พปช.ส่งลูกสมุนยื่นฟ้องอัยการสูงสุดดำเนินคดี 2 ส.ส.ปชป.ยัดเยียดข้อหากบฏ ฐานตัวการร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ ปิดล้อมสภา 7 ตุลาทมิฬ ฟุ้งอัตราโทษสูงสุดถึงขั้นยุบพรรค
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่รัฐสภา คณะส.ส.พรรคพลังประชาชน นำโดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร นางนฤมล ธารดำรง ส.ส.สมุทรปราการ ร่วมกันแถลงข่าวจะไปยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อแจ้งข้อหาร่วมกัน กับ 2 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ คือ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา และนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า พวกตนทั้ง 6 คนขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เพื่อยื่นต่ออัยการสูงสุดให้ตรวจสอบ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 2 คน ที่ได้กระทำการกบฏต่อแผ่นดิน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 เนื่องจากมีภาพปรากฏว่าทั้งสองคนได้อยู่ร่วมเหตุการณ์การล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งศาลปกครองสูงสุดเคยมีคำสั่งว่าการชุมนุมล้อมรัฐสภาเป็นพฤติกรรมที่ทำผิดเกินรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ในการใช้สิทธิการชุมนุม แม้ทั้งสองคนจะอ้างว่าได้ไปสังเกตการณ์ แต่เป็นช่วงเย็นจริงหลังเกิดเหตุแล้วถือเป็นข้ออ้าง ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ถ้าอัยการสูงสุดพบว่ามีข้อมูลคดีนี้จะมีความผิดโทษสูงสุดถึงขั้นยุบพรรค ทั้งนี้ ตนมีหลักฐานที่เป็นวีซีดีทั้งจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 และช่อง 9 รวมทั้งจากซีดีของกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย ซึ่งมีภาพนายสาธิตอย่างชัดเจน ซึ่งก็ทราบว่ามี ส.ส.อีกหลายที่ไปร่วม แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจน
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่รัฐสภา คณะส.ส.พรรคพลังประชาชน นำโดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร นางนฤมล ธารดำรง ส.ส.สมุทรปราการ ร่วมกันแถลงข่าวจะไปยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อแจ้งข้อหาร่วมกัน กับ 2 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ คือ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา และนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า พวกตนทั้ง 6 คนขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เพื่อยื่นต่ออัยการสูงสุดให้ตรวจสอบ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 2 คน ที่ได้กระทำการกบฏต่อแผ่นดิน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 เนื่องจากมีภาพปรากฏว่าทั้งสองคนได้อยู่ร่วมเหตุการณ์การล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งศาลปกครองสูงสุดเคยมีคำสั่งว่าการชุมนุมล้อมรัฐสภาเป็นพฤติกรรมที่ทำผิดเกินรัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ในการใช้สิทธิการชุมนุม แม้ทั้งสองคนจะอ้างว่าได้ไปสังเกตการณ์ แต่เป็นช่วงเย็นจริงหลังเกิดเหตุแล้วถือเป็นข้ออ้าง ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ถ้าอัยการสูงสุดพบว่ามีข้อมูลคดีนี้จะมีความผิดโทษสูงสุดถึงขั้นยุบพรรค ทั้งนี้ ตนมีหลักฐานที่เป็นวีซีดีทั้งจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 และช่อง 9 รวมทั้งจากซีดีของกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย ซึ่งมีภาพนายสาธิตอย่างชัดเจน ซึ่งก็ทราบว่ามี ส.ส.อีกหลายที่ไปร่วม แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจน
