xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐินีหาดใหญ่แค้นเพื่อนสนิทลวงข่มขืน คว้าขวาน-อีโต้ ฟันยับดับคาที่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่ตรสวจสอบสภาพศพนายสำนวน เลาหบุตร ผู้ตาย
เศรษฐินีหาดใหญ่แค้นถูกเพื่อนสนิทหนุ่มใหญ่เซลส์ขายยา น้องชายอดีตรอง ผบช.ภ.1 ออกอุบายทะเลาะกับเมียขอค้างด้วยแล้วกลับทุบตีข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ อาศัยทีเผลอตอนอาบน้ำคว้าขวาน-มีดอีโต้ฟันยับดับอนาถคาห้องน้ำ


วันนี้ (28 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ท.เวชกร ชวลิต พนักงานสอบสวน (สบ01) สน.แสมดำ ได้แจ้งจาก นางสิริพร อนันต์กลยุทธ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192/67 หมู่บ้านลลิล กรีนวิลล์ แยก 5 ซอยเอกชัย 131 แขวงและเขตบางบอน ว่า เมื่อช่วงเช้ามืดวานนี้ (27 ก.ย.) ได้ทะเลาะวิวาทกับเพื่อนชายภายในบ้านพักหลังดังกล่าวถึงขั้นใช้อาวุธต่อสู้กันจนได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 ฝ่าย โดยนางสิริพรได้เข้าไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนครธนแล้ว แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมของเพื่อนชายคนดังกล่าว หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.สุรเดช บุณณชนก สว.สส.สน.แสมดำ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกอยู่ในรั้วรอบขอบชิด บนเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวา เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดหยดเป็นทางจากประตูทางเข้าบ้านขึ้นไปถึงบันได โดยภายในห้องน้ำบนชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่พบศพนายสำนวน เลาหบุตร อายุ 50 ปี เซลส์แมนขายยา และเป็นน้องชายของ พล.ต.ต.สำเนา เลาหบุตร อดีตรอง ผบช.ภ.1 สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด สวมเสื้อแขนกุดสีขาว นุ่งกางเกงในสีดำ ที่ศีรษะมีผ้าเช็ดตัวสีขาวคลุมอยู่ 1 ผืน ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกของมีคมฟันเข้าที่บริเวณหน้าผาก ข้างศีรษะ ท้ายทอย สะบักหลัง และท่อนแขนทั้ง 2 ข้าง จนเป็นบาดแผลฉกรรจ์นับ 10 แผล นอกจากนี้ ที่บริเวณจมูกและใบหน้ายังมีรอยฟกช้ำคล้ายถูกทุบด้วยของแข็งอีก

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภายในห้องน้ำที่เกิดเหตุ พบขวาน มีดอีโต้ และมีดปอกผลไม้เปื้อนเลือดตกอยู่ข้างชักโครก ส่วนภายในห้องนอนขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ใกล้กันเจ้าหน้าที่พบร่องรอยการต่อสู้จนข้าวของกระจัดกระจาย นอกจากนี้ยังมีคราบเลือดสาดกระเซ็นเต็มไปทั่วฝาผนัง เจ้าหน้าที่จึงเก็บจึงได้รวบรวมรายละเอียดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นายสมบุญ ขจรวีรพันธ์ อายุ 50 ปี เพื่อนบ้านของนางสิริพรให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงสายวานนี้ (27 ก.ย.) นางสิริพรซึ่งอยู่ในสภาพสะบักสะบอมได้มากดกริ่งเรียกตนเพื่อขอความช่วยเหลือให้นำตัวส่งโรงพยาบาล พร้อมบอกว่าขณะที่นางสิริพรกำลังทำสวนก็พลาดถูกมีดดายหญ้าบาดเข้าที่นิ้วก้อยมือซ้าย และนิ้วชี้มือขวา ตนจึงขับรถพาไปส่งที่โรงพยาบาลพระราม 2 แต่เมื่อผลเอกซเรย์ออกมาพบว่า เอ็นที่นิ้วก้อยมือข้างซ้ายขาด ไม่มีแพทย์ผู้ชำนาญการในการเย็บ จึงต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครธน

นายสมบุญ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตนก็กลับมาที่บ้านตามปกติ จนกระทั่งวันนี้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมากันที่บ้านของนางสิริพรจำนวนมาก จึงโทรศัพท์ไปสอบถามนางสิริพรอีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เจ้าตัวก็จึงอ้างกับตนอีกว่าเมื่อคืนก่อนมีโจรปีนเข้าบ้านจึงเกิดการต่อสู้กัน และนางสิริพรก็ใช้มีดแทงโจรจนเสียชีวิต

นายสมบุญ กล่าวต่อว่า สำหรับนางสิริพรนั้นมีฐานะระดับเศรษฐินีของเมืองหาดใหญ่ เนื่องจากครอบครัวประกอบกิจการขายอะไหล่รถ ส่วนที่บ้านหลังนี้นางสิริพรกับสามี และลูกๆ ได้พากันมาซื้อไว้ได้ประมาณ 4 ปีแล้ว แต่ก็ไม่ค่อยมีคนมาอยู่ ส่วนใหญ่นางสิริพรจะขับรถจากหาดใหญ่มาพักที่นี่เพียงลำพัง เฉลี่ยแล้ว 2 เดือนต่อ 1 ครั้ง โดยมาพักครั้งละประมาณ 15-30 วัน ส่วนสามีก็ไม่ค่อยได้เดินทางมาด้วยเพราะต้องอยู่ที่หาดใหญ่ดูแลกิจการ โดยที่ผ่านมาเวลาไม่มีใครอยู่บ้าน นางสิริพรก็จะฝากกุญแจบ้านไว้กับตนเพื่อให้คอยดูแลบ้าน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลนครธน เพื่อสอบปากคำนางสิริพร โดยเจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าผู้ตายจริงเพราะโกรธแค้นที่ถูกผู้ตายข่มขืน โดยก่อนหน้านี้คบกันแบบเพื่อนสนิทมานานนับ 10 ปี ทุกครั้งที่ตนขับรถจากหาดใหญ่มาพักที่บ้านหลังนี้ ผู้ตายก็มักจะนัดตนไปกินเลี้ยงสังสรรค์โต๊ะแชร์กับกลุ่มเพื่อนฝูงอยู่เสมอ

โดยก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำของคืนวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนก็นัดไปกินเลี้ยงกับเพื่อนๆ ที่ร้านย่านบางบอนตามปกติ โดยมีผู้ตายร่วมเดินทางไปด้วย พอขากลับตนก็ไปส่งผู้ตายที่บ้านพักย่านซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 จากนั้นก็กลับมาที่บ้านเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน แต่ปรากฏว่าผู้ตายได้นั่งรถย้อนตามมาที่บ้านตนอีก แล้วเรียกตนไปคุยที่หน้าบ้าน โดยผู้ตายอ้างว่าทะเลาะกับภรรยามาจะขอพักด้วย 1 คืน

นางสิริพร ให้การต่อว่า ตนเห็นว่าผู้ตายเป็นเพื่อนสนิทคบหากันมานานจึงได้อนุญาตให้เข้ามานอนที่บ้านด้วย แต่ไม่คิดว่าจะถูกผู้ตายทำร้ายร่างกาย และข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง จากนั้นผู้ตายก็ออกไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำ ตนจึงฉวยโอกาสหยิบขวานและมีดที่อยู่ใกล้เตียงนอนเข้าไปฟันใส่ผู้ตายหลายครั้งด้วยความโกรธแค้นที่ถูกข่มขืน จากนั้นจึงเดินลงไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้ช่วยพาตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อนอนพักรักษาตัวเป็นเวลา 1 คืน ก่อนตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ

ด้าน พ.ต.ท.สุรเดช กล่าวว่า จากการสอบสวนนางสิริพรยอมรับสารภาพแล้วว่าได้ก่อเหตุลงไปเพราะบันดาลโทสะ อย่างไรก็ตามจะต้องให้พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำนางสิริพร และพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้แน่ชัด ก่อนนำเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา

พ.ต.ท.สุรเดช กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และพนักงานสอบสวนได้พยายามเก็บรวบรวมและหาหลักฐานที่อยู่ในที่เกิดเหตุให้มากที่สุดแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่พบกางเกง และเอกสารของนายสำนวนผู้ตายแต่อย่างใด คงจะต้องสืบสวนกันต่อไปว่ากางเกงและเอกสารของผู้ตายหายไปได้อย่างไรกันแน่
กำลังโหลดความคิดเห็น