xs
xsm
sm
md
lg

ไขปริศนาอุปกรณ์สลายม็อบ! ตำรวจเจตนาฆ่าหรือมือที่สาม

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้าเลือดสั่งสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้มีประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก และบางส่วนถูกระเบิดจนสูญเสียอวัยวะแขน ขา ต้องกลายสภาพเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต

สังคมตั้งคำถามว่า เหตุการณ์นองเลือดดังกล่าวเป็นฝีมือของใคร ระหว่างม็อบสร้างสถานการณ์ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจตนาต้องการเข่นฆ่าประชาชน?

พ.ต.ท.กำธร อุ๋ยเจริญ
รอง ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.ตปพ.บช.น.เปิดเผยถึงอาวุธที่ใช้สลายม็อบ ว่า อาวุธที่เจ้าหน้าที่ใช้ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ประกอบด้วย อาวุธยิงระเบิดควัน ขนาด 38 มิลลิเมตร ยี่ห้อโคลท์ ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนลูกระเบิดนั้นใช้กระสุนขนาดเดียวกัน ซึ่งบางลูกมีสีแดงและสีขาว อานุภาพทำให้ระบบประสาทของคนที่สูดดมควัน ถูกทำลายทำให้ปวดแสบปวดร้อน โดยเฉพาะตา จมูก และผิวหนัง แต่ไม่สามารถทำอันตรายผิวหนังฉีกขาดได้ แม้จะถูกยิงใส่โดยตรง และไม่มีสะเก็ดทำลายอวัยวะได้ เพราะผลิตจากพลาสติก

ส่วนประกอบที่สำคัญของแก๊สน้ำตานั้น ได้จากการสกัดธัญพืช เรียกว่าสาร CN อย่างไรก็ตาม การจะใช้แก๊สน้ำตานั้น ต้องอยู่ที่เหตุการณ์ขณะนั้นว่า มีความรุนแรงขนาดไหน และขึ้นอยู่กับคำสั่งผู้บังคับบัญชาเหตุการณ์

ส่วนการยิง จะยิงทั้งวิถีตรง และวิถีโค้ง ซึ่งจะเลือกยิงตามกระแสลมเพื่อให้พัดพาไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมให้มากที่สุด เพื่อต้องการให้เกิดการสลาย โดยกระแสโค้งนั้นจะยิงในระยะประชิดส่วนกระแสตรงจะยิงในระยะไกล

นอกจากนี้ ยังมีระเบิดแกUสน้ำตาแบบขว้าง ใช้ในระยะประชิดตัว อานุภาพลำลายล้างเหมือนกันกับระเบิดแบบยิงทุกประการ โดยระเบิดทั้งหมดนำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกาและบางส่วนนำเข้าจากประเทศจีน

ทั้งนี้ ยังมีระเบิดควันใช้ยิงใส่เพื่อส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งมีเพียงควันและไม่เป็นอันตรายเหมือนแก๊สน้ำตาแต่อย่างใด

ส่วนอาวุธเด็ดถือเป็นไม้สุดท้ายที่ใช้ปราบม็อบ คือ กระสุนยาง ซึ่งผลิตในเมืองไทยอยู่ในขั้นทดลองใช้ ยังไม่นำมาประจำการ โดยใช้ยิงจากปืนลูกซอง อานุภาพทำให้คนที่โดนยิงจุกเสียดแน่น และมีรอยช้ำห้อเลือด ใช้ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ถูกไล่ทำร้ายและจนตรอกเท่านั้น ซึ่งเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ตปพ.ได้ใช้ยิงใส่ขณะถูกฝูงชนล้อมกรอบและไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ทั้งนี้ ที่สำคัญ เครื่องยิงระเบิดควันนั้นยังสามารถนำบรรจุระเบิดจริงใช้ได้อีกด้วย โดยที่เรื่องดังกล่าว ไม่มีใครทราบว่า ในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ใช้ระเบิดจริงเข่นฆ่าประชาชนหรือไม่ คนสั่งฆ่าเท่านั้นที่รู้อยู่ในอก

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีระเบิดที่สามารถตัดแขนขา หรืออวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายให้ขาดสะบั้นได้ โดยผู้ที่มีความรู้เรื่องดังกล่าวสามารถนำมาปรับใช้และผลิตเองได้ตามความต้องการที่จะให้ระเบิดมีอานุภาพมากน้อยเพียงใด อาทิ ระเบิดขวด ระเบิดไดนาไมต์ทำเอง ระเบิดแสวงเครื่อง เป็นต้น โดยระเบิดดังกล่าว อานุภาพของระเบิด จะทำให้แขน ขา ขาดได้ โดยเมื่อระเบิดตกถึงพื้น จะแตกออกและสะเก็ตระเบิดจะกระจายขึ้นเบื้องบนมีความสูงถึงระดับเอว ส่วนสลักระเบิดที่พบ เป็นระเบิดลูกเกลี้ยงค่อนข้างแน่

และหากไปดู ในส่วนของกำลังตำรวจ ที่เข้าทำร้ายประชาชน ประกอบด้วย กองกำลังจากกองบัญชาการตำรวจตระเวณชายแดน (ตชด.) เป็นกำลังหลักในการเข้าสลายการชุมนุมของประชาชนในครั้งนี้ โดยมีกำลังจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาลคอยเสริมเพิ่มเติม ในขณะที่กำลังของตำรวจนครบาลเอง จะใช้เป็นกองกำลังเสริม ด้วยการตั้งแถว ถือโล่ ขยับคืบเดินหน้าไปเรื่อยๆ

ส่วน เหตุไฉน กองกำลังจาก ตชด.จึงถูกดึงเข้ามาเป็นกำลังหลัก เป็นที่ทราบกันดี ด้วยเหตุผลไม่กี่ประการ ประการแรก พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย นับเป็น “ลูกหม้อ” ตชด.ขนานแท้ดั้งเดิม ที่เชื่อว่า ยังคงมีเพาเวอร์กับลูกน้องของตนเองอยู่ไม่น้อย กอปรกับยังคงตำรงตำแหน่งเสนาบดีมหาดไทยในรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่ยังคงอำนาจบารมีอยู่มหาศาล

ประการต่อมา ตชด.ถูกฝึกให้รบแบบทหาร มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับเรื่องอาวุธ และวัตถุระเบิดเป็นอย่างดี ทำให้สามารถจะกำหนดได้ว่า ควรจะสั่งสอนประชาชนอย่างไร จะทำให้ขาขาด หรือเสียชีวิต ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

ส่วนระเบิดที่พบ และทำให้ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บถึงขั้น แขน ขา ขาดนั้น ไม่รู้เป็นของใคร ? “นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.” น่าจะรู้ดี


ตำรวจนำอาวุธปืนที่ใช้ยิงแก๊สน้ำตามาสาธิต
ภาพจากเหตุการณ์จริง
ระเบิดแก๊สน้ำตา(ชนิดขว้าง)
ปืน-กระสุนแก๊สน้ำตา และระเบิดแก๊สน้ำตา
กระสุนแก๊สน้ำตา
กระสุนยาง 11 มม.
กระสุนยางชนิดลูกปราย
บาดแผลที่เกิดจากกระสุนยาง
อีกหนึ่งภาพที่สื่อหลายสำนักนำเสนอ เป็นภาพที่ตำรวจผู้หนึ่งกำระเบิดไว้ในมือ
กำลังโหลดความคิดเห็น