ตำรวจสืบสวนนครบาล 3 โชว์ผลงานตามรวบเพื่อนโจ๋ขี้คุกที่ก่อเหตุยิงตำรวจสายไหมสาหัส ขณะขอเข้าตรวจค้น เจ้าตัวสารภาพเป็นเจ้าของปืน แถมประวัติยาวเป็นหางว่าว
วันนี้ (21 ต.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น.พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.3 แถลงข่าวจับกุม นายเอกลักษณ์ หรือ เอก ทองอินทร์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/3 ม.7 แขวงและเขตคันนายาว กทม.ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.มีนบุรี เลขที่ 1664/2551 ลงวันที่ 20 ต.ค.51 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ต่อสู้ หรือขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่โดยใช้อาวุธปืน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมด้วยของกลางปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 6 นัด
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากผู้ต้องหาพร้อมกับ นายมีชัย หันคำ อายุ 21 เพื่อนที่เพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดจากเรือนจำมาเพียงวันเดียวได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง จ.ส.ต.พันธ์ศักดิ์ เคหะบาล เจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.สายไหม ขณะขอตรวจค้น เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถปิดล้อมจับกุมคนยิงได้ 1 ราย ส่วน นายเอกลักษณ์ ได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนี หลังออกหมายจับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมก็ออกหาเบาะแส และสามารถจับกุมที่บ้านเลขที่ 45/77 ซ.ประชาร่วมใจ 19 ถ.ประชาร่วมใจ แขวงทรายกองดิน เขตคลองสามวา กทม. ซึ่งจะส่งตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวน สน.สายไหม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนอาวุธปืนก็จะส่งให้พนักงานสอบสวน สน.บางชัน ขยายผลและดำเนินการต่อไป
ด้าน นายเอกลักษณ์ ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุตนมีปัญหากับบิดา จึงขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักมากับ นายมีชัย เพื่อนสนิทที่เพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ เพื่อตระเวนเที่ยวคลายเครียด แต่ก็มาเจอด่านตำรวจขอตรวจค้นด้วยความที่ตนกับ นายมีชัย มีอาวุธปืนและวีซีดีลามก ผิดกฎหมาย จึงพยายามหนี โดย นายมีชัย ได้ใช้ปืนยิงใส่ตำรวจเพื่อฝ่าด่านหนี ซึ่งปืนที่นายมีชัย ใช้ยิงตำรวจนั้นเป็นปืนของตนเอง ที่ซื้อมาในราคา 5 พันบาท เพื่อเอามาไว้ป้องกันตัว
นายเอกลักษณ์ ให้การอีกว่า หลังจาก นายมีชัย ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนล้มลงก็เกิดเหตุชุลมุน ตนจึงฉวยโอกาสหลบหนีไปอยู่ที่บ้านเพื่อนอีกคนหนึ่งจนมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว และยอมรับอีกว่า ก่อนหน้านี้ เคยถูกดำเนินคดีข้อหาชิงทรัพย์เมื่อปี 2547 ที่ สน.บางชัน โดยต้องติดคุกอยู่หลายปี จากนั้นก็โดนคดียาเสพติดอีกเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน