ปศท.บุกร้านเสริมสิน ไชน่าอาร์ท ภายในห้างเสรีเซ็นเตอร์ หลังสืบทราบร้านดังกล่าวมีการลักลอบขายยา “ไวอะกร้า” ตรวจสอบพบกว่า 42,210 เม็ด และยารักษาความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อีก 3,360 เม็ด มูลค่าความเสียหายกว่า 17 ล้านบาท เผยลอบขายให้กับชาวต่างชาติและคนไทยมากว่า 6 เดือน ก่อนที่จะมาถูกจับ
วันนี้ (1 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บก.ปศท. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปศท.พร้อมด้วย พ.ต.อ.สาธิต ต ชยภพ รอง ผบก.ปศท.และ พ.ต.ท.อภิชัย หวลจิตต์ สว.ปฏิบัติราชการ ฝป.4 บก.ปศท.รว่มกันแถลงข่าวจับกุม นายกิตติพัฒน์ อชรางกูล อายุ 62 ปี พร้อมของกลางยาไวอะกร้า จำนวน 42,210 เม็ด ยารักษาความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (CIALIS) จำนวน 3,360 เม็ด กล่องสำหรับบรรจุยาและเอกสารที่มีเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นจำนวน 5,800 แผ่น มูลค่าความเสียหายประมาณ 17,000,000 บาท
พล.ต.ต.โกวิทย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางที่ 622 และ 624/2551 ลวันที่ 30 ก.ย.51 เข้าทำการตรวจค้นที่ร้านเสริมสิน ไชน่าอาร์ท ห้องเลขที่ 121 ชั้นจี ภายในห้างเสรีเซ็นเตอร์ ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.และบ้านเลขที่ 2124/6-7 ซอยเทพารักษ์ 8 ถนนเทพารักษ์ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก็พบของกลางดังกล่าว จึงได้ตรวจยึดไว้พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหามาทำการสอบสวน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ของกลางดังกล่าวเป็นของตนซึ่งสั่งซื้อมาจากประเทศจีน และจะนำไปวางขายภายในห้างเสรีเซ็นเตอร์ ส่วนบ้านที่ จ.สมุทรปราการ นั้นใช้สำหรับเป็นโกดังเก็บยา โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ และคนในประเทศไทย ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 6 เดือน จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาขายยาแผนปัจจุบัน โดยไม่ได้รับอนุญาต ขายยาปลอมและขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ก่อนควบคุมตัวส่ง พงส.บก.ปศท.ดำเนินคดีตามกฎหมาย
อีกรายแถลงข่าวจับกุม นายบรามี ไดเดียร์ สเตเฟ่น อายุ 45 ปี สัญชาติฝรั่งเศษ พร้อมของกลาง แผ่นดีวีดีภาพยนตร์ละเมิดลิขสิทธิ์ แผ่นดีวีดีภาพยนตร์ที่มีการทำซ้ำ ดัดแปลง จำนวน 7,829 แผ่น แผ่นดีวีดี-อาร์ เปล่า จำนวน 250 แผ่น หน่วยประมวลผล (ซีพียู) เครื่องไรต์แผ่นดีวีดี สำหรับทำซ้ำ ดัดแปลง แผ่นดีวีดีภาพยนตร์ จำนวน 8 เครื่อง จอคอมพิวเตอร์ จำนวน 4 จอ เครื่องพรินเตอร์ จำนวน 5 เครื่อง คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ จำนวน 3 อัน กล่องปกภาพยนตร์เปล่า จำนวน 30 กล่อง และปกภาพยนตร์ จำนวน 620 แผ่น มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท
พล.ต.ต.โกวิทย์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่สืบทราบได้ว่าผู้ต้องลักลอบขายแผ่นดีวีดีต่างประเทศเถื่อน จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 14.10 น.ของวันที่ 30 ก.ย.เจ้าหน้าที่จึงได้นำหมายค้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางที่ 621/2551 ลงวันที่ 30 ก.ย.51 เข้าตรวจค้นภายในบ้านเลขที่ 61 ซอยรามคำแหง 60 แยก 3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.ซึ่งเป็นของผู้ต้องหาก็พบของกลางดังกล่าว จึงได้ตรวจยึดไว้พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การับสารภาพว่าทำมาประมาณ 4-6 ปี แล้ว ส่วนใหญ่จะขายให้กับลูกค้าต่างประเทศ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่นเพื่อการค้าด้วยการทำซ้ำ ดัดแปลง หรือมีไว้เพื่อขายซึ่งงานภาพยนตร์ ก่อนส่งตัวให้ พงส.บก.ปศท.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป