ผู้การ ปดส.เผยตำรวจจะลงไปสอบปากคำพลทหารเนม ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ถ่ายคลิปโฟร์-มด ระบุหากพลทหารปฏิเสธจะออกหมายจับมือถ่ายตัวจริงทันที เผยยังมีคลิปเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ และเจมส์ เรืองศักดิ์ ที่เคยไปพักในโรงแรมที่เดียวกับ 2 นักร้องสาวดูโอที่ขอนแก่นด้วย
วันนี้ (29 ก.ย.) ที่ บก.ปดส. พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส. พ.ต.อ.นวพล กันคล้อย ผกก.ฝป.4 บก.ปดส. และหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีแอบถ่ายคลิปสองนักร้องสาว “โฟร์-มด” ร่วมกันแถลงความคืบหน้าหลังพนักงานสอบสวนขอหมายค้นศาลเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดและรวบรวมหลักฐาน เมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) เพื่อนำมาหักล้างคำให้การของ 3 ผู้ต้องหาที่อ้างตัวเป็นผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์แอบถ่ายคลิปดังกล่าว
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า หลังจากพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 27-28 ก.ย.ที่ผ่านมาก็ได้สอบพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก และเมื่อนำมาประมวลกับคำให้การของ นายวิชาญ ปะกิระนันท์ หรือ โด้ พ่อครัวโรงแรม, นายธีระชัย มูลรัตน์ หรืออู๊ด เจ้าของโทรศัพท์มือถือโนเกีย รุ่น N72 และนายรุ่งโรจน์ ตันศิริ หรือตี๋ รปภ.โรงแรม ที่เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนนั้น ปรากฏว่า ประเด็นแรก นายวิชาญ อ้างว่าเห็นนายปิยะนัส กาบละคร หรือเนม กำลังถ่ายคลิปจึงขึ้นไปยืนเบียดดูกับนายปิยะนัส หลังจากถ่ายเสร็จก็นำคลิปไปให้นายธีระชัย นายรุ่งโรจน์ และนายสุพจน์ ภู่ถาวร อายุ 42 ปี พนักงานโรงแรมดูคลิปที่นอกโรงแรม ซึ่งนายสุพจน์เป็นตัวละครใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 จากคำให้การของนายธีระชัย หรืออู๊ด ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือนั้น นายธีระชัยมีเพื่อนเป็นพนักงานโรงแรม แต่กลับไม่มีพยานคนใดยืนยันได้ว่า นายธีระชัย ใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นโนเกีย N72 หรือเห็นว่าใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ที่สำคัญนายธีระชัยอ้างว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ถูกผู้หญิงที่พามาร่วมหลับนอนด้วยขโมยไป แต่เมื่อตรวจสอบไปตามที่นายธีระชัยอ้างว่ามีการแจ้งหายไว้นั้น พบว่านายธีระชัยแจ้งความไว้แค่ซิมการ์ดโทรศัพท์หาย มีอย่างที่ไหนขโมยเอาแต่ซิมการ์ดไปไม่เอาโทรศัพท์มือถือไปด้วย เป็นโจรใจดีมากแกะโทรศัพท์มือถือเอาแต่ซิมไป แสดงให้เห็นว่านายธีระชัยให้การขัดกับตัวเอง
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนนายรุ่งโรจน์ หรือตี๋ รปภ.ของโรงแรม ให้การว่าเห็นนายปิยะนัสแอบถ่ายอยู่คนเดียว ซึ่งขัดกับคำให้การของนายวิชาญที่อ้างว่าไปแอบดูพร้อมกับนายปิยะนัส แสดงว่ามีสองคน แต่นายรุ่งโรจน์กลับให้การว่าเห็นนายปิยะนัสอยู่คนเดียว และนายรุ่งโรจน์ยังอ้างอีกว่า ที่ทราบเรื่องคลิปเพราะได้รับการบอกเล่าจากนายวิชาญ จึงรีบเดินไปดูด้วย ซึ่งระยะเวลาในการแอบถ่ายนั้นแค่สองนาทีกว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่นายรุ่งโรจน์จะเดินมาทัน
ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญอยู่ที่คำให้การของนายรุ่งโรจน์ที่อ้างว่าดูคลิปเห็นหญิงสาวกำลังอาบน้ำ เปลือยกายโดยใช้ฝักบัวอาบน้ำ และใช้สบู่ฟอกตัว ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับภาพคลิปที่ปรากฏ และจากการตรวจสอบมุมที่แอบถ่ายผ่านช่องพัดลมระบายอากาศนั้นก็เป็นมุมที่ไม่สามารถมองเห็นการอาบน้ำได้ เพราะถ้ามองเห็นได้ทำไมถึงไม่ถ่ายคลิปในจังหวะที่ทั้งสองอาบน้ำมาด้วย
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับนายสุพจน์ที่เป็นตัวละครใหม่ ซึ่งนายวิชาญ และนายรุ่งโรจน์อ้างว่าเป็น รปภ.ที่ร่วมดูคลิปนั้น พนักงานสอบสวนได้ไปสอบปากคำนายสุพจน์แล้ว ปรากฏว่านายสุพจน์ไม่เคยเห็นคลิปนี้มาก่อน แต่เพิ่งได้เห็นคลิปดังกล่าวจากแขกที่มาพักที่โรงแรมเมื่อกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา นำมาให้ดู และจากการตรวจสอบรายชื่อพนักงานโรงแรมก็พบว่า นายสุพจน์ เป็นเด็กยกกระเป๋า (เบลบอย) ไม่ใช่ รปภ.ตามที่มีการอ้างถึง นอกจากนี้ยังได้สอบปากคำนางอารีย์ ญาติห่างๆ ของนายปิยะนัส ซึ่งเป็นแม่ครัวอยู่โรงแรม และเป็นผู้พานายปิยะนัสเข้ามาทำงานที่โรงแรม โดยนางอารีย์ยืนยันว่านายปิยะนัสเป็นคนดี ไม่เคยมีแฟนสาวอยู่ใน จ.ขอนแก่น และไม่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีมากมายอะไร ที่สำคัญพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพ่อแม่นายปิยะนัส รวมทั้งหาข่าวทั้งหมู่บ้านแล้วปรากฏว่านายปิยะนัส หรือเนม ไม่ใช่ผู้ต้องหาแต่เป็นวีรชน
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ที่บอกว่านายปิยะนัสเป็นวีรชนเพราะหลังถูกเกณฑ์ทหารให้ไปเป็นนาวิกโยธินอยู่ที่สัตหีบ แต่เขาไม่ไปกลับขอไปอยู่ที่นราธิวาส ปราบผู้ก่อการร้าย และทำประกันชีวิตยกผลประโยชน์ให้พ่อแม่หากเป็นอะไรไป พ่อแม่จะได้เงินประมาณ 2 ล้านบาท ที่สำคัญนายปิยะนัส จบแค่ ม.3 ไม่เคยมีความรู้เรื่องโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งยังใช้โทรศัพท์รุ่นเก่ามองหน้าปัดแทบไม่เห็น
หลังทราบเรื่องนายปิยะนัสก็ติดต่อหาพ่อแม่ ร่ำไห้บอกไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือถึงต้นสังกัดของนายปิยะนัส คือกองพันทหารราบที่ 3 นาวิกโยธิน กองบัญชาการกองทัพเรือ (สัตหีบ) เพื่อขอนำตัวมาสอบปากคำในวันพุธที่ 1 ต.ค.นี้ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างรอคำตอบของทางต้นสังกัดของนายปิยะนัสว่าจะส่งตัวมาให้ หรือต้องเดินทางไปสอบปากคำเอง
ทั้งนี้ ทราบมาว่า พลทหารปิยะนัสจะมีการเปลี่ยนผลัดจากนราธิวาส และเดินทางกลับมาประจำการที่ฐานทัพสัตหีบในวันที่ 1 ต.ค.นี้เช่นกัน ซึ่งเป็นไปได้ว่าหากไม่ส่งตัวมา ทางพนักงานสอบสวนจะต้องเดินทางไปสอบที่ต้นสังกัดของนายปิยะนัสที่สัตหีบ และหลังจากสอบปากคำนายปิยะนัสแล้วก็จะมีพยานหลักฐานพอที่จะไปขออนุมัติหมายจับพนักงานโรงแรมทั้ง 3 คนที่มาสมอ้างว่าเป็นผู้ร่วมแอบถ่ายคลิป ฐานให้การอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน
“จากกระแสข่าวเบื้องลึกทราบมาว่า ผู้ต้องหาที่แท้จริงหรือผู้บงการอยากมอบตัวใจจะขาด แต่มีนักจัดฉาก นักสร้างบ้านทรายทองว่าอย่าไปมอบตัว เดี๋ยวพังกันหมด ตอนนี้ตำรวจล่อหลุมไว้ 8 หลุม 3 คนลงไปแล้ว 2 หลุมน้ำท่วมคอจะถึงจมูกอยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงที่ปรากฏจากการสอบสวนว่า พยานแต่ละปากให้การขัดกันไปขัดกันมา แต่หนึ่งในสามมีส่วนร่วมด้วยช่วยกัน แอบดูด้วยเท่านั้น ส่วนผู้หญิงที่อ้างว่าเป็นเจ้าของโน้ตบุ๊กนั้นเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมา จริงๆ แล้วโน้ตบุ๊กเป็นของไอ้โม่งที่เป็นคนทำลงโน้ตบุ๊กแล้วเอาไปแจกในโรงแรมในผับ ไม่ใช่ไม่รู้ ผู้การรู้อยู่แล้วว่าใครทำ” ผบก.ปดส.กล่าว
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวด้วยว่า ระบุว่า สาเหตุที่ต้องสืบสวนสอบสวนคดีนี้ไม่ใช่เพราะอยากดัง แต่ที่ทำคดีนี้เพราะอยากให้ประชาชนรู้ความจริง ถึงขบวนการต่างๆ ที่เอาความเดือดร้อนของสองนักร้องสาวมาหากินสร้างภาพ และมีคดีอย่างนี้อีกหลายคดีที่ต้องติดคุกต้องรับกรรมซึ่งจะเปิดโปงเป็นคดีๆ ไป สำหรับตนถ้าจะเด่นดังขอให้มากจากผลงาน ไม่ใช่มาจากความทุกข์ของคนอื่น เพราะตนได้บอกกับต้นสังกัดไปก่อนหน้านี้แล้วว่าให้ปฏิเสธไปว่าไม่ใช่คลิปของผู้เสียหาย
ต่อข้อถามที่ว่า กรณีที่มีข่าวเรื่องคลิปของนักร้องคนอื่นๆ ที่เคยเข้าพักที่โรงแรมเกิดเหตุ อย่างเกิร์ลลี่เบอร์รี่ หรือฟิล์ม รัฐภูมินั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ตอบกลับว่า “น้องรู้จริง แต่ผู้การไม่มีหลักฐาน ได้ข่าวมาเหมือนกัน เชื่อหรือไม่ว่าพรรคพวก ลูกน้องผู้การลงพื้นที่ไปถามเรื่องคลิปกับพวกเด็กแว้นที่มีฐานะ พวกเขายังบอกเลยว่า ลุงเชยเหลือเกิน 10 กว่าเดือนแล้ว ปีกว่าแล้วเขารู้กันหมด เขาดูกันหมด เขาก็รู้ว่าใครทำ เด็กแว้นที่พอมีฐานะรู้กันหมดใครทำ แต่การทำของเขาไม่ใช่เพื่อการค้า แต่ทำเพราะคึกคะนอง และอยากเอาไปแพร่ในที่ที่มีประโยชน์ทางการค้า แต่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องซีดีลามกอะไร ที่น้องพูดนั้นจริง ได้ยินมา มันเป็นโรคจิต ชอบแอบถ่าย” เมื่อถามต่อว่าเป็นห้องเดียวกันหรือไม่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวเพียงว่า ชั้นล่างเหมือนกัน
นอกจากนี้ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากทางโรงแรมบริสุทธิ์ใจจริง เหตุใดเมื่อพนักงานสอบสวนขอความร่วมมือในการตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ทางโรงแรมจึงไม่อนุญาต ต้องให้พนักงานสอบสวนไปขอหมายค้นจากศาล ส่วนคนทั้ง 3 ที่มามอบตัวนั้น ถึงตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้ และบางคนถูกไล่ออกไปแล้ว ส่วนหลักฐานจะสาวไปถึงผู้ต้องหาตัวจริงหรือไม่นั้นไม่สำคัญ ขอนำตัว 3 คนนี้ติดคุกก่อน เพราะเห็นว่าอยากติดคุกมาก
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ยังกล่าวอีกด้วยว่า ขณะนี้รู้ตัวมือถ่ายคลิปวิดีโอตัวจริงแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้พร้อมระบุอีกด้วยว่า ตนพอทราบมาว่า นอกจากนี้แล้วยังมีคลิปวิดีโอนักร้องคนอื่นๆ อาทิ Girly Berry และ เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ อีกด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปสอบปากคำ น.ส.คุณัชญา (ชุติมนฑน์) ชัยรัตน์ หรือ “มด” พร้อมด้วยมารดาของเจ้าตัว ที่บริษัทอาร์เอสฯ ต้นสังกัดแล้ว ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่มามอบตัวก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจไม่นำตัวเข้าเครื่องจับเท็จแล้ว เนื่องจากพอจะมีพยานและหลักฐานเพียงพอว่า ทั้งหมดให้การไม่ตรงกับความจริง ในส่วนของหลักฐานอื่นๆที่ได้มาจากการตรวจค้นที่เกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนเตรียมส่งให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ทั้งนี้ ในวิกิพีเดีย ระบุไว้ว่า เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ (Girly Berry) เป็นศิลปินกลุ่มสี่สาว ประกอบด้วย กิ๊ฟซ่า (ปิยา พงศ์กุลภา) กิ๊ฟซี่ (วนิดา เติมธนาภรณ์) แนนนี่ (ภัทรนันท์ ดีรัศมี) และ เบลล์ (มนัญญา ลิ่มเสถียร) มีความโดดเด่นด้านการแต่งตัวเซ็กซี่เป็นอย่างมาก ลักษณะนิสัยโดยส่วนตัวของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป เบลล์จะเป็นสาวหวานน่ารัก เรียบร้อย มีแม่คอยรับ-ส่งตลอดเวลา ขยันเรียน มีความสามารถพิเศษหลายด้าน แนนนี่เป็นสาวเปรี้ยวที่แอบน่ารัก ชอบกางเกงที่เอวต่ำมาก กิ๊ฟซ่าเป็นสาวห้าวที่สวยใสไปอีกแบบ เป็นคนที่ตั้งใจเรียนดี เป็นกันเองกับแฟนคลับ กิ๊บซี่ สาวตัวเล็กสวยใส พี่ใหญ่ของวง
ส่วน เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ เป็นศิลปินชายอีกคนในสังกัดอาร์เอส ซึ่งโด่งดังมากเมื่อครั้งเครื่องบินการบินไทยตกที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี เจมส์ เป็นหนึ่งในผู้โดยสารเที่ยวบินมรณะครั้งนั้นด้วย ทว่า เจมส์ก็รอดชีวิตมาอย่างปาฏิหาริย์ ปัจจุบันเป็นผู้บริหารโรงเรียนดนตรีมีฟ้าในสังกัดแกรมมี่
วันนี้ (29 ก.ย.) ที่ บก.ปดส. พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส. พ.ต.อ.นวพล กันคล้อย ผกก.ฝป.4 บก.ปดส. และหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีแอบถ่ายคลิปสองนักร้องสาว “โฟร์-มด” ร่วมกันแถลงความคืบหน้าหลังพนักงานสอบสวนขอหมายค้นศาลเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดและรวบรวมหลักฐาน เมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) เพื่อนำมาหักล้างคำให้การของ 3 ผู้ต้องหาที่อ้างตัวเป็นผู้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์แอบถ่ายคลิปดังกล่าว
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า หลังจากพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 27-28 ก.ย.ที่ผ่านมาก็ได้สอบพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก และเมื่อนำมาประมวลกับคำให้การของ นายวิชาญ ปะกิระนันท์ หรือ โด้ พ่อครัวโรงแรม, นายธีระชัย มูลรัตน์ หรืออู๊ด เจ้าของโทรศัพท์มือถือโนเกีย รุ่น N72 และนายรุ่งโรจน์ ตันศิริ หรือตี๋ รปภ.โรงแรม ที่เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนนั้น ปรากฏว่า ประเด็นแรก นายวิชาญ อ้างว่าเห็นนายปิยะนัส กาบละคร หรือเนม กำลังถ่ายคลิปจึงขึ้นไปยืนเบียดดูกับนายปิยะนัส หลังจากถ่ายเสร็จก็นำคลิปไปให้นายธีระชัย นายรุ่งโรจน์ และนายสุพจน์ ภู่ถาวร อายุ 42 ปี พนักงานโรงแรมดูคลิปที่นอกโรงแรม ซึ่งนายสุพจน์เป็นตัวละครใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 จากคำให้การของนายธีระชัย หรืออู๊ด ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือนั้น นายธีระชัยมีเพื่อนเป็นพนักงานโรงแรม แต่กลับไม่มีพยานคนใดยืนยันได้ว่า นายธีระชัย ใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นโนเกีย N72 หรือเห็นว่าใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ ที่สำคัญนายธีระชัยอ้างว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ถูกผู้หญิงที่พามาร่วมหลับนอนด้วยขโมยไป แต่เมื่อตรวจสอบไปตามที่นายธีระชัยอ้างว่ามีการแจ้งหายไว้นั้น พบว่านายธีระชัยแจ้งความไว้แค่ซิมการ์ดโทรศัพท์หาย มีอย่างที่ไหนขโมยเอาแต่ซิมการ์ดไปไม่เอาโทรศัพท์มือถือไปด้วย เป็นโจรใจดีมากแกะโทรศัพท์มือถือเอาแต่ซิมไป แสดงให้เห็นว่านายธีระชัยให้การขัดกับตัวเอง
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนนายรุ่งโรจน์ หรือตี๋ รปภ.ของโรงแรม ให้การว่าเห็นนายปิยะนัสแอบถ่ายอยู่คนเดียว ซึ่งขัดกับคำให้การของนายวิชาญที่อ้างว่าไปแอบดูพร้อมกับนายปิยะนัส แสดงว่ามีสองคน แต่นายรุ่งโรจน์กลับให้การว่าเห็นนายปิยะนัสอยู่คนเดียว และนายรุ่งโรจน์ยังอ้างอีกว่า ที่ทราบเรื่องคลิปเพราะได้รับการบอกเล่าจากนายวิชาญ จึงรีบเดินไปดูด้วย ซึ่งระยะเวลาในการแอบถ่ายนั้นแค่สองนาทีกว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่นายรุ่งโรจน์จะเดินมาทัน
ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญอยู่ที่คำให้การของนายรุ่งโรจน์ที่อ้างว่าดูคลิปเห็นหญิงสาวกำลังอาบน้ำ เปลือยกายโดยใช้ฝักบัวอาบน้ำ และใช้สบู่ฟอกตัว ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับภาพคลิปที่ปรากฏ และจากการตรวจสอบมุมที่แอบถ่ายผ่านช่องพัดลมระบายอากาศนั้นก็เป็นมุมที่ไม่สามารถมองเห็นการอาบน้ำได้ เพราะถ้ามองเห็นได้ทำไมถึงไม่ถ่ายคลิปในจังหวะที่ทั้งสองอาบน้ำมาด้วย
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับนายสุพจน์ที่เป็นตัวละครใหม่ ซึ่งนายวิชาญ และนายรุ่งโรจน์อ้างว่าเป็น รปภ.ที่ร่วมดูคลิปนั้น พนักงานสอบสวนได้ไปสอบปากคำนายสุพจน์แล้ว ปรากฏว่านายสุพจน์ไม่เคยเห็นคลิปนี้มาก่อน แต่เพิ่งได้เห็นคลิปดังกล่าวจากแขกที่มาพักที่โรงแรมเมื่อกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา นำมาให้ดู และจากการตรวจสอบรายชื่อพนักงานโรงแรมก็พบว่า นายสุพจน์ เป็นเด็กยกกระเป๋า (เบลบอย) ไม่ใช่ รปภ.ตามที่มีการอ้างถึง นอกจากนี้ยังได้สอบปากคำนางอารีย์ ญาติห่างๆ ของนายปิยะนัส ซึ่งเป็นแม่ครัวอยู่โรงแรม และเป็นผู้พานายปิยะนัสเข้ามาทำงานที่โรงแรม โดยนางอารีย์ยืนยันว่านายปิยะนัสเป็นคนดี ไม่เคยมีแฟนสาวอยู่ใน จ.ขอนแก่น และไม่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีมากมายอะไร ที่สำคัญพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพ่อแม่นายปิยะนัส รวมทั้งหาข่าวทั้งหมู่บ้านแล้วปรากฏว่านายปิยะนัส หรือเนม ไม่ใช่ผู้ต้องหาแต่เป็นวีรชน
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ที่บอกว่านายปิยะนัสเป็นวีรชนเพราะหลังถูกเกณฑ์ทหารให้ไปเป็นนาวิกโยธินอยู่ที่สัตหีบ แต่เขาไม่ไปกลับขอไปอยู่ที่นราธิวาส ปราบผู้ก่อการร้าย และทำประกันชีวิตยกผลประโยชน์ให้พ่อแม่หากเป็นอะไรไป พ่อแม่จะได้เงินประมาณ 2 ล้านบาท ที่สำคัญนายปิยะนัส จบแค่ ม.3 ไม่เคยมีความรู้เรื่องโทรศัพท์มือถือ อีกทั้งยังใช้โทรศัพท์รุ่นเก่ามองหน้าปัดแทบไม่เห็น
หลังทราบเรื่องนายปิยะนัสก็ติดต่อหาพ่อแม่ ร่ำไห้บอกไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือถึงต้นสังกัดของนายปิยะนัส คือกองพันทหารราบที่ 3 นาวิกโยธิน กองบัญชาการกองทัพเรือ (สัตหีบ) เพื่อขอนำตัวมาสอบปากคำในวันพุธที่ 1 ต.ค.นี้ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างรอคำตอบของทางต้นสังกัดของนายปิยะนัสว่าจะส่งตัวมาให้ หรือต้องเดินทางไปสอบปากคำเอง
ทั้งนี้ ทราบมาว่า พลทหารปิยะนัสจะมีการเปลี่ยนผลัดจากนราธิวาส และเดินทางกลับมาประจำการที่ฐานทัพสัตหีบในวันที่ 1 ต.ค.นี้เช่นกัน ซึ่งเป็นไปได้ว่าหากไม่ส่งตัวมา ทางพนักงานสอบสวนจะต้องเดินทางไปสอบที่ต้นสังกัดของนายปิยะนัสที่สัตหีบ และหลังจากสอบปากคำนายปิยะนัสแล้วก็จะมีพยานหลักฐานพอที่จะไปขออนุมัติหมายจับพนักงานโรงแรมทั้ง 3 คนที่มาสมอ้างว่าเป็นผู้ร่วมแอบถ่ายคลิป ฐานให้การอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน
“จากกระแสข่าวเบื้องลึกทราบมาว่า ผู้ต้องหาที่แท้จริงหรือผู้บงการอยากมอบตัวใจจะขาด แต่มีนักจัดฉาก นักสร้างบ้านทรายทองว่าอย่าไปมอบตัว เดี๋ยวพังกันหมด ตอนนี้ตำรวจล่อหลุมไว้ 8 หลุม 3 คนลงไปแล้ว 2 หลุมน้ำท่วมคอจะถึงจมูกอยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงที่ปรากฏจากการสอบสวนว่า พยานแต่ละปากให้การขัดกันไปขัดกันมา แต่หนึ่งในสามมีส่วนร่วมด้วยช่วยกัน แอบดูด้วยเท่านั้น ส่วนผู้หญิงที่อ้างว่าเป็นเจ้าของโน้ตบุ๊กนั้นเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมา จริงๆ แล้วโน้ตบุ๊กเป็นของไอ้โม่งที่เป็นคนทำลงโน้ตบุ๊กแล้วเอาไปแจกในโรงแรมในผับ ไม่ใช่ไม่รู้ ผู้การรู้อยู่แล้วว่าใครทำ” ผบก.ปดส.กล่าว
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวด้วยว่า ระบุว่า สาเหตุที่ต้องสืบสวนสอบสวนคดีนี้ไม่ใช่เพราะอยากดัง แต่ที่ทำคดีนี้เพราะอยากให้ประชาชนรู้ความจริง ถึงขบวนการต่างๆ ที่เอาความเดือดร้อนของสองนักร้องสาวมาหากินสร้างภาพ และมีคดีอย่างนี้อีกหลายคดีที่ต้องติดคุกต้องรับกรรมซึ่งจะเปิดโปงเป็นคดีๆ ไป สำหรับตนถ้าจะเด่นดังขอให้มากจากผลงาน ไม่ใช่มาจากความทุกข์ของคนอื่น เพราะตนได้บอกกับต้นสังกัดไปก่อนหน้านี้แล้วว่าให้ปฏิเสธไปว่าไม่ใช่คลิปของผู้เสียหาย
ต่อข้อถามที่ว่า กรณีที่มีข่าวเรื่องคลิปของนักร้องคนอื่นๆ ที่เคยเข้าพักที่โรงแรมเกิดเหตุ อย่างเกิร์ลลี่เบอร์รี่ หรือฟิล์ม รัฐภูมินั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ตอบกลับว่า “น้องรู้จริง แต่ผู้การไม่มีหลักฐาน ได้ข่าวมาเหมือนกัน เชื่อหรือไม่ว่าพรรคพวก ลูกน้องผู้การลงพื้นที่ไปถามเรื่องคลิปกับพวกเด็กแว้นที่มีฐานะ พวกเขายังบอกเลยว่า ลุงเชยเหลือเกิน 10 กว่าเดือนแล้ว ปีกว่าแล้วเขารู้กันหมด เขาดูกันหมด เขาก็รู้ว่าใครทำ เด็กแว้นที่พอมีฐานะรู้กันหมดใครทำ แต่การทำของเขาไม่ใช่เพื่อการค้า แต่ทำเพราะคึกคะนอง และอยากเอาไปแพร่ในที่ที่มีประโยชน์ทางการค้า แต่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องซีดีลามกอะไร ที่น้องพูดนั้นจริง ได้ยินมา มันเป็นโรคจิต ชอบแอบถ่าย” เมื่อถามต่อว่าเป็นห้องเดียวกันหรือไม่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวเพียงว่า ชั้นล่างเหมือนกัน
นอกจากนี้ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากทางโรงแรมบริสุทธิ์ใจจริง เหตุใดเมื่อพนักงานสอบสวนขอความร่วมมือในการตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ทางโรงแรมจึงไม่อนุญาต ต้องให้พนักงานสอบสวนไปขอหมายค้นจากศาล ส่วนคนทั้ง 3 ที่มามอบตัวนั้น ถึงตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้ และบางคนถูกไล่ออกไปแล้ว ส่วนหลักฐานจะสาวไปถึงผู้ต้องหาตัวจริงหรือไม่นั้นไม่สำคัญ ขอนำตัว 3 คนนี้ติดคุกก่อน เพราะเห็นว่าอยากติดคุกมาก
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ยังกล่าวอีกด้วยว่า ขณะนี้รู้ตัวมือถ่ายคลิปวิดีโอตัวจริงแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้พร้อมระบุอีกด้วยว่า ตนพอทราบมาว่า นอกจากนี้แล้วยังมีคลิปวิดีโอนักร้องคนอื่นๆ อาทิ Girly Berry และ เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ อีกด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปสอบปากคำ น.ส.คุณัชญา (ชุติมนฑน์) ชัยรัตน์ หรือ “มด” พร้อมด้วยมารดาของเจ้าตัว ที่บริษัทอาร์เอสฯ ต้นสังกัดแล้ว ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนที่มามอบตัวก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจไม่นำตัวเข้าเครื่องจับเท็จแล้ว เนื่องจากพอจะมีพยานและหลักฐานเพียงพอว่า ทั้งหมดให้การไม่ตรงกับความจริง ในส่วนของหลักฐานอื่นๆที่ได้มาจากการตรวจค้นที่เกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนเตรียมส่งให้ทางกองพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ทั้งนี้ ในวิกิพีเดีย ระบุไว้ว่า เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ (Girly Berry) เป็นศิลปินกลุ่มสี่สาว ประกอบด้วย กิ๊ฟซ่า (ปิยา พงศ์กุลภา) กิ๊ฟซี่ (วนิดา เติมธนาภรณ์) แนนนี่ (ภัทรนันท์ ดีรัศมี) และ เบลล์ (มนัญญา ลิ่มเสถียร) มีความโดดเด่นด้านการแต่งตัวเซ็กซี่เป็นอย่างมาก ลักษณะนิสัยโดยส่วนตัวของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป เบลล์จะเป็นสาวหวานน่ารัก เรียบร้อย มีแม่คอยรับ-ส่งตลอดเวลา ขยันเรียน มีความสามารถพิเศษหลายด้าน แนนนี่เป็นสาวเปรี้ยวที่แอบน่ารัก ชอบกางเกงที่เอวต่ำมาก กิ๊ฟซ่าเป็นสาวห้าวที่สวยใสไปอีกแบบ เป็นคนที่ตั้งใจเรียนดี เป็นกันเองกับแฟนคลับ กิ๊บซี่ สาวตัวเล็กสวยใส พี่ใหญ่ของวง
ส่วน เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ เป็นศิลปินชายอีกคนในสังกัดอาร์เอส ซึ่งโด่งดังมากเมื่อครั้งเครื่องบินการบินไทยตกที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี เจมส์ เป็นหนึ่งในผู้โดยสารเที่ยวบินมรณะครั้งนั้นด้วย ทว่า เจมส์ก็รอดชีวิตมาอย่างปาฏิหาริย์ ปัจจุบันเป็นผู้บริหารโรงเรียนดนตรีมีฟ้าในสังกัดแกรมมี่
