“รอง ผบช.ส.” ชี้กรณีตำรวจสันติบาล กก.4 บก.ส.3ออกมาร้องเรียนถูกผู้บังคับบัญชาอมเงิน เป็นเรื่องเข้าใจผิด เผยสั่งให้คืนเงินเรียบร้อย พร้อมให้ทำหนังสือชี้แจง
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จากกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลว่า พ.ต.อ.ทรงชัย เทพสาร ผกก.กลุ่มงานสืบสวนหาข่าว กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ช่วยราชการกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ได้เรียกเก็บเงินจากตำรวจที่ไปปฏิบัติหน้าที่ ภายหลังจากที่ได้รับเงินเบี้ยเลี้ยง เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา รายละ 2,800 บาท โดยอ้างว่าจะนำเงินจำนวนดังกล่าวที่เรียกเก็บไปจัดซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ซ่อมบำรุงห้องน้ำ และไปทำสาธารณประโยชน์อื่นๆ โดยเชื่อว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น
หลังทราบเรื่อง พล.ต.ต.วินัย ทองสอง รอง ผบช.ส.ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยัง พ.ต.อ.ทรงชัย ทราบว่ามีการเรียกเก็บเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาจริง แต่ไม่ใช่เพื่อนำมาใช้จ่ายในการซื้อคอมพิวเตอร์ ซ่อมบำรุงห้องน้ำ และใช้เพื่อสาธารณประโยชน์อย่างอื่นตามที่ได้มีการร้องเรียนต่อสื่อมวลชน โดยเงินที่เรียกเก็บดังกล่าวเป็นการเฉลี่ยมาเพื่อใช้ซื้ออาหารเลี้ยงกันภายใน แต่ไม่ได้ระบุจำนวนเงินว่าทุกคนต้องจ่ายคนละ 2,800 บาท จึงอาจเป็นการเข้าใจผิดกัน
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.วินัย ก็ได้มีการสั่งให้ พ.ต.อ.ทรงชัย เทพสาร ยกเลิกการเรียกเก็บเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาดังกล่าวแล้ว และในกรณีที่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้โอนเงิน หรือทำการจ่ายเงินให้แล้ว ก็ให้ พ.ต.อ.ทรงชัย คืนเงินแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาทันที พร้อมทั้งให้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงกับต้นสังกัด และผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้ไปร้องเรียนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ทรงชัย เทพสาร เดิมดำรงตำแหน่ง ผกก.กลุ่มงานสืบสวนหาข่าว กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 แต่เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ที่ 329/2551 โดย พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. เรื่องให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ในคำสั่งระบุว่า ให้ พ.ต.อ.ทรงชัย ไปช่วยราชการกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 โดยให้มีอำนาจหน้าที่บริหารงาน ควบคุมและสั่งการงานในด้านยุทธการของกองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 และการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานกรุงเทพ (ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว) ทั้งนี้ ในคำสั่งดังกล่าวระบุไว้ว่า มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.2551 เป็นต้นไป