณ โอกาสนี้
“ดร.หนุ่ม อาจารย์ มธ.” ดวงดับ! ถูกไฟดูดตายคาปั๊ม ปตท.




วันนี้ (22 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่จากกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่จากบริษัท ปตท.เดินทางมาตรวจสอบปั๊มน้ำมัน ปตท.ข้างกองพันทหารราบที่ 1 ร.อ.ถนนวิภาวดี แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ที่เกิดเหตุไฟฟ้าจากตู้เติมลมรั่วจนทำให้ นายรพีพงศ์ สุวรรณวรางกูร อายุ 31 ปี อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เสียชีวิตอยู่ภายในปั๊ม ก็พบว่าทางปั๊มได้ยกตู้เติมลมที่ล้มออกไปแล้ว พร้อมกับนำป้าย “ขออภัยเครื่องขัดข้องงดใช้งาน” มาแขวนไว้ที่ตู้ที่เหลืออีก 2 ตู้
หลังจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 1 ชั่วโมง นายธานินทร์ มุสิกวัตร เจ้าหน้าที่บริหารงานช่าง 7 กรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า เท่าที่ตรวจสอบและสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อวานนี้ ก็พบว่าก่อนเกิดเหตุตู้เติมลมได้ล้มลงมาทำให้เกิดไฟรั่วบริเวณพื้น จากนั้นผู้ตายได้เดินมาขึ้นรถแล้วเหยียบไปบนฐานของตู้น้ำล้างมือเพื่อจะหลบน้ำที่ท่วมพื้นอยู่แต่เกิดลื่นล้ม ซึ่งคาดว่าจังหวะนั้นผู้ตายอาจจะล้มไปโดนตู้เติมลมที่ล้มอยู่จนทำให้โดนไฟดูดจนเสียชีวิตดังกล่าว
นายธานินทร์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบการติดตั้งตู้เติมลมของปั๊มก็พบว่ายังไม่ได้มาตรฐาน โดยการยึดตู้กับฐานปูนนั้นใช้การเจาะรูที่พื้นแล้วใส่พุกพลาสติกเบอร์ 7 ฝังลงไป ก่อนจะยึดด้วยนอตเพียง 4 ตัวเท่านั้น ทั้งที่จริงแล้วจะต้องฝังน็อตตัวผู้ให้ยึดติดแน่นกับฐานปูนก่อนจะนำตู้มาวางทับแล้วขันน็อตให้แน่นอีกที นอกจากนี้ ที่ด้านบนของตู้ยังติดตั้งป้ายปริมาณลมที่รถแต่ละชนิดใช้เติมซึ่งป้ายดังกล่าวเป็นตัวต้านลม โดยหากโดนลมแรงพัดใส่ก็อาจจะทำให้ล้มลงได้ อีกอย่างหนึ่งสวิตช์ตัดไฟอัตโนมัติ (เบรกเกอร์) ที่ใช้กับตู้เติมลมนั้นก็เป็นลักษณะป้องกันไฟฟ้าช็อตหรือลัดวงจร แต่ไม่ได้ป้องกันไฟดูด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกตตู้เติมลมที่เหลืออีก 2 ตู้นั้น นอตเริ่มหลุดคลายขึ้นมาจากฐาน ทำให้สามารถใช้มือโยกได้อย่างเห็นได้ชัด และยังไม่พบว่ามีการติดตั้งสายดินแต่อย่างใด และจากการพูดคุยกับพนังงานบางรายในปั๊มทราบว่าตู้เติมลมดังกล่าวเดิมเคยอยู่ด้านที่ใกล้กับศาลาจุดพักรถ ซึ่งเป็นจุดอับไม่ปะทะกับสายลมโดยตรง แต่หลังย้ายมาตั้งอยู่ในจุดปัจจุบัน ซึ่งเป็นจุดที่โปร่งรับกระแสลมอย่างเต็มๆ ก่อนหน้านี้ต้นไม้ที่ปลูกอยู่ใกล้ ๆ ตู้เติมลมก็เคยล้มโค่นจากแรงลมมาแล้ว จนต้องมีการเสริมไม้ค้ำยันรอบต้นไม้ที่ปลูกอยู่ด้วย
ด้าน ร.ต.ท.แผน สวาสดินา พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางซื่อ เจ้าของคดี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็นพนักงานของปั๊มที่เกิดเหตุไปแล้ว 2 คน โดยทั้งสองคนให้การตรงกันว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมาใช้บริการที่ปั๊มก่อนจะจอดรถแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งขณะนั้นเกิดฝนตกหนักและมีลมพัดแรงจนทำให้ตู้เติมลมล้มลงมาจนเกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว ซึ่งจากนั้นผู้ตายก็ได้เดินกลับออกมาจากห้องน้ำเพื่อไปขึ้นรถ แต่เกิดลื่นล้มลงจนโดนไฟฟ้าดูด ซึ่งพนักงานทั้งสองคนก็พยายามจะเข้าไปช่วยแต่ผู้ตายเสียชีวิตเสียก่อน
ร.ต.ท.แผน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหากล่าวหา หรือสรุปว่าเกิดจากความประมาทของใคร อยู่ระหว่างสอบพยานในที่เกิดเหตุให้แน่ชัดอีกครั้ง รวมทั้งรอผลชันสูตรศพจากสถานบันนิติเวชว่าผู้ตายเสียชีวิตเนื่องมาจากสาเหตุใด ก่อนจะสรุปว่าจะต้องดำเนินการตามกฎหมายกับใครหรือไม่
ด้าน นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต ที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ปตท. เพื่อสวัสดิการ ร.1 รอ. ในช่วงเย็นวานนี้ (21 ต.ค.) ว่า ปตท.รู้สึกเสียใจต่ออุบัติเหตุและการเสียชีวิตของนายระพีพงษ์ สุวรรณรงค์กูร เป็นอย่างยิ่ง และ ปตท.จะดูแลรับผิดชอบอย่างดีที่สุด
“ได้รับรายงานในเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุได้มีฝนตกหนักและพายุลมแรงมาก ทำให้เครื่องเติมลมยาง (Digital) ล้มลงมา ประกอบกับมีน้ำท่วมขัง ช่วงเดียวกัน นายระพีพงษ์ได้มาใช้บริการสุขาที่สถานีบริการน้ำมัน และได้วิ่งผ่านบริเวณที่มีน้ำขังเพื่อกลับขึ้นรถ ในช่วงนั้นได้เกิดอุบัติเหตุล้มลงใบหน้ากระแทกลงในน้ำ ซึ่งพนักงานหน้าลาน 2 คน และพลเมืองดีได้วิ่งเข้าไปช่วยปฐมพยาบาล แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุอาจเกิดจากไฟฟ้าดูดจนถึงแก่ชีวิต แต่ต้องรอการผลการพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป” นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวอีกว่า ปตท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะดำเนินการตรวจสอบในสถานีบริการฯ อื่นๆ อย่างเข้มงวดต่อไป สำหรับกรณีของนายระพีพงษ์นั้น ปตท.ขอแสดงความเสียใจกับความสูญเสียของครอบครัว มา ณ โอกาสนี้
“ดร.หนุ่ม อาจารย์ มธ.” ดวงดับ! ถูกไฟดูดตายคาปั๊ม ปตท.