xs
xsm
sm
md
lg

“ส.ส.พลังแม้ว” แจ้งจับพยายามโยง ปชป.เอี่ยวพันธมิตรฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ดร.สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล สส.พรรคพลังประชาชน จังหวัดเชียงใหม่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.ดุสิตให้ดำเนินคีกับสส.พรรคประชาปัตย์พร้อมกับมอบซีดีและดีวีดีบันทึกภาพสส.ประชาธิปัตย์อยู่ในกลุ่มพันธมิตรมาเป็นหลักฐาน
"ส.ส.พรรคแม้ว" แจ้งความดำเนินคดี "ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์" อ้างมีส่วนรู้เห็นพันธมิตรฯชุมนุมหน้าสภาวันแถลงนโยบายรัฐบาล 7 ตุลาเลือด พร้อมวิ่งโร่ยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการสิทธิฯขอความเป็นธรรมถูกขังในสภาหลัง "สมชาย" หน้าติ๋มทอดทิ้งเมื่อแถลงนโยบายเสร็จ


วันนี้(21 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ดร.สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล สส.พรรคพลังประชาชน จังหวัดเชียงใหม่ นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ สส.พลังประชาชน เขต6 กทม. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.พลังประชาชน จังหวัดเชียงราย และนางนฤมล ธารรดำรงค์ สส.พลังประชน จังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.เอกชัย ศรีระหงษ์ พนักงานสอบสวน(สบ.2) สน.ดุสิต เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายสาธิต ปิตุเตชะ และนายถารวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และสส.ปราธิปัตย์ จังหวัดสงขลา ในข้อหาสมรู้ร่วมคิด และรู้เห็นเป็นใจกับกลุ่มพันธมิตรในการกักขังหน่วงเหนี่ยว สส.และสว. ที่บริเวณอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยได้นำแผ่นบันทึกภาพ (ซีดีและดีวีดี) ที่มีภาพ สส.คนดังกล่าวอยู่ในกลุ่มพันธมิตรมาเป็นหลักฐาน

ดร.สุรพงษ์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนมาแจ้งความบุคคลที่สมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มพันธมิตร กักขังหน่วงเหนี่ยว สส.และสว.ไม่ให้ออกจากรัฐสภา ซึ่งตนมองว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิด เพราะมีการนำรั้วลวดหนามและโซ่คล้องประตูไม่ให้ออกมา แต่คนที่สามารถออกมาได้มีเพียงข้าราชการและนักข่าว รวมถึงบุคคลที่ได้ออกมาอีก 1 คนคือนางรสนา โตสิตระกูล สว.กทม. ทำให้พวกตนจึงต้องปีนกำแพงออกมา โดยตนมีหลักฐานเป็นซีดีและดีวีดีที่มีการบันทึกภาพของนายสาธิต ปิตุเตชะ ใส่เสื้อเชิ๊ตสีขาว ถือขวดน้ำวิ่งปะปนหลลบแก๊สน้ำตาอยู่กับกลุ่มพันธมิตร เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนายสาธิตไม่เข้าร่วมประชุมแถลงนโยบายที่สภา แต่กลับมาอยู่ในกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนนายถาวร ไม่มีภาพอยู่ในซีดี แต่มีนักข่าวของช่อง 7 ได้อ่านข่าวออกอากาศโดยระบุชื่อของนายถาวร ว่าได้ไปเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ในกลุ่มพันธมิตรฯ

ดร.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ตนจะไปยื่นฟ้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนถึงคดีนี้ด้วย ตนเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์น่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วย เพราะสส.ทั้ง 2 รายเป็นกรรมการของพรรค และอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และเรื่องนี้เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ชี้ขาด

ด้าน พ.ต.ต.เอกชัย กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องเอาไว้และจะสอบปากคำสส.พรรคพลังประชาชนที่มาแจ้งความอย่างละเอียด ก่อนจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชา เพื่อรวบรวมเอกสารและหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวนของ บช.น.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น