รอง ผบ.ตร.เชื่อมือที่ 3 ยิงใส่กลุ่มนักศึกษา ม.รามฯ ที่จะเดินทางไปประท้วงที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี ขณะที่แนวทางการสอบสวนสืบสวน ตำรวจยังคงตั้งประเด็นไว้หลากหลายประเด็น ทั้งความไม่พอใจที่ นศ.ออกมาชุมนุมในกลางคืน การเมืองในมหาวิทยาลัย เรื่องส่วนตัว และมือที่ 3 สร้างสถานการณ์
วันนี้ (5 ก.ย.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. รักษาการ ผบช.น. กล่าวถึงกรณีคนร้ายยิงใส่กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน ที่แฟลตคลองจั่น 11 ขณะเดินทางไปประท้วงและขับไล่ให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ลาออก ที่หมู่บ้านโอฬาร เมื่อค่ำวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมาว่า น่าจะเป็นผู้ไม่พอใจที่มีการเดินขบวน หรืออาจเป็นมือที่ 3 ส่วนรายละเอียดเรื่องปูมหลังของนักศึกษาว่าเป็นใครมาจากไหนยังไม่ทราบ แต่จะพยายามดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เรื่องการเมือง เบื้องหลังอย่างไรก็คงยากที่จะไปดู เวลานี้เดือดร้อนมากมาย การที่ตำรวจจะจับคนสักคนไปดำเนินคดีไม่ใช่เรื่องง่าย มันวุ่นวายมากขึ้น
ต่อมา เมื่อเวลา 11.00 น.พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.สรรักษ์ จูสนิท ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.สมศักดิ์ บุญแสง ผกก.สน.ลาดพร้าว ได้เรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.สส.บก.น.4 เข้าประชุมเพื่อติดตามความคิดหน้าของคดีดังกล่าวโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ต.วิมล เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เรียกเจ้าหน้าที่มาประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์และสรุปความคืบหน้า โดยในเบื้องต้นทางฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว ได้ตั้งประเด็นการก่อเหตุไว้ 4 ประเด็น คือประเด็นแรกอาจเป็นเรื่อง ความขัดแย้งกันเองของแกนนำกลุ่มแต่ละกลุ่มภายในมหาวิทยาลัย ประเด็นที่ 2 คือ เกิดความขัดแย้งกันเองภายในขบวน เพราะได้ระดมพลมาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง แล้วมีการเดินขบวนจนมาจนถึงแฟลตคลองจั่น จากนั้นก็มีการระดมพลเพิ่มอีก ซึ่งอาจจะเป็นตรงจุดนี้ก็เป็นได้ที่เกิดความขัดแย้งกันเกิดขึ้นภายในขบวน
ส่วนประเด็นที่ 3 คือ อาจจะเป็นไปได้ว่า ชาวบ้านที่อยู่ในระแวกใกล้เคียงได้รับผลกระทบจากการเดินขบวนของกลุ่มนักศึกษา ทำให้เกิดความเดือดร้อน เพราะขณะที่มีการเดินขบวนไปก็มีการใช้เครื่องขยายเสียงส่งเสียงดัง จนชาวบ้านใกล้เคียงเกิดความรำคาญก่อนก่อเหตุดังกล่าว สำหรับประเด็นสุดท้ายอาจจะเป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อสร้างสถานการณ์
พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนก็ได้เรียกตัวกลุ่มนักศึกษามาสอบปากคำแล้วจำนวน 4 คน โดยทั้งหมดได้ให้การว่า คนร้ายขับรถ จยย.แบบผู้หญิง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาด้วยกัน 2 คน แล้วใช้อาวุธปืน .22 ยิงใส่เข้ามาในกลุ่มจำนวน 3 นัด จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 คน คือ นายอนุศักดิ์ เศียรอุ่น อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง ถูกยิงเข้าที่ขาขวา 2 นัด และ นายอภิชาติ นาคฤทธิ์ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง ถูกยิงเข้าที่ข้อศอกอีก 1 นัด ซึ่งหลังจากนี้จะได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุและพยานแวดล้อม เพื่อจับกุมคนร้ายรายนี้มาเดินการตามกฏหมายต่อไป
ขณะที่ พ.ต.อ.สมศักดิ์ บุญแสง ผกก.สน.ลาดพร้าว กล่าวว่า ขณะที่นักศึกษาเดินขบวนมีคนร้ายยิงใส่ 3 นัด บาดเจ็บ 2 คน ซึ่งตรวจสอบพบเป็นอาวุธปืนขนาด .22 โดยประเด็นยังตั้งเรื่องกว้างๆ น่าจะไม่พอใจที่กลุ่มนักศึกษาออกมาชุมนุมกันในช่วงกลางคืน การเมืองภายในมหาวิทยาลัย เรื่องส่วนตัว หรืออาจจะเป็นมือที่ 3 ส่วนเรื่องความขัดแย้งเรื่องกลุ่มการเมืองก็อาจมีส่วน อย่างไรก็ตาม ต้องหารายละเอียดเพิ่มเติมอย่างละเอียด เพราะไม่มีใครสามารถจำรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายได้เลยโดยหากมีการชุมนุมเดินขบวนอีกก็ต้องหาทางป้องกัน เพราะประชาชนใกล้เคียงอาจเดือดร้อนได้ เมื่อคืนที่ผ่านมาตำรวจก็จัดรถนำไปส่งที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพราะไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้น
ด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เข้าไปควบคุมการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว คาดว่าคงต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากทราบว่าในช่วงเกิดเหตุมีพยานแวดล้อมทั้งที่เป็นเพื่อนนักศึกษา และชาวบ้านอยู่หลายปาก ซึ่งตำรวจจะต้องเชิญตัวมาสเก็ตช์รูปพรรณคนร้าย นอกจากนี้ ยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดของทางราชการ และเอกชนที่ตำรวจต้องนำมาตรวจสอบอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งหากพบว่าสามารถบันทึกภาพของคนร้ายและพาหนะที่ใช้ก่อเหตุเอาไว้ได้ ก็จะทำให้การทำงานของตำรวจง่ายขึ้น
นศ.ราม เดินขบวนไปไล่ “หมัก” โดนยิงกลางทางเจ็บ 2
วันนี้ (5 ก.ย.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. รักษาการ ผบช.น. กล่าวถึงกรณีคนร้ายยิงใส่กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน ที่แฟลตคลองจั่น 11 ขณะเดินทางไปประท้วงและขับไล่ให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ลาออก ที่หมู่บ้านโอฬาร เมื่อค่ำวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมาว่า น่าจะเป็นผู้ไม่พอใจที่มีการเดินขบวน หรืออาจเป็นมือที่ 3 ส่วนรายละเอียดเรื่องปูมหลังของนักศึกษาว่าเป็นใครมาจากไหนยังไม่ทราบ แต่จะพยายามดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เรื่องการเมือง เบื้องหลังอย่างไรก็คงยากที่จะไปดู เวลานี้เดือดร้อนมากมาย การที่ตำรวจจะจับคนสักคนไปดำเนินคดีไม่ใช่เรื่องง่าย มันวุ่นวายมากขึ้น
ต่อมา เมื่อเวลา 11.00 น.พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.สรรักษ์ จูสนิท ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.สมศักดิ์ บุญแสง ผกก.สน.ลาดพร้าว ได้เรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.สส.บก.น.4 เข้าประชุมเพื่อติดตามความคิดหน้าของคดีดังกล่าวโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ต.วิมล เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เรียกเจ้าหน้าที่มาประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์และสรุปความคืบหน้า โดยในเบื้องต้นทางฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว ได้ตั้งประเด็นการก่อเหตุไว้ 4 ประเด็น คือประเด็นแรกอาจเป็นเรื่อง ความขัดแย้งกันเองของแกนนำกลุ่มแต่ละกลุ่มภายในมหาวิทยาลัย ประเด็นที่ 2 คือ เกิดความขัดแย้งกันเองภายในขบวน เพราะได้ระดมพลมาจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง แล้วมีการเดินขบวนจนมาจนถึงแฟลตคลองจั่น จากนั้นก็มีการระดมพลเพิ่มอีก ซึ่งอาจจะเป็นตรงจุดนี้ก็เป็นได้ที่เกิดความขัดแย้งกันเกิดขึ้นภายในขบวน
ส่วนประเด็นที่ 3 คือ อาจจะเป็นไปได้ว่า ชาวบ้านที่อยู่ในระแวกใกล้เคียงได้รับผลกระทบจากการเดินขบวนของกลุ่มนักศึกษา ทำให้เกิดความเดือดร้อน เพราะขณะที่มีการเดินขบวนไปก็มีการใช้เครื่องขยายเสียงส่งเสียงดัง จนชาวบ้านใกล้เคียงเกิดความรำคาญก่อนก่อเหตุดังกล่าว สำหรับประเด็นสุดท้ายอาจจะเป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อสร้างสถานการณ์
พล.ต.ต.วิมล กล่าวว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนก็ได้เรียกตัวกลุ่มนักศึกษามาสอบปากคำแล้วจำนวน 4 คน โดยทั้งหมดได้ให้การว่า คนร้ายขับรถ จยย.แบบผู้หญิง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาด้วยกัน 2 คน แล้วใช้อาวุธปืน .22 ยิงใส่เข้ามาในกลุ่มจำนวน 3 นัด จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 คน คือ นายอนุศักดิ์ เศียรอุ่น อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง ถูกยิงเข้าที่ขาขวา 2 นัด และ นายอภิชาติ นาคฤทธิ์ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง ถูกยิงเข้าที่ข้อศอกอีก 1 นัด ซึ่งหลังจากนี้จะได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุและพยานแวดล้อม เพื่อจับกุมคนร้ายรายนี้มาเดินการตามกฏหมายต่อไป
ขณะที่ พ.ต.อ.สมศักดิ์ บุญแสง ผกก.สน.ลาดพร้าว กล่าวว่า ขณะที่นักศึกษาเดินขบวนมีคนร้ายยิงใส่ 3 นัด บาดเจ็บ 2 คน ซึ่งตรวจสอบพบเป็นอาวุธปืนขนาด .22 โดยประเด็นยังตั้งเรื่องกว้างๆ น่าจะไม่พอใจที่กลุ่มนักศึกษาออกมาชุมนุมกันในช่วงกลางคืน การเมืองภายในมหาวิทยาลัย เรื่องส่วนตัว หรืออาจจะเป็นมือที่ 3 ส่วนเรื่องความขัดแย้งเรื่องกลุ่มการเมืองก็อาจมีส่วน อย่างไรก็ตาม ต้องหารายละเอียดเพิ่มเติมอย่างละเอียด เพราะไม่มีใครสามารถจำรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายได้เลยโดยหากมีการชุมนุมเดินขบวนอีกก็ต้องหาทางป้องกัน เพราะประชาชนใกล้เคียงอาจเดือดร้อนได้ เมื่อคืนที่ผ่านมาตำรวจก็จัดรถนำไปส่งที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพราะไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้น
ด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.สุชาติ เหมือนแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เข้าไปควบคุมการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว คาดว่าคงต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากทราบว่าในช่วงเกิดเหตุมีพยานแวดล้อมทั้งที่เป็นเพื่อนนักศึกษา และชาวบ้านอยู่หลายปาก ซึ่งตำรวจจะต้องเชิญตัวมาสเก็ตช์รูปพรรณคนร้าย นอกจากนี้ ยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดของทางราชการ และเอกชนที่ตำรวจต้องนำมาตรวจสอบอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งหากพบว่าสามารถบันทึกภาพของคนร้ายและพาหนะที่ใช้ก่อเหตุเอาไว้ได้ ก็จะทำให้การทำงานของตำรวจง่ายขึ้น
นศ.ราม เดินขบวนไปไล่ “หมัก” โดนยิงกลางทางเจ็บ 2