เลื่อนสั่งคดีทุจริตสหกรณ์ มข.เหตุต้องเรียกผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่ม!

อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เลื่อนสั่งคดีทุจริตสหกรณ์มหาวิทยาลัยขอนแก่นออกไปเป็นวันที่ 31 ต.ค.เหตุอัยการยังตรวจเอกสารไม่ครบและต้องเรียกผู้ต้องหารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มอีกหลายคน

วันนี้ (5 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 นัดฟังคำสั่งคดีที่ เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว พนักงานสอบสวน 8 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำตัว นายปิยะ นันทัยเกื้อกูล เจ้าของโครงการเกื้อกูลแลนด์ แอนด์ ปาร์ค, คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่สหกรณ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 23 คน และเจ้าหน้าที่โครงการเกื้อกูลแลนด์ แอนด์ ปาร์ค 4 คน ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง พร้อมสำนวนการสอบสวน 133 แฟ้ม รวม 29 ลัง และความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาทั้ง 28 คน ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341, ยักยอกทรัพย์ มาตรา 353, ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน มาตรา 188, ผู้ใดทำเอกสารปลอม มาตรา 264 และผู้ใช้เอกสารปลอม มาตรา 268 กรณีปล่อยเงินกู้สหกรณ์ ม.ขอนแก่น 46,790,100 บาท มาส่งมอบให้นายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เพื่อพิจารณาสั่งคดี

โดย นายเสกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เปิดเผยว่า อัยการฝ่ายคดีพิเศษขอเลื่อนการสั่งคดีนี้ออกไปเป็นวันที่ 31 ต.ค. เวลา 10.00 น. เนื่องจากการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่มีจำนวนมากยังไม่เสร็จสิ้นครบถ้วน นอกจากนี้ยังต้องเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกหลายคน จึงขอเลื่อนสั่งคดีไปในวันดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดจะต้องเดินทางมาฟังการสั่งคดีว่าอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 จะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีด้วยตนเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากสหกรณ์ ม.ขอนแก่น จำกัด ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อดีเอสไอว่า ระหว่างวันที่ 22 มิถุนายน 2545-7 พฤศจิกายน 2546 ผู้ต้องหาทั้งหมดร่วมกันนำเงินของสหกรณ์ไปให้สมาชิกกู้ยืมเงิน โดยใช้โฉนดที่ดินของโครงการเกื้อกูล แลนด์ แอนด์ ปาร์ค 114 แปลง มายื่นเป็นหลักฐานเพื่อขอกู้เงิน เป็นเหตุให้สหกรณ์มหาวิทยาลัยขอนแก่นฯได้รับความเสียหาย เป็นเงินทั้งสิ้น 46,790,100 บาท