ปส.จับกุมแก๊งค้ากัญชาข้ามชาติชาวเนปาล ซุกยางกัญชาอัดแผ่นในฝากระเป๋าบุด้วยพลาสติกทับมากถึง 15 กก. คาเกสต์เฮาส์ แถววัดตรีทศเทพ ก่อนลำเลียงขายนักเสพเกาะสมุย ถนนข้าวสาร ตร.บอกแก๊งนักค้ายาจะเข้าไทยเดือนละครั้ง พักเป็นอาทิตย์ ส่งยาเสร็จ กลับไปค้าแรงแล้วย้อนกลับมาทำผิดกฎหมายซ้ำ
วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.อิทธิพล กิจสุวรรณ ผกก.1.บก.ปส.1 และ ร.ต.ดวง อยู่บำรุง ชุดปราบปรามยาเสพติดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ได้เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ที่วิมลเกสต์เฮ้าส์ เลขที่ 358 สามเสนซอย 4 ตรอกวัดตรีทศเทพ แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กทม.จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย 1.นายบาฮาดุ ทามัง อายุ 51 ปี 2.นายนิมาดอเจีย เชอปา อายุ 25 ปี 3.นางมิซังดอมา ทามัง อายุ 24 ปี และ 4.นางนิมา เชอปา อายุ 35 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวเนปาล โดยจับกุมได้พร้อมของกลางยางกัญชา จำนวน 15 กิโลกรัม เครื่องชั่งจำนวน 2 ตัว
ที่เกิดเหตุเป็นเกสต์เฮาส์ 2 ชั้น เปิดเป็นห้องให้เช้าแบบรายวัน และรายเดือน เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นภายในห้องเลขที่ 9, 17 และ19 เจ้าหน้าที่พบผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เมื่อผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับตกใจ และให้การรับสารภาพว่าแอบลักลอบจำหน่ายกัญชา โดยซุกซ่อนของกลางไว้ที่ห้องเลขที่ 6 เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นพบกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ จำนวน 3 ใบ และถุงพลาสติกแบบมีหูหิ้วอีก จำนวน 1 ใบ จึงยึดไว้ตรวจสอบ จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าเดินทางทั้ง 3 ใบ พบว่ามียางกัญชาอัดแผ่นซุกซ่อนอยู่ในฝากระเป๋าบุด้วยผ้าพลาสติกทับอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบกัญชาอัดแผ่นซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกอีกจำนวนหนึ่งด้วย รวมกัญชาทั้งหมดที่ตรวจพบประมาณ 15 กิโลกรัม
พ.ต.อ.อิทธิพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจาก หน่วยปราบปรามยาเสพติดจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 ส.ค.) ว่ามีกลุ่มค้ายาเสพติดข้ามชาติลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในประเทศไทย จึงได้นำข้อมูลทั้งหมดมาสืบหาเบาะแสของผู้ต้องหา จนกระทั่งทราบที่อยู่ของผู้ต้องหาและนำกำลังเข้าจับกุม โดยผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นชาวเนปาล รับคำสั่งจากนายทุนที่ประเทศเนปาลให้มาจำหน่ายยาเสพติดในประเทศไทย ซึ่งผู้ต้องหาใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นที่พักยาเสพติดก่อนจะลำเลียงส่งให้ลูกค้าในย่านข้าวสาร และเกาะสมุย ตามท้องตลาดทราบว่ายางกัญชาจะขายอยู่ที่ 150 บาท/1 กรัม สำหรับมูลค่าของกลางที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ประมาณ 3 ล้านบาท
พ.ต.อ.อิทธิพล กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยเดือนละ 1 ครั้ง และจะเช่าห้องพักอาศัยอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ หลังจากจำหน่ายยาเสพติดเรียบร้อยก็จะเดินทางกลับไปรับค่าแรงที่ประเทศ ซึ่งวันนี้กำลังจะเดินทางกลับแต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน โดยกลุ่มค้ายาเสพติดข้ามชาติจะมีการทำกันเป็นเครือข่าย บางรายจะเข้ามาที่เมืองไทยเพื่อจำหน่ายยาเสพติดเพียงอย่างเดียวไม่ได้นำยาเข้ามา แต่สำหรับรายนี้คาดว่าน่าจะลักลอบนำกัญชาเข้ามาก่อนจะมาใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นที่พักยา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่ง บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เข้าทำการตรวจค้นที่ เอพี เกสต์เฮ้าส์ สามเสนซอย 6 อีกด้วยหลังจากทราบว่าหนึ่งในผู้ต้องหาไปเปิดห้องพักเพื่อจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นพบกระเป๋าเดินทางจำนวน 1 ใบ ภายในกระเป๋าพบเพียงเศษยางกัญชาติดอยู่ คาดว่าผู้ต้องหาน่าจะจำหน่ายให้ลูกค้าไปก่อนหน้านี้แล้ว
วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.อิทธิพล กิจสุวรรณ ผกก.1.บก.ปส.1 และ ร.ต.ดวง อยู่บำรุง ชุดปราบปรามยาเสพติดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ได้เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ที่วิมลเกสต์เฮ้าส์ เลขที่ 358 สามเสนซอย 4 ตรอกวัดตรีทศเทพ แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กทม.จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย 1.นายบาฮาดุ ทามัง อายุ 51 ปี 2.นายนิมาดอเจีย เชอปา อายุ 25 ปี 3.นางมิซังดอมา ทามัง อายุ 24 ปี และ 4.นางนิมา เชอปา อายุ 35 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวเนปาล โดยจับกุมได้พร้อมของกลางยางกัญชา จำนวน 15 กิโลกรัม เครื่องชั่งจำนวน 2 ตัว
ที่เกิดเหตุเป็นเกสต์เฮาส์ 2 ชั้น เปิดเป็นห้องให้เช้าแบบรายวัน และรายเดือน เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นภายในห้องเลขที่ 9, 17 และ19 เจ้าหน้าที่พบผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เมื่อผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับตกใจ และให้การรับสารภาพว่าแอบลักลอบจำหน่ายกัญชา โดยซุกซ่อนของกลางไว้ที่ห้องเลขที่ 6 เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นพบกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ จำนวน 3 ใบ และถุงพลาสติกแบบมีหูหิ้วอีก จำนวน 1 ใบ จึงยึดไว้ตรวจสอบ จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าเดินทางทั้ง 3 ใบ พบว่ามียางกัญชาอัดแผ่นซุกซ่อนอยู่ในฝากระเป๋าบุด้วยผ้าพลาสติกทับอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบกัญชาอัดแผ่นซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกอีกจำนวนหนึ่งด้วย รวมกัญชาทั้งหมดที่ตรวจพบประมาณ 15 กิโลกรัม
พ.ต.อ.อิทธิพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจาก หน่วยปราบปรามยาเสพติดจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 ส.ค.) ว่ามีกลุ่มค้ายาเสพติดข้ามชาติลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในประเทศไทย จึงได้นำข้อมูลทั้งหมดมาสืบหาเบาะแสของผู้ต้องหา จนกระทั่งทราบที่อยู่ของผู้ต้องหาและนำกำลังเข้าจับกุม โดยผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นชาวเนปาล รับคำสั่งจากนายทุนที่ประเทศเนปาลให้มาจำหน่ายยาเสพติดในประเทศไทย ซึ่งผู้ต้องหาใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นที่พักยาเสพติดก่อนจะลำเลียงส่งให้ลูกค้าในย่านข้าวสาร และเกาะสมุย ตามท้องตลาดทราบว่ายางกัญชาจะขายอยู่ที่ 150 บาท/1 กรัม สำหรับมูลค่าของกลางที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ประมาณ 3 ล้านบาท
พ.ต.อ.อิทธิพล กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาจะเดินทางเข้ามาประเทศไทยเดือนละ 1 ครั้ง และจะเช่าห้องพักอาศัยอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ หลังจากจำหน่ายยาเสพติดเรียบร้อยก็จะเดินทางกลับไปรับค่าแรงที่ประเทศ ซึ่งวันนี้กำลังจะเดินทางกลับแต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน โดยกลุ่มค้ายาเสพติดข้ามชาติจะมีการทำกันเป็นเครือข่าย บางรายจะเข้ามาที่เมืองไทยเพื่อจำหน่ายยาเสพติดเพียงอย่างเดียวไม่ได้นำยาเข้ามา แต่สำหรับรายนี้คาดว่าน่าจะลักลอบนำกัญชาเข้ามาก่อนจะมาใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นที่พักยา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่ง บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เข้าทำการตรวจค้นที่ เอพี เกสต์เฮ้าส์ สามเสนซอย 6 อีกด้วยหลังจากทราบว่าหนึ่งในผู้ต้องหาไปเปิดห้องพักเพื่อจำหน่ายยาเสพติด ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นพบกระเป๋าเดินทางจำนวน 1 ใบ ภายในกระเป๋าพบเพียงเศษยางกัญชาติดอยู่ คาดว่าผู้ต้องหาน่าจะจำหน่ายให้ลูกค้าไปก่อนหน้านี้แล้ว
