ตำรวจงมโข่ง คดียิงเด็กรามไล่ “หมัก”

คดีคนร้ายกราดยิงใส่กลุ่ม นศ.ราม ขณะเดินหน้าบุกบ้านนายกฯ สมัครยังไม่คืบหน้า “จงรัก” อ้างต้องใช้เวลาแถมตำรวจมีภารกิจมาก ทั้งคดีลักวิ่งชิงปล้น ผู้การ 4 ยันตรวจกล้องวงจรปิดพบภาพ จยย.ต้องสงสัย แต่ยังต้องประมวลหลักฐานก่อนออกภาพสเก็ตซ์คนร้าย

วันนี้ (6 ก.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายสุเทพ คำขันตี ประธานคณะที่ปรึกษา บก.น.6 พร้อมคณะประมาณ 20 คน นำอาหาร เครื่องดื่มและกระดาษชำระ ประเภทต่างๆ มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัยระหว่างการชุมนุม โดยมี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. รักษาการ ผบช.น. พล.ต.ต.วิบูลย์ บางท่าไม้ รอง ผบช.น.เป็นตัวแทนรับมอบ

ภายหลัง พล.ต.อ.จงรัก กล่าวถึงกรณีนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงถูกยิงบาดเจ็บ 2 คน ขณะกำลังเดินทางไปประท้วงขับไล่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่หมู่บ้านโอฬาร ท้องที่ สน.ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า คดีนี้ยังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนโดยตั้งสาเหตุไว้ 3-4 ประเด็นกว้างๆ ส่วนที่นักศึกษาบีบให้หาคนร้ายมาลงโทษใน 2 สัปดาห์นั้น คงจะเป็นไปไม่ได้ ตำรวจต้องใช้เวลาในการสอบสวน นอกจากนี้ยังมีคดี ลัก วิ่ง ชิง ปล้น อีกมากมาย ไม่ใช่คดีนี้คดีเดียวที่ต้องทำ ส่วนด้านการจะออกภาพสเก็ตซ์คนร้ายนั้นสอบสวนแล้วก็ไม่มีใครเห็นหน้าชัดเจน จึงต้องหาหลักฐานต่อไป

นอกจากนี้ พล.ต.อ.จงรัก กล่าวถึงกรณีที่นักศึกษาจะออกมาร่วมชุมนุมตัวกันกับกลุ่มพันธมิตรว่า ขอร้องให้นักศึกษาพิจารณาให้ดี เพราะจะเป็นการละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ ส่วนเรื่องกำลังของตำรวจก็ยังประจำการอยู่ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อคอยดูแลเหมือนเดิม แต่ก็รอฟังคำสั่งจากทางทหารอยู่ว่าจะปฏิบัติอย่างไรต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 เปิดเผยว่า กรณีที่นักศึกษาถูกยิงนั้นได้ให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดแล้ว แต่ในสถานที่เกิดเหตุไม่มี มีแต่จุดอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม สามารถจับภาพรถ จยย.ต้องสงสัยได้ ซึ่งต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าจะพิจารณาออกภาพสเก็ตซ์ได้หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ลิขิต กลิ่นอวล รอง ผบช.น.ได้เรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.นางเลิ้ง สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.1 และศูนย์สืบสวน บช.น. เพื่อเข้าประชุมความคืบหน้าของคดีเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่มีการเปิดเผยในเรื่องนี้แต่อย่างใด