ตัวแทนบริษัทต้นสังกัดของนักร้องสาวดูโอ “โฟร์-มด” เข้าแจ้งความ ปดส.ให้ลากคอผู้กระทำการแอบถ่ายคลิปนักร้องสาวมาลงโทษ วอนสังคมลบคลิปทิ้ง ด้วยสภาพจิตใจ 2 นักร้องสาวบอบช้ำมาก ขณะที่ “ผู้การวิสุทธิ์” ยังฟุ้งเป็นน้ำท่วมทุ่ง แต่ยังจับมือถ่ายและมือแพร่ภาพไม่ได้
วันนี้ (22 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็กเยาวชนและสตรี (บก.ปดส.) นายสุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ กรรมการและผู้อำนวยการสายงานกฎหมายและปราบปราม บริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด ในเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายภูษิต สุขวัฒนผล ผู้รับมอบอำนาจจากน้องร้องดูโอสาว โฟร์-สกลรัตน์ วรอุไร และ มด-คุณัชญา ชัยรัตน์ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ลอบแอบถ่ายคลิปวีดีโอของสองนักร้องสาวขณะทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำของโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.ขอนแก่น
นายสุทธิศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับมอบอำนาจจากศิลปินสาวทั้งสองให้มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่ร่วมกันถ่ายคลิปโดยดำเนินคดีอาญาให้ถึงที่สุด ซึ่งเป็นแผนงานของทางบริษัทฯ อยู่แล้วที่จะเข้าแจ้งความ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ 4-5 วัน ได้ประสานกับ ผบก.ปดส.ในทางลับมาโดยตลอด สำหรับสภาพจิตใจของนักร้องทั้งสอง ถือว่าบอบช้ำกับการกระทำครั้งนี้มาก จึงอยากให้สังคมให้ความเมตตาสงสาร และขอให้ผู้ที่มีคลิปดังกล่าวลบทิ้ง รวมทั้งไม่เผยแพร่ต่อ ส่วนผู้ประกอบการโรงแรมที่เกิดเหตุนั้นตนก็อยากให้ออกมารับผิดชอบในส่วนที่มีการปล่อยปละให้มีการลักลอบถ่ายคลิปนี้ในโรงแรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางบริษัทมีความสงสัยคนในว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายสุทธิศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่ตรวจสอบได้ก็มีความเชื่อในระดับหนึ่ง ว่า ไม่น่าจะเป็นฝีมือของคนในบริษัทฯ แต่น่าจะทางโรงแรมที่พักเอง เมื่อถามต่อว่า การเข้าแจ้งความครั้งนี้เป็นการดำเนินการที่ช้าไปหรือไม่ นายสุทธิศักดิ์ ตอบว่า เรื่องนี้ทางบริษัทฯ มีการทำงานเป็นขั้นตอนเราต้องปกป้องศิลปินเพราะเป็นผู้เสียหายถูกกระทำ และส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากน้องโฟร์ ยังอยู่ต่างประเทศ ส่วนน้องมดก็มีสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ แต่เมื่อทุกอย่างมีความพร้อมจึงเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี ส่วนการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งนั้นทางผู้บริหารของบริษัทจะได้ประชุมเพื่อพิจารณากันต่อไป
“เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ถือว่าเป็นกรณีศึกษาเป็นบทเรียนสำคัญให้กับทางบริษัทฯ เมื่อมีการรับงานให้กับศิลปินในค่าย ว่าจะจัดหาที่พักเองหรือจะใช้ที่พักซึ่งผู้รับงานจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับศิลปินได้อีก” นายสุทธิศักดิ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า เมื่อทางผู้เสียหายได้มอบอำนาจผู้แทนเข้าแจ้งความก็จะได้เร่งรวบรวมหลักฐานต่างๆ แต่หากย้อนไปก่อนหน้านี้ ปดส.ได้ประสานกับทางบริษัทต้นสังกัดของศิลปินสาวทั้งสองอย่างไม่เป็นทางการซึ่งได้มีการบอกเล่ารายละเอียดขั้นตอนว่า นักร้องทั้งสองได้ไปแสดงคอนเสิร์ตที่ไหน เข้าพักที่ไหน ห้องไหน วันเวลาที่เข้าห้องพัก แต่การรู้อย่างนั้นยังไม่สามารถตั้งเรื่องไปขออนุมัติหมายค้นจากศาลได้
ผบก.ปดส.กล่าวต่อว่า ในเมื่อมีการแจ้งความเอาผิดอย่างเป็นทางการแล้วก็จะได้สอบปากคำเพื่อรวบรวมข้อมูลที่มาที่ไปหลังจากนั้นก็จะขออนุมัติศาลออกหมายค้น และจะไปค้นในทุกสถานที่ซึ่งเชื่อว่ามีหลักฐานทางคดีหลงเหลืออยู่ และหากเจอตัวบุคคลที่กระทำความผิดมีหลักฐานขณะกำลังเผยแพร่คลิปลับก็สามารถจับกุมได้ทันทีเพราะถือเป็นความผิดซึ่งหน้า แต่ถ้าไม่พบผู้กระทำความผิดก็จะขออนุมัติหมายจับเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
“ในส่วนเว็บไซต์ต่างๆ หากตรวจสอบพบว่าผู้ใดก็แล้วแต่ที่นำคลิปของผู้เสียหายไปเผยแพร่ก็จะต้องถูกดำเนินคดี ผมขอแจ้งเตือนไว้ก่อนว่าหากใครนำไปเผยแพร่ต่อทางอินเทอร์เน็ตก็ถูกดำเนินคดีด้วยตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ส่วนใครที่นำไปเรียกรับผลประโยชน์ด้วยการซื้อขายก็จะถูกดำเนินคดีด้วย สุดท้ายหากผู้ใดนำภาพมาตีพิมพ์บันทึกลงแผ่นซีดีก็ถูกดำเนินคดีถึงที่สุด” พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าว
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อโทรทัศน์บางช่องเข้าไปถ่ายโรงแรมสถานที่เกิดเหตุ ว่า ไม่ใช่แค่แหวกหญ้าให้งูตื่นเท่านั้นแต่เหมือนเข้าไปถางหญ้าให้หมด ทำให้การทำงานของตำรวจที่จะรวบรวมหลักฐานทางคดีทำได้ยากเพราะใครจะเก็บหลักฐานเอาไว้ สำหรับคดีนี้ก็ไม่จำเป็นต้องสอบปากคำผู้เสียหายเองเพียงแต่สอบปากคำผู้แทนรวมไปถึงผู้จัดการคณะทัวร์คอนเสิร์ตในครั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเอาผิดกับเจ้าของโรงแรมที่พัก พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเข้าใจทางผู้ประกอบการ เพราะหากมีการถ่ายภายในห้องพักทางโรงแรมก็คงปฏิเสธไม่ได้แต่จุดที่มีการลักลอบถ่ายนั้นเป็นบริเวณด้านนอกเป็นใครก็ได้ที่จะเข้าไปเรายังไม่สามารถเจาะจงได้ อย่างไรก็ตามทางโรงแรมก็ต้องแสดงความรับผิดชอบบ้างในกรณีที่ไม่สามารถให้ความปลอดภัยกับผู้เข้าพัก
ต่อข้อถามว่า ขณะนี้สามารถระบุชื่อผู้ลงมือถ่ายภาพคลิปลับเป็นชื่อย่อได้หรือไม่ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุชี้ชัดได้ในชั้นนี้ คงจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานสอบปากคำผู้รับมอบอำนาจอย่างละเอียด สอบปากคำทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่เกิดเหตุและผู้ที่เข้าพักในห้องพักใกล้เคียงข้อมูลเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้วเพื่อนำพยานหลักฐานมาประกอบกันก่อนจะมีการออกหมายจับผู้กระทำความผิด
พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า คดีลักษณะนี้ทาง ปดส.มีมาตรฐานเดียว ไม่ว่าจะเป็นนักร้อง นักแสดง เป็นคนมีชื่อเสียง หรือเป็นบุคคลทั่วไปก็จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเช่นเดียวกัน ที่ผ่านมาตนทำคดีแบบนี้มาแล้ว 40-50 คดี แต่ก็ไม่เป็นข่าว เพราะผู้เสียหายไม่ใช่บุคคลสาธารณะ