มือปราบน้องแนท “วิสุทธิ์ วานิชบุตร” ทิ้งทวนเก้าอี้ผบก.ปดส.อย่างสวยหรู ด้วยการชำแหละละครของมูลนิธิ ปวีณา หงสกุล ตั้งข้อสังเกตขั้นพื้นฐานในการสอบสวนผู้ต้องหาถึง 8 ข้อ ล้วนมีเหตุผล ย้ำ เป็นการจัดฉากของผู้มีความรู้ทางด้านกฎหมาย พร้อมระบุชัด 3 คนที่ออกมามอบตัวไม่ใช่ผู้ต้องหา และเตรียมจับเข้าเครื่องจับเท็จพิสูจน์ ระบุ มี “ไอ้โม่งตัวจริงอยู่เบื้องหลัง แต่หลักฐานยังสาวไม่ถึง”
วันนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี (บก.ปดส.) พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส.เปิดแถลงข่าวต่อกรณีคลิปดารานักร้อง โฟร์-สกลรัตน์ วรอุไร และ มด-คุณัชญา ชัยรัตน์ ถูกเผยแพร่ไปตามอินเทอร์เน็ตและซีดีวางจำหน่าย หลังจากวานนี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี และ นายธิติ พูลนิติธร เจ้าของโรงแรมรื่นรมณ์ จ.ขอนแก่น นำตัว นายธีรชัย หรือ อู๊ด มูลรัตน์ อายุ 28 ปี นายวิชาญ หรือ โด้ ปะถิระนันท์ อายุ 34 ปี พ่อครัวโรงแรม และ นายรุ่งโรจน์ หรือ ตี๋ ตันสิริ อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรม มาแถลงข่าว โดยระบุว่า ทั้ง 3 คน เป็นผูมีส่วนในการถ่ายคลิปดังกล่าว ซึ่งมี นายปิยะนัส กาบละคร อายุ 21 ปี หรือ เนม ซึ่งเป็นพนักงานเสิร์ฟของโรงแรม เป็นผู้ถ่าย และแฟนสาว นายปิยะนัส เป็นผู้โหลดลงคอมพิวเตอร์ ว่า การแถลงข่าวในครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนผู้ที่สนใจในคดีได้ทราบว่า ไอ้โม่งนั้นคือใคร คนที่มามอบตัว โดยอ้างว่าเป็นผู้กระทำความผิดนั้น ใช่หรือไม่
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำของผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้กระทำความผิดทั้ง 3 คน รวมทั้งเจ้าของโรงแรม มีข้อสังเกตต่างๆ ดังนี้ 1.จากการสอบปากคำ ทั้ง 3 คนให้การไม่สอดคล้องกัน 2.คำให้การของทั้ง 3 คน ให้การผิดปกติไปจากผู้ต้องหาทั่วไป เพราะผู้ต้องหาทั่วไป พยายามปกปิด หรือปิดบังซ่อนเร้น เพื่อไม่ให้เป็นผลร้ายต่อตัวเอง แต่กลับกัน ทั้ง 3 คน กลับพยายามพูดให้ร้ายตัวเอง ซึ่งถือว่าผิดวิสัยของผู้ต้องหาทั่วไป แต่เมื่อสอบถามถึงพยานหลักฐานที่ใช้ในการกระทำผิด ก็ไม่สามารถนำมาแสดงได้ เช่น โทรศัพท์ ก็อ้างว่า ถูกขโมยไป 3.ความสม่ำเสมอ ซึ่งเจ้าของโทรศัพท์ คือ นายธีรชัย หรือ อู๊ด ให้การว่า ใช้โทรศัพท์ยี่ห้อ โนเกีย เอ็น 72 ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 14,000-15,000 บาท แต่ขณะนี้ เจ้าตัวกลับใช้แค่ รุ่น 3310 หรือ 3315 ซึ่งมีมูลค่าแค่ประมาณ 500 บาทเท่านั้น ความสม่ำเสมอดังกล่าว คือ หากมีการใช้โทรศัพท์ น่าจะมีการพัฒนาขึ้นไป เช่น โทรศัพท์ใหม่ อาจต้องดีกว่ารุ่นที่เคยใช้มาแล้ว นอกจากนี้ เมื่อสอบถาม ผู้มีความชำนาญ เรื่องโทรศัพท์มือถือ ทราบว่า โนเกียรุ่น เอ็น 72 ความคมชัดของภาพ ไม่น่าจะมาจากโทรศัพท์รุ่นดังกล่าว
ผบก.ปดส.กล่าวต่อว่า 4.ระหว่างสอบปากคำ ถึงความสำคัญเกี่ยวพันกันของเจ้าของโรงแรม กับผู้กระทำความผิดทั้งหมด นายวิชาญ หรือ โด้ ให้การว่า นายธีรชัย หรือ อู๊ด เป็นคนรับใช้ของเจ้าของโรงแรม และขณะสอบปากคำ นายธิติ พูลนิติธร เจ้าของโรงแรมนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งมาเรียกให้ออกไปคุยข้างนอก ประมาณ 5 นาที ก็กลับเข้ามาแจ้งกับตำรวจว่า เครียด ป่วย จะไม่ให้การแล้ว 5.คำให้การของ 3 คน มีข้อเคลือบแคลงสงสัยหลายประเด็น จนอาจจะต้องนำเข้าสู่ขบวนการเข้าเครื่องจับเท็จ 6.เพื่อพิสูจน์ความจริง เกี่ยวกับเทคโนโลยี จะใช้โทรศัพท์โนเกีย รุ่น เอ็น 72 ไปตรวจสอบทางเทคโนโลยี ว่า สามารถถ่ายภาพเป็นคลิปวิดีโอได้ขนาดไหน จากนั้นจะนำไปเปรียบเทียบกับคลิปตัวจริง 7.ทางตำรวจ ปดส.จะตรวจสอบประวัติ ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังของทั้ง 3 คนอย่างละเอียด 8.ในวันที่ 22 ก.ย.ที่บริษัท อาร์เอส มาแจ้งความ ในเวลา 11.00 น.ในวันนั้น นายวิชาญ หรือ โด้ ได้ถูกอุ้มหายไปจาก จ.ขอนแก่น 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 22-24 ก.ย.โดยภรรยาของเจ้าตัวไม่รู้ว่าสามีหายไปไหน และไปแจ้งความที่สภ.เมืองขอนแก่น ว่า สามีหายไป แต่พอ 4 โมงเย็นกลับเห็นสามีในทีวี ซึ่งมีข้อสังเกตว่า ทำไมจะไปมอบตัวสู้คดี หรือไปพบมูลนิธิ ทำไมไม่บอกเมียว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งเรื่องนี้ แสดงให้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง และข้อสังเกตอีกข้อ เวลามูลนิธิจะแจ้งความครั้งไหน ก็จะพาผู้เสียหายมาให้ ปดส.ทำการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน และไปจับกุม แต่คดีนี้ไม่ได้พาผู้เสียหายมาร้องทุกข์ แต่กลับไปจับกุมเอง และพาผู้ต้องหามามอบตัว ซึ่งจากการสอบปากคำทั้ง 3 คน ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ได้กระทำความผิด จึงยังไม่สามารถเป็นผู้ต้องหาได้
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ทั้ง 3 คนที่มามอบตัว ยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหา แต่จะรวบรวมพยานหลักฐาน แล้วนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาตัวจริง ที่อ้างว่า มีทั้งหมด 5 คน จริงๆ แล้วอาจจะมีแค่ 1 หรือ 2 คนที่รู้เห็นเท่านั้น ซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลัง จริงๆ แล้วไม่ใช่ 5 คนนี้ จริงๆ แล้วยังมีอีก 4-5 ประเด็นที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เป็นประเด็นสำคัญ พูดไปแล้ว อาจเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น จนทำให้ไม่สามารถจับกุมได้
“ถ้าพูดไป อาจจะมีการไปพลิกเกม ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน (อู๊ด โด้ ตี๋ เนม และแฟนเนม) ที่อ้างว่ากระทำผิด มีการตั้งมาโดยผู้ที่มีความรู้ทางกฏหมาย และอาจจะเอาผิดอะไรไม่ได้เลย โดยทั้ง 3 คน (อู๊ด โด้ ตี๋) ไม่มีความผิดตามกฎหมาย ถ้าผิด อาจจะแค่ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท ที่สำคัญปรับไม่ได้ เพราะอายุความขาด ส่วนนายเนม ที่อ้างว่าเป็นคนถ่าย ก็ไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แค่ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งก็ไม่สามารถเอาผิดได้อีก เพราะขาดอายุคความ ส่วนคนสุดท้ายที่อ้างว่า เป็นแฟนของ นายเนม กลับไม่มีชื่อ เป็นการตัดบทไป ทำให้ตำรวจไม่สามารถสืบสวนไปถึงตัวสุดท้ายของเรื่องนี้ได้ แต่ก็อาจจะเข้าข่ายหมิ่นประมาท โดยการแพร่ภาพได้” พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถแจ้งข้อหากับ 3 คน ที่มามอบตัวได้หรือไม่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถแจ้งได้ แต่จากการสอบปากคำพบว่า เป็นการให้การเท็จ ก็อาจจะแจ้งข้อหา ให้การเท็จ และที่มามอบตัว เป็นการกระทำเพื่อช่วยให้คนทำผิดจริงไม่ต้องรับโทษ ก็จะมีความผิดฐานช่วยให้ผู้อื่นไม่ต้องรับโทษทางอาญาด้วย
เมื่อซักว่า นายปิยะนัส หรือ เนม ที่เป็นคนถ่าย มีตัวตนจริงหรือไม่ ผบก.ปดส.ยืนยันว่า มีตัวตนจริง จากการตรวจสอบ คือ นายปิยะนัส กาบละคร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/2 หมู่ 20 ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น แต่มีข้อสังเกตว่า ไปเป็นทหารที่ จ.ยะลา ทำไมไม่ถูกส่งตัวไปที่สระบุรี ชลบุรี หรือ นครปฐม ซึ่งขณะนี้ กำลังตรวจสอบอยู่ว่า เป็นทหารจริงหรือไม่ ถ้าเป็นจริง ต้องตรวจสอบว่า เป็นทหารอะไร อยู่หน่วยไหน จากนั้นจะทำหนังสือให้ทางต้นสังกัดส่งตัวมา แต่ความจริงแล้ว ถึงได้ตัว นายเนม มา ก็ไม่สามารถแจ้งข้อหาอะไรได้ เพราะไม่เข้าข่ายความผิดทางคอมพิวเตอร์
“แต่คนที่ 5 ซึ่งเป็นคนสำคัญ กลับไม่มีชื่อ เป็นใคร โดยทั้ง 3 คนบอกว่า เคยเห็น เป็นนักเรียนอยู่ในขอนแก่นเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ จะไปตามหาได้ที่ไหน แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการจัดฉากขึ้นมา สุดท้ายตำรวจจะใช้ทั้ง 3 คน เป็นสะพานไปจับผู้ต้องหาตัวจริง 5 คนที่เอ่ยมา เป็นแพะ ตัวไอ้โม่งจริงๆไม่ใช่ 5 คนนี้” พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวย้ำ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ทราบหรือไม่ว่า ก่อนที่จะมาแถลงข่าว กลุ่มผู้ต้องหาทำอะไร อยู่ที่ไหน พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ทราบแต่เพียงว่า จะมีการแถลงข่าวตอนบ่ายสองเมื่อวานนี้ และคุณปวีณา ก็ชวนให้ไปแถลงด้วย แต่ตนไม่ไป เพราะรู้มานานแล้วว่า จริงๆ ไม่ใช่ 5 คนนี้ และก็รู้แล้วว่า เป็นใคร แต่ถ้าถามว่า รู้แล้วทำไมไม่ไปจับ ก็เพราะว่า ยังไม่มีหลักฐาน
“ทางพวกนี้ ก็เลยสร้างละครขึ้นมาก่อน เหมือนให้สังคมรู้ว่า จับตัวได้แล้ว ส่วนคนที่ทำผิดจริง ก็จะได้ลอยนวลไป คนวางแผน มีความรู้ทางด้านกฏหมาย ตัวละคร แต่ละตัวไม่ได้มีความผิด ผิดเล็กน้อย หมดอายุความไปแล้ว สามารถตั้งตัวละครมาได้ดี แถมปิดตัวที่ 5 ไมให้มีชื่ออีกด้วย” พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ย้ำอีกครั้ง
เมื่อถามว่า อีก 6 วัน พล.ต.ต.วิสุทธิ์ จะต้องเดินทางไปรับตำแหน่ง ผบก.อ่างทอง จะทำอย่างไรกับคดีนี้ต่อไป พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนทุกคน และ พ.ต.อ.นวพล กันคล้อย ผกก.ฝป.4 บก.ปดส.มีความรู้ความสามารถ ทำงานเพื่อสร้างชื่อให้ บก.ปดส.ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ กินเงินภาษีของประชาชน ต้องทำให้ได้ เพราะมีอำนาจในการสืบสวนจับกุม
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เป็นที่น่าสังเกตหรือไม่ว่า ทำไมบริษัท อาร์เอส ไม่กระตือรือร้นในการแจ้งความ ผบก.ปดส.ตอบว่า คนถามก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว เป็นไปได้ว่า น้อง 2 คนนี้ เริ่มตกแล้ว ดาราชายนั้นปั้นง่ายกว่ ดาราหญิง ส่วนจะเป็นเหตุผลอะไร ไม่ทราบ
ผบก.ปดส.ยังตอบคำถามที่ว่า คนที่อยู่เบื้องหลัง ที่ทำให้ทั้ง 3 คนออกมารับแทน มีอิทธิพลมากแค่ไหนด้วยว่า มีอิทธิพลมาก ถ้าไม่ออกมาปกป้อง อาจจะเข้าตัว หรืออาจเป็นบุญคุณอะไรบางอย่าง
“การที่ออกมารับในวันนั้น อาจจะมีเบื้องหลัง โดยบอกว่า ไม่ต้องห่วงให้ออกไป รับๆ ไป ผิดแค่นี้ ทำอะไรไม่ได้หรอก ตาวิสุทธิ์มันโง่จะตาย เดี๋ยวก็พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว พวกนี้ คิดกันแค่นี้” พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าว
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ยังแสดงความมั่นใจด้วยว่า การถ่ายคลิปของนักร้องสาวทั้ง 2 คน เชื่อว่า น่าจะทำเพราะความคึกคะนองมากกว่าจะมีการทำเป็นขบวนการ เพราะหากมีการทำเป็นขบวนการ ไม่เกิน 3 วัน คลิปจะต้องออกมาแผยแพร่แล้ว ซึ่งตัวคนถ่าย อาจจะถ่ายไว้ เพื่อเก็บไว้ว่า ตนเอง ถ่ายดาราไว้ได้
“จบข่าว แล้วเจอกันที่อ่างทอง มีปลาน้ำจืดอร่อย”พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายเป็นการอำลาตำแหน่งผบก.ปดส. ซึ่งจะเดินทางไปรับตำแหน่งผบก.อ่างทองในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ตามคำสั่งโยกย้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
วันนี้ (25 ก.ย.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี (บก.ปดส.) พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส.เปิดแถลงข่าวต่อกรณีคลิปดารานักร้อง โฟร์-สกลรัตน์ วรอุไร และ มด-คุณัชญา ชัยรัตน์ ถูกเผยแพร่ไปตามอินเทอร์เน็ตและซีดีวางจำหน่าย หลังจากวานนี้ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี และ นายธิติ พูลนิติธร เจ้าของโรงแรมรื่นรมณ์ จ.ขอนแก่น นำตัว นายธีรชัย หรือ อู๊ด มูลรัตน์ อายุ 28 ปี นายวิชาญ หรือ โด้ ปะถิระนันท์ อายุ 34 ปี พ่อครัวโรงแรม และ นายรุ่งโรจน์ หรือ ตี๋ ตันสิริ อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรม มาแถลงข่าว โดยระบุว่า ทั้ง 3 คน เป็นผูมีส่วนในการถ่ายคลิปดังกล่าว ซึ่งมี นายปิยะนัส กาบละคร อายุ 21 ปี หรือ เนม ซึ่งเป็นพนักงานเสิร์ฟของโรงแรม เป็นผู้ถ่าย และแฟนสาว นายปิยะนัส เป็นผู้โหลดลงคอมพิวเตอร์ ว่า การแถลงข่าวในครั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนผู้ที่สนใจในคดีได้ทราบว่า ไอ้โม่งนั้นคือใคร คนที่มามอบตัว โดยอ้างว่าเป็นผู้กระทำความผิดนั้น ใช่หรือไม่
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำของผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้กระทำความผิดทั้ง 3 คน รวมทั้งเจ้าของโรงแรม มีข้อสังเกตต่างๆ ดังนี้ 1.จากการสอบปากคำ ทั้ง 3 คนให้การไม่สอดคล้องกัน 2.คำให้การของทั้ง 3 คน ให้การผิดปกติไปจากผู้ต้องหาทั่วไป เพราะผู้ต้องหาทั่วไป พยายามปกปิด หรือปิดบังซ่อนเร้น เพื่อไม่ให้เป็นผลร้ายต่อตัวเอง แต่กลับกัน ทั้ง 3 คน กลับพยายามพูดให้ร้ายตัวเอง ซึ่งถือว่าผิดวิสัยของผู้ต้องหาทั่วไป แต่เมื่อสอบถามถึงพยานหลักฐานที่ใช้ในการกระทำผิด ก็ไม่สามารถนำมาแสดงได้ เช่น โทรศัพท์ ก็อ้างว่า ถูกขโมยไป 3.ความสม่ำเสมอ ซึ่งเจ้าของโทรศัพท์ คือ นายธีรชัย หรือ อู๊ด ให้การว่า ใช้โทรศัพท์ยี่ห้อ โนเกีย เอ็น 72 ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 14,000-15,000 บาท แต่ขณะนี้ เจ้าตัวกลับใช้แค่ รุ่น 3310 หรือ 3315 ซึ่งมีมูลค่าแค่ประมาณ 500 บาทเท่านั้น ความสม่ำเสมอดังกล่าว คือ หากมีการใช้โทรศัพท์ น่าจะมีการพัฒนาขึ้นไป เช่น โทรศัพท์ใหม่ อาจต้องดีกว่ารุ่นที่เคยใช้มาแล้ว นอกจากนี้ เมื่อสอบถาม ผู้มีความชำนาญ เรื่องโทรศัพท์มือถือ ทราบว่า โนเกียรุ่น เอ็น 72 ความคมชัดของภาพ ไม่น่าจะมาจากโทรศัพท์รุ่นดังกล่าว
ผบก.ปดส.กล่าวต่อว่า 4.ระหว่างสอบปากคำ ถึงความสำคัญเกี่ยวพันกันของเจ้าของโรงแรม กับผู้กระทำความผิดทั้งหมด นายวิชาญ หรือ โด้ ให้การว่า นายธีรชัย หรือ อู๊ด เป็นคนรับใช้ของเจ้าของโรงแรม และขณะสอบปากคำ นายธิติ พูลนิติธร เจ้าของโรงแรมนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งมาเรียกให้ออกไปคุยข้างนอก ประมาณ 5 นาที ก็กลับเข้ามาแจ้งกับตำรวจว่า เครียด ป่วย จะไม่ให้การแล้ว 5.คำให้การของ 3 คน มีข้อเคลือบแคลงสงสัยหลายประเด็น จนอาจจะต้องนำเข้าสู่ขบวนการเข้าเครื่องจับเท็จ 6.เพื่อพิสูจน์ความจริง เกี่ยวกับเทคโนโลยี จะใช้โทรศัพท์โนเกีย รุ่น เอ็น 72 ไปตรวจสอบทางเทคโนโลยี ว่า สามารถถ่ายภาพเป็นคลิปวิดีโอได้ขนาดไหน จากนั้นจะนำไปเปรียบเทียบกับคลิปตัวจริง 7.ทางตำรวจ ปดส.จะตรวจสอบประวัติ ทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังของทั้ง 3 คนอย่างละเอียด 8.ในวันที่ 22 ก.ย.ที่บริษัท อาร์เอส มาแจ้งความ ในเวลา 11.00 น.ในวันนั้น นายวิชาญ หรือ โด้ ได้ถูกอุ้มหายไปจาก จ.ขอนแก่น 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 22-24 ก.ย.โดยภรรยาของเจ้าตัวไม่รู้ว่าสามีหายไปไหน และไปแจ้งความที่สภ.เมืองขอนแก่น ว่า สามีหายไป แต่พอ 4 โมงเย็นกลับเห็นสามีในทีวี ซึ่งมีข้อสังเกตว่า ทำไมจะไปมอบตัวสู้คดี หรือไปพบมูลนิธิ ทำไมไม่บอกเมียว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งเรื่องนี้ แสดงให้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง และข้อสังเกตอีกข้อ เวลามูลนิธิจะแจ้งความครั้งไหน ก็จะพาผู้เสียหายมาให้ ปดส.ทำการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน และไปจับกุม แต่คดีนี้ไม่ได้พาผู้เสียหายมาร้องทุกข์ แต่กลับไปจับกุมเอง และพาผู้ต้องหามามอบตัว ซึ่งจากการสอบปากคำทั้ง 3 คน ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ได้กระทำความผิด จึงยังไม่สามารถเป็นผู้ต้องหาได้
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า ทั้ง 3 คนที่มามอบตัว ยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหา แต่จะรวบรวมพยานหลักฐาน แล้วนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาตัวจริง ที่อ้างว่า มีทั้งหมด 5 คน จริงๆ แล้วอาจจะมีแค่ 1 หรือ 2 คนที่รู้เห็นเท่านั้น ซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลัง จริงๆ แล้วไม่ใช่ 5 คนนี้ จริงๆ แล้วยังมีอีก 4-5 ประเด็นที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เป็นประเด็นสำคัญ พูดไปแล้ว อาจเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น จนทำให้ไม่สามารถจับกุมได้
“ถ้าพูดไป อาจจะมีการไปพลิกเกม ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน (อู๊ด โด้ ตี๋ เนม และแฟนเนม) ที่อ้างว่ากระทำผิด มีการตั้งมาโดยผู้ที่มีความรู้ทางกฏหมาย และอาจจะเอาผิดอะไรไม่ได้เลย โดยทั้ง 3 คน (อู๊ด โด้ ตี๋) ไม่มีความผิดตามกฎหมาย ถ้าผิด อาจจะแค่ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งเป็นความผิดลหุโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท ที่สำคัญปรับไม่ได้ เพราะอายุความขาด ส่วนนายเนม ที่อ้างว่าเป็นคนถ่าย ก็ไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แค่ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งก็ไม่สามารถเอาผิดได้อีก เพราะขาดอายุคความ ส่วนคนสุดท้ายที่อ้างว่า เป็นแฟนของ นายเนม กลับไม่มีชื่อ เป็นการตัดบทไป ทำให้ตำรวจไม่สามารถสืบสวนไปถึงตัวสุดท้ายของเรื่องนี้ได้ แต่ก็อาจจะเข้าข่ายหมิ่นประมาท โดยการแพร่ภาพได้” พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถแจ้งข้อหากับ 3 คน ที่มามอบตัวได้หรือไม่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถแจ้งได้ แต่จากการสอบปากคำพบว่า เป็นการให้การเท็จ ก็อาจจะแจ้งข้อหา ให้การเท็จ และที่มามอบตัว เป็นการกระทำเพื่อช่วยให้คนทำผิดจริงไม่ต้องรับโทษ ก็จะมีความผิดฐานช่วยให้ผู้อื่นไม่ต้องรับโทษทางอาญาด้วย
เมื่อซักว่า นายปิยะนัส หรือ เนม ที่เป็นคนถ่าย มีตัวตนจริงหรือไม่ ผบก.ปดส.ยืนยันว่า มีตัวตนจริง จากการตรวจสอบ คือ นายปิยะนัส กาบละคร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/2 หมู่ 20 ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น แต่มีข้อสังเกตว่า ไปเป็นทหารที่ จ.ยะลา ทำไมไม่ถูกส่งตัวไปที่สระบุรี ชลบุรี หรือ นครปฐม ซึ่งขณะนี้ กำลังตรวจสอบอยู่ว่า เป็นทหารจริงหรือไม่ ถ้าเป็นจริง ต้องตรวจสอบว่า เป็นทหารอะไร อยู่หน่วยไหน จากนั้นจะทำหนังสือให้ทางต้นสังกัดส่งตัวมา แต่ความจริงแล้ว ถึงได้ตัว นายเนม มา ก็ไม่สามารถแจ้งข้อหาอะไรได้ เพราะไม่เข้าข่ายความผิดทางคอมพิวเตอร์
“แต่คนที่ 5 ซึ่งเป็นคนสำคัญ กลับไม่มีชื่อ เป็นใคร โดยทั้ง 3 คนบอกว่า เคยเห็น เป็นนักเรียนอยู่ในขอนแก่นเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ จะไปตามหาได้ที่ไหน แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการจัดฉากขึ้นมา สุดท้ายตำรวจจะใช้ทั้ง 3 คน เป็นสะพานไปจับผู้ต้องหาตัวจริง 5 คนที่เอ่ยมา เป็นแพะ ตัวไอ้โม่งจริงๆไม่ใช่ 5 คนนี้” พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวย้ำ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ทราบหรือไม่ว่า ก่อนที่จะมาแถลงข่าว กลุ่มผู้ต้องหาทำอะไร อยู่ที่ไหน พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ทราบแต่เพียงว่า จะมีการแถลงข่าวตอนบ่ายสองเมื่อวานนี้ และคุณปวีณา ก็ชวนให้ไปแถลงด้วย แต่ตนไม่ไป เพราะรู้มานานแล้วว่า จริงๆ ไม่ใช่ 5 คนนี้ และก็รู้แล้วว่า เป็นใคร แต่ถ้าถามว่า รู้แล้วทำไมไม่ไปจับ ก็เพราะว่า ยังไม่มีหลักฐาน
“ทางพวกนี้ ก็เลยสร้างละครขึ้นมาก่อน เหมือนให้สังคมรู้ว่า จับตัวได้แล้ว ส่วนคนที่ทำผิดจริง ก็จะได้ลอยนวลไป คนวางแผน มีความรู้ทางด้านกฏหมาย ตัวละคร แต่ละตัวไม่ได้มีความผิด ผิดเล็กน้อย หมดอายุความไปแล้ว สามารถตั้งตัวละครมาได้ดี แถมปิดตัวที่ 5 ไมให้มีชื่ออีกด้วย” พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ย้ำอีกครั้ง
เมื่อถามว่า อีก 6 วัน พล.ต.ต.วิสุทธิ์ จะต้องเดินทางไปรับตำแหน่ง ผบก.อ่างทอง จะทำอย่างไรกับคดีนี้ต่อไป พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนทุกคน และ พ.ต.อ.นวพล กันคล้อย ผกก.ฝป.4 บก.ปดส.มีความรู้ความสามารถ ทำงานเพื่อสร้างชื่อให้ บก.ปดส.ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ กินเงินภาษีของประชาชน ต้องทำให้ได้ เพราะมีอำนาจในการสืบสวนจับกุม
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เป็นที่น่าสังเกตหรือไม่ว่า ทำไมบริษัท อาร์เอส ไม่กระตือรือร้นในการแจ้งความ ผบก.ปดส.ตอบว่า คนถามก็น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว เป็นไปได้ว่า น้อง 2 คนนี้ เริ่มตกแล้ว ดาราชายนั้นปั้นง่ายกว่ ดาราหญิง ส่วนจะเป็นเหตุผลอะไร ไม่ทราบ
ผบก.ปดส.ยังตอบคำถามที่ว่า คนที่อยู่เบื้องหลัง ที่ทำให้ทั้ง 3 คนออกมารับแทน มีอิทธิพลมากแค่ไหนด้วยว่า มีอิทธิพลมาก ถ้าไม่ออกมาปกป้อง อาจจะเข้าตัว หรืออาจเป็นบุญคุณอะไรบางอย่าง
“การที่ออกมารับในวันนั้น อาจจะมีเบื้องหลัง โดยบอกว่า ไม่ต้องห่วงให้ออกไป รับๆ ไป ผิดแค่นี้ ทำอะไรไม่ได้หรอก ตาวิสุทธิ์มันโง่จะตาย เดี๋ยวก็พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว พวกนี้ คิดกันแค่นี้” พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าว
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ ยังแสดงความมั่นใจด้วยว่า การถ่ายคลิปของนักร้องสาวทั้ง 2 คน เชื่อว่า น่าจะทำเพราะความคึกคะนองมากกว่าจะมีการทำเป็นขบวนการ เพราะหากมีการทำเป็นขบวนการ ไม่เกิน 3 วัน คลิปจะต้องออกมาแผยแพร่แล้ว ซึ่งตัวคนถ่าย อาจจะถ่ายไว้ เพื่อเก็บไว้ว่า ตนเอง ถ่ายดาราไว้ได้
“จบข่าว แล้วเจอกันที่อ่างทอง มีปลาน้ำจืดอร่อย”พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายเป็นการอำลาตำแหน่งผบก.ปดส. ซึ่งจะเดินทางไปรับตำแหน่งผบก.อ่างทองในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ตามคำสั่งโยกย้ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
