รถร่วมตีนผี! ซิ่งชนรั้วสวนจตุจักร

รถร่วมฯ สาย 27 ซิ่งชนรั้วสวนจตุจักรได้รับบาดเจ็บกว่า 10 ราย คนขับอ้างรถช้าแต่รถบรรทุกปูนตัดหน้ากะทันหัน ส่วนคนบาดเจ็บให้การตรงกันขับเร็วตลอดทาง

วันนี้ (12 ส.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น. ร.ต.ท.สุรวิชญ์ แสงกุดเรือ พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.บางซื่อ รับแจ้งอุบัติเหตุรถประจำทางเสียหลักพุ่งชนกำแพงเหล็กสวนจตุจักร ฝั่งถนนพหลโยธินขาออก เยื้องธนาคารทหรไทย ก่อนทะลุไปชนต้นไม้ ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายจึงรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณป้ายรถประจำทาง พบรถร่วมบริการสาย 27 สีน้ำเงินขาว ทะเบียน 120422 กทม. ตรวจสอบสภาพรถด้านหน้ายุบพังยับเยิน กระจกแตกกระจายเข้าในห้องโดยสาร ใกล้กันพบป้ายโฆษณาที่ติดตั้งไว้หักพังเสียหาย 1 ป้าย ขณะเดียวกัน พบผู้โดยสารที่นั่งมาเกือบเต็มคันรถได้รับบาดเจ็บกว่า 10 ราย โดยในจำนวนนี้อาการสาหัส 2 ราย หลังเกิดเหตุพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลราชวิถี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดการจราจรถนนพหลโยธินฝั่งขาออก 2 ช่องทาง ก่อนนำรถยกเข้าเคลื่อนย้ายรถเมล์คันดังกล่าวไม่ให้กีดขวางการจราจรใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อการจราจรมากนัก เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดราชการมีปริมาณรถน้อย

จากการสอบสวน นายเวโรจน์ โต๊ะสนั่น อายุ 39 ปี คนขับให้การว่า ขับรถออกจากท่ารถอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มุ่งหน้าตลาดมีนบุรี วิ่งมาด้วยความเร็วประมาณ 60-70 กม./ชั่วโมง เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุคนขับรถอ้างว่า ขณะกำลังนำรถเข้าป้ายพบเห็นรถบรรทุกปูนซีเมนต์วิ่งตัดหน้าจึงเบรกกะทันหันเพื่อหักหลบทำให้รถเสียหลัก ประกอบกับถนนลื่นไม่สามารถบังคับพวงมาลัยได้จึงหันหัวพุ่งชนรั้วกำแพงด้านข้างสวนจตุจักรฝั่งถนนพหลโยธินดังกล่าวในที่สุด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายเวโรจน์ เนื่องจากผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บต่างให้การตรงกันว่า รถคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วตลอดเส้นทาง ก่อนถึงจุดเกิดเหตุได้ขับอยู่ช่องทางที่ 2-3 มาโดยตลอด กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุคนขับได้หักรถเข้าป้ายอย่างกะทันหัน ซึ่งขณะนั้นฝนกำลังตกโปรยปรายทำให้ถนนลื่น รถจึงเสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกแรงกระแทกจนหมดสติ 2 ราย คือ น.ส.กัลยา บวรสุข อายุ 24 ปี และ น.ส.ดวงเย็น คำพาไท อายุ 30 ปี พักรักษาตัวที่ รพ.ราชวิถี อาการแขนขาหัก ศีรษะแตก มีบาดแผลถลอกช้ำบวมเลือดตามลำตัวแขนขา ส่วนที่เหลืออีก 10 คนบาดเจ็บเล็กน้อยมีแผลถลอกตามแขนขาไม่มากนัก แพทย์จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้