ตร.เร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหายิงสายตรวจ สน.สายไหม บาดเจ็บสาหัส ที่ยังหลบหนีอยู่อีก 1 ราย ด้านอาการของสายตรวจเหยื่อกระสุนปืน ล่าสุดอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้วแต่ยังคงนอนรักษาตัวห้องไอซียู
กรณีนายมีชัย หันคำ อายุ 21 ปี หนุ่มจ.อุบลราชธานี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ เคหะบาล เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.สายไหม ได้รับบาดเจ็บขณะกำลังออกตรวจท้องที่พร้อมกับ ด.ต.อดิชัย จันทร์ปุ่ม เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.สายไหม เหตุเกิดบริเวณซอยสายไหม 67 ถนนสายไหม แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม.เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (18 ต.ค.) หลังจากนั้นนายมีชัย ได้หลบหนีเข้าไปแอบอยู่ภายในป่ากก ต่อมาเจ้าหน้าที่ต้องสนธิกำลังกันค้นหาอยู่เกือบชั่วโมง จนสามารถจับกุมตัวได้ ส่วนนายเอกลักษณ์ ทองอินทร์ อายุ 24 ปี คนร้ายอีกคนที่มาด้วยกันกับนายมีชัยสามารถหลบหนีไปได้ขณะเหตุการณ์กำลังชุลมุน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 และพ.ต.อ.ชูศักดิ์ เตชะรักษ์พงษ์ ผกก.สน.สายไหม ได้เดินทางไปที่ รพ.สายไหม เพื่อเยี่ยมอาการของ จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บที่ห้องไอซียู ชั้น 3 พร้อมทั้งมอบกระเช้าดอกไม้และเงินจำนวนหนึ่งเพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจ ซึ่งขณะนี้อาการของ จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ อยู่ในขั้นปลอดภัยแล้วและสามารถพูดโต้ตอบได้บ้าง หลังจากนั้นจึงได้เดินทางกลับ
พ.ต.อ.ชูศักดิ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นได้ให้การซัดทอดว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของนายเอกลักษณ์ ซึ่งก่อนเกิดเหตุนายเอกลักษณ์ได้ไปรับนายมีชัยมาเสพยาบ้ากันก่อนจะพบกับเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.สายไหม นายมีชัยยังให้การต่อไปว่าตนไม่ได้ตั้งใจจะยิง จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ แต่นายเอกลักษณ์เป็นคนสั่งให้ยิงเพื่อเปิดทางหลบหนี และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรูปภาพนายเอกลักษณ์มาให้นายมีชัยดูก็ยืนยันว่าเป็นคนคนเดียวกันและรู้จักกันภายในคุก
พ.ต.อ.ชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบประวัตินายเอกลักษณ์ ทราบว่าเคยมีคดีลักทรัพย์และยาเสพติดในท้องที่ สน.คันนายาว ส่วนเรื่องที่นายเอกลักษณ์เป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดนั้น ก็ยังไม่ยืนยันเพราะยังไม่มีพยานหลักฐานที่แน่นอน หลังจากนี้จะได้ให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายจับนายเอกลักษณ์ในข้อหาขัดขืนเจ้าพนักงาน พยายามฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ คาดว่าหากไม่ติดขัดอะไรในวันอังคารที่ 21 ต.ค.นี้ จะขออนุมัติหมายจับได้
ด้าน พ.ต.ท.ดลชัย ปิ่นปัก สว.สส.สน.สายไหม กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกติดตามตัว นายเอกลักษณ์ ซึ่งคาดว่าน่าจะยังหลบหนีไปใหนได้ไม่ไกล คงจะได้ตัวในเร็วๆ นี้ สำหรับหมายจับนั้นต้องรอให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานให้พร้อมเสียก่อนจึงจะสามารถออกหมายจับได้ หลังจากนี้จะได้เร่งรัดจับตัวนายเอกลักษณ์มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป