เจ้าของฉายามือปราบน้องแนท และมือปราบปลาปักเป้า ขอทิ้งทวนก่อนโยกไปรับตำแหน่งผู้การอ่างทอง ขันอาสาส่งตำรวจตามล่ามือเผยแพร่คลิป “โฟร์-มด” ระบุในคลิปใช่ตัวจริงหรือไม่ใช่ไม่สำคัญ แต่ถือว่ากระทำผิดแล้ว
วันนี้ (18 ก.ย.) พล.ต.ต วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส. กล่าวถึงกรณีข่าวคลิปภาพลับสองนักร้องสาวดูโอชื่อดัง “โฟร์” ศกลรัตน์ วรอุไร และ “มด” ชุติมณฑน์ ชัยรัตน์ ที่ถูกเผยแพร่และมีพ่อค้านำไปวางจำหน่ายตามสถานที่ต่างๆ ว่า เรื่องนี้ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เบื้องต้นก็ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก. ฝป.10 บก.ปดส.ตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ในขณะนี้ว่าคลิปที่ปรากฏตามข่าวนั้นมีข้อเท็จจริงอย่างไร เป็นภาพจริงหรือว่าเป็นเพียงแค่ภาพของคนหน้าเหมือน แต่ในทางกฎหมายแล้วตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้ก็ถือว่ามีการกระทำความผิดแล้ว ผู้เสียหายก็สามารถจะเข้ามาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงของผู้เสียหายหรือไม่ใช่ ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
“เรื่องนี้แม้จะไม่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความก็ตาม ก็ถือว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 เรื่องการนำเอาภาพของคนอื่นมาหาวัตถุประสงค์แห่งการค้า ซึ่งมีโทษจำคุกถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ปี 2550 มีโทษจำคุกถึง 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ นอกจากนี้ก็จะเป็นความผิดในข้อหาหมิ่นประมาท ที่มีทั้งโทษทางอาญา และทางแพ่ง ซึ่งผู้เสียหายสามารถจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อตัวผู้ต้องหาได้อีกด้วย” พล.ต.ต.วิสุทธิ์กล่าว
วันนี้ (18 ก.ย.) พล.ต.ต วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส. กล่าวถึงกรณีข่าวคลิปภาพลับสองนักร้องสาวดูโอชื่อดัง “โฟร์” ศกลรัตน์ วรอุไร และ “มด” ชุติมณฑน์ ชัยรัตน์ ที่ถูกเผยแพร่และมีพ่อค้านำไปวางจำหน่ายตามสถานที่ต่างๆ ว่า เรื่องนี้ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เบื้องต้นก็ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก. ฝป.10 บก.ปดส.ตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ในขณะนี้ว่าคลิปที่ปรากฏตามข่าวนั้นมีข้อเท็จจริงอย่างไร เป็นภาพจริงหรือว่าเป็นเพียงแค่ภาพของคนหน้าเหมือน แต่ในทางกฎหมายแล้วตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้ก็ถือว่ามีการกระทำความผิดแล้ว ผู้เสียหายก็สามารถจะเข้ามาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงของผู้เสียหายหรือไม่ใช่ ก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
“เรื่องนี้แม้จะไม่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความก็ตาม ก็ถือว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 เรื่องการนำเอาภาพของคนอื่นมาหาวัตถุประสงค์แห่งการค้า ซึ่งมีโทษจำคุกถึง 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ ปี 2550 มีโทษจำคุกถึง 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ นอกจากนี้ก็จะเป็นความผิดในข้อหาหมิ่นประมาท ที่มีทั้งโทษทางอาญา และทางแพ่ง ซึ่งผู้เสียหายสามารถจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อตัวผู้ต้องหาได้อีกด้วย” พล.ต.ต.วิสุทธิ์กล่าว