ศาลอุทธรณ์ ยืนพิพากษายกฟ้องเสี่ยเจ้าของบ้านจัดสรรปิ่นเจริญ ฐานอนาจารและข่มขืนเด็ก เหตุศาลเห็นว่าผลตรวจร่างกายจากแพทย์พบร่องรอยการร่วมประเวณีกับคนรักไม่ใช่ถูกข่มขืน
วันนี้ (2 ก.ย.) ที่ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ฟ้อง นายสุเทพ ปิ่นเจริญ อายุ 65 ปี เจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรปิ่นเจริญ เป็นจำเลยฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร พาบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่ออนาจาร กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้ายและอยู่ในสภาวะที่ขัดขืนไม่ได้ และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาของตน คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ตามฟ้องบรรยายความผิดสรุปว่า ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.47 - 15 ต.ค.48 จำเลยได้พาเด็กหญิงอุ๋งอิ๋ง (นามสมมติ) อายุ 10 ปีเศษ โดยใช้อุบายหลอกลวงให้ผู้เสียหายเข้าไปเล่นในบ้าน แล้วจำเลยกระทำการอนาคารด้วยการถอดเสื้อผู้เสียหายแล้วปล้ำกอดจูบเพื่อล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งการกระทำนั้นเป็นการใช้กำลังประทุษร้ายในสภาวะที่ผู้เสียหายไม่สามารถขัดขืนได้ ซึ่งจำเลยได้พราก ด.ญ.ฟ้า ไปจากบิดามารดาโดยไม่มีเหตุอันควรเพื่อไปอนาจาร
นอกจากนี้ จำเลยยังได้กระทำชำเรา ด.ญ.อ้อ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี และด.ญ.เอม อายุ 12 ปีเศษ โดยใช้อุบายหลอกลวงให้ผู้เสียหายเข้าไปเล่นในบ้าน แล้วจำเลยกระทำการอนาจารด้วยการถอดเสื้อผู้เสียหายแล้วปล้ำกอดจูบเพื่อล่วงละเมิดทางเพศอีกด้วย เหตุเกิดที่ ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี โดยวันที่ 18 ต.ค.48 เจ้าพนักงานสามารถติดตามยึดวิดีโอเทป 2 ม้วน และวีซีดี 1 แผ่น ที่มีภาพจำเลยกำลังกระทำชำเราเด็กหญิงได้เป็นของกลาง ต่อมาวันที่ 20 ต.ค.48 เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมยึดหมอนทรงสี่เหลี่ยม 1 ใบ และเสื้อเชิ้ตลายสกอตแขนสั้นจำนวน 1 ตัวจากบ้านพักจำเลยเป็นของกลาง ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์ว่า คดีนี้ผู้เสียหาย 3 ราย เบิกความขัดกันมีพิรุธ ในจำนวนนี้แพทย์ตรวจร่างกายแล้วพบว่ามีร่องรอยผ่านการ่วมประเวณีจริง แต่มีกับคนรักไม่ใช่จำเลย อีกคนไม่มีร่องรอยถูกข่มขืน ที่เกิดเหตุมีคนพลุกพล่านแต่กลับไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ส่วนพยานอีกคนที่เห็นจำเลยมาหาผู้เสียหายที่ห้อง แต่พยานปากนี้มีเหตุพิพาททางแพ่งส่วนตัวกับจำเลย คำเบิกความทุกปากไม่น่าเชื่อถือ มีข้อสงสัย จึงยกประโยชน์ความสงสัยนี้ให้จำเลย พิพากษายืนยกฟ้อง
