ตร.พร้อมรับมือกลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนขบวนใหญ่ คาดจำนวนผู้ชุมนุมมากกว่าครั้งที่ผ่านมา แต่มั่นใจกำลังที่มีสามารถรับมือได้ เชื่อไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น
วานนี้ (25 ส.ค.) เมื่อเวลา 22.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ.10) พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส.เรียกประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบช.น. ประชุมประเมินสถานการณ์กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมขับไล่รัฐบาล บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยใช้ยุทธการดาวกระจาย พร้อมวางกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร
พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการติดตามความพร้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านกำลังพลหน่วยต่างๆ กล้องวิดีโอที่ใช้บันทึกเหตุการณ์ รถดับเพลิง รถพยาบาล ซึ่งจากการตรวจความพร้อม ทุกหน่วยได้ดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ได้กำชับให้ตำรวจทุกนายอำนวยความสะดวกในการชุมนุม โดยให้อดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ เน้นย้ำนโยบายของ ตร.และรัฐบาลในการไม่ใช้กำลังสลายการชุมนุม และให้ตระหนักว่าการชุมนุมเป็นสิทธิพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันห้ามกำลังพลพกพาอาวุธขณะปฏิบัติหน้าที่
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อไปว่า สำหรับกำลังพลที่ใช้ในครั้งนี้มี มีลักษณะกระจัดกระจาย โดยให้ทุกกองบังคับการเตรียมพร้อม ณ ที่ตั้งเป็นหลัก โดยให้รับผิดชอบพื้นที่สำคัญตามเป้าหมาย ขณะเดียวกันได้จัดกำลังส่วนหนึ่งเตรียมพร้อมไว้ในกองทัพภาคที่ 1 อย่างไรก็ตาม กำลังพลที่ใช้มีจำนวนไม่มากเหมือนครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีนโยบายปิดกั้นหรือสกัดกั้นการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุม เป็นการกำลังที่มีขีดความสามารถจริง ในการป้องกันกรณีที่มีการทำลายหรือทำให้สถานที่ราชการเสียหาย ซึ่งเชื่อว่ากำลังที่มีอยู่จะสามารถดูแลความปลอดภัยของประชาชนได้
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า คาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะมีจำนวนมากกว่าครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากมีการระดมมาจากจังหวัดต่างๆ โดยคาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนไป โดยมีเป้าหมายหลักคือทำเนียบรัฐบาล และส่วนราชการที่อยู่บนถนนราชดำเนิน เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงคมนาคม นอกจากนี้ อาจมีส่วนราชการอื่น เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ซึ่งได้ส่งกำลังตำรวจไปดูแลแล้ว อย่างไรก็ตามต้องรอดูท่าทีของกลุ่มแกนนำซึ่งจะมีการประชุมครั้งสุดท้ายในเวลา 04.00-05.00 น.
“เชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น เพราะกลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมเองก็ออกมายืนยันว่าจะไม่ทำอะไรที่เป็นการละเมิดต่อกฎหมาย และสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง ขณะที่รัฐบาลก็มีความยินดีที่กลุ่มผู้ชุมนุมดำเนินกิจกรรมทางการเมือง แต่ต้องไม่สร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลเองก็จะไม่เป็นฝ่ายก่อให้เกิดความรุนแรง ซึ่งได้กำชับมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ารัฐบาลไม่ประสงค์ให้ใช้กำลังหรือความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุม” รองโฆษก ตร.กล่าว
พล.ต.ต.สุรพล ยังได้ประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนว่า หากไม่มีความจำเป็นให้หลีกเลี่ยงการเดินทางยังบริเวณทำเนียบรัฐบาล โดยจะมีการปิดการจราจรบนถนนราชดำเนิน ตั้งแต่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ จนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกวังแดง ถึงแยกยมราช นอกจากนี้อาจมีการปิดถนนบนเส้นทางอื่นที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนผ่าน ซึ่งหากมีการปิดถนนตรงจุดใดตำรวจจราจรในท้องที่นั้นจะนำป้ายประชาสัมพันธ์มาตั้งไว้ ขณะเดียวกันจะได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ อีกด้วย