แขก “ตังกู อาเร็ม” แอบอ้างเป็นผู้วิเศษสามารถตามหาสามีที่หายตัวไปกลับคืนมาได้ และหาสามีชาวต่างชาติให้กับสาวไทยได้ แต่ทำไม่สำเร็จ 2 สาวเหยื่อหลงเชื่อถูกหลอกเอาเงินค่าจ้าง แถมขังไว้ทำร้าย ใช้ไฟลนอย่างทรมาน เหยื่อยังอยู่ห้องไอซียู ให้ปากคำไม่ได้ ส่วนแขก-เมียตัวดี ตร.เร่งติดตามตัว คาดไม่หนีกบดานต่างจังหวัด เชื่อยังวนเวียนใน กทม.
จากกรณีวานนี้ (7 ส.ค.) เกิดเหตุทำร้ายร่างกาย 2 สาวชาวไทย และโดนขังไว้ในห้อง 5024 ชั้น 5 ราชปรารภทาวเวอร์แมนชั่น เลขที่ 99 ซอยราชปรารภ 14 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. โดยผู้ที่ถูกทำร้ายคือ นางจิรัฐยา ศรีวัฒนพงศ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 14 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. และ น.ส.สุภาดี คุณวงศ์ อายุ 42 ปี ซึ่งเหยื่อสาวทั้งคู่ถูกทรมานและจับขังมานานพอสมควร โดยพยายามหลบหนีด้วยการเขียนข้อความช่วยเหลือ และเขวี้ยงกระถางต้นไม้เพื่อบอกคนข้างล่าง จนไปถูกศีรษะ รปภ.บาดเจ็บนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (8 ส.ค.) พ.ต.ท.สมปอง สำราญใจ รอง ผกก.สส.สน.ดินแดง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ให้พนักงานสอบสวนไปเร่งสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้งสองคนที่โรงพยาบาลเพื่อขออนุมัติหมายจับ นายอามาด ฟาราธี ตังกู อาเร็ม อายุ 40 ปี และ น.ส.อัมพวัน ขาวงาม อายุ 30 ปี สองสามีภรรยา แต่ปรากฏว่า น.ส.สุภาดี คุณวงศ์ อายุ 42 ปี ยังอยู่ในห้องไอซียู เนื่องจากถูกไฟรนและทุบด้วยของแข็งตามร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนางจิรัฐยา ศรีวัฒนพงศ์ อายุ 39 ปี ผู้บาดเจ็บอีกรายนั้น ให้การได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งแพทย์ต้องหารให้พักผ่อน จึงสอบปากคำได้ไม่มากนัก อย่างไรก็ตามจะให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานแวดล้อมคนอื่นไปก่อน พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนคอยติดตามประกบตัวคนร้ายอย่างใกล้ชิด
ด้าน พ.ต.ต.ณฐภัทร คูหาทอง สว.สส.สน.ดินแดง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนคอยติดตามตัวคนร้ายทั้งสองคนแล้ว โดยเบื้องต้นคาดว่าทั้งสองคนน่าจะยังหลบหนีอยู่ใน กทม. ไม่น่าจะหลบหนีไปต่างจังหวัด หรือที่จังหวัดเชียงราย บ้านเกิดของ น.ส.อัมพวัน เนื่องจากนายอามาดยังมีทรัพย์สินอยู่ใน กทม.เป็นจำนวนมาก อีกทั้งตัวนายอามาดเองก็ยังเป็นหุ้นส่วนเจ้าของบาร์แห่งหนึ่งในย่านพัฒนพงษ์อีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ นายอามาด ฟาราธี ตังกู อาเร็ม แอบอ้างตัวว่าเป็นผู้วิเศษมีความสามารถตามหาสามีที่หายตัวไป รวมทั้งมีวิชาในการหาสามีชาวต่างชาติให้กับหญิงชาวไทยได้อีกด้วย โดยก่อนเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ นางพรชณิตว์ ศรีวัฒนพงศ์ พี่สาวของนางจิรัฐยา ผู้บาดเจ็บ ได้มาติดต่อให้นายอามาด ทำพิธีตามหาสามีชาวต่างชาติที่หายตัวไป เนื่องจากสามีของนางพรชณิตว์ได้ยืมเงินจำนวน 1 ล้านบาทจากนางพรชณิตว์ไปให้เพื่อนชาวต่างชาติอีกคนหนึ่งไปทำธุรกิจ แต่แล้วทั้งคู่ก็หายตัวไป โดยนางพรชณิตว์ก็หลงเชื่อเสียเงินค่าทำพิธให้นายอามาด ไปหลายครั้งๆ ละ 5-6 หมื่นบาท รวมเป็นเงินประมาณ 4 แสนบาท แต่ก็ยังไม่เป็นผลไม่สามารถติดตามหาสามีกลับคืนมาได้ ภายหลังนางพรชณิตว์ก็มาทวงถามเงินคืนจากนายอมาด แต่เจ้าตัวกลับออกเป็นสัญญาเงินกู้จำนวน 4 แสนบาท และมอบงาช้างจำนวน 4 คู่ มาไว้แทน เพื่อเป็นการผ่อน
ต่อมา นางมุยรี เพื่อนสาวคนสนิทของผู้เจ็บทั้งสองคนได้มาแนะนำให้ทั้งคู่ไปหานายอามาด เพื่อจะได้เป็นการทวงเงินแทนพี่สาวของนางจิรัฐยา และลองทำพิธีหาเลขเด็ดแทงหวยกับหาสามีฝรั่งให้ผู้บาดเจ็บทั้งสองคนไปในตัวด้วย จนทั้งสองคนหลงเชื่อยอมไปหานายอามาด แต่หลังจากนั้น นางมยุรีได้เข้าไปที่อพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุเพื่อหาผู้บาดเจ็บทั้งสองคน แต่กลับพบว่าทั้งสองคนถูกทารุณทำร้ายได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เมื่อนางมยุรีสอบถามนายอามาดว่าทำไมผู้บาดเจ็บทั้งสองถึงถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส นายอามาดก็อ้างว่า น.ส.สุภาดี ปัสสาวะรดที่นอน อีกทั้งยังกล่าวหา น.ส.อัมพวัน ภรรยาของนายอามาดว่าเป็นผู้หญิงขายบริการมาก่อน จึงทำให้ทำพิธีหาสามีไม่สำเร็จ จึงทำให้นายอามาดกับ น.ส.อัมพวัน โกรธแค้นและลงมือรุมทำร้ายผู้บาดเจ็บทั้งสองคนอย่างโหดเหี้ยม ไม่ว่าจะเป็นการทุบตีด้วยของแข็ง ใช้ไฟลนตามร่างกาย ใช้ไม้ยัดอวัยวะเพศ โดยนางมยุรี ก็ยังถูก นายอามาด บังคับให้ร่วมทำร้ายร่ายกายเพื่อนทั้งสองคนด้วย
จากกรณีวานนี้ (7 ส.ค.) เกิดเหตุทำร้ายร่างกาย 2 สาวชาวไทย และโดนขังไว้ในห้อง 5024 ชั้น 5 ราชปรารภทาวเวอร์แมนชั่น เลขที่ 99 ซอยราชปรารภ 14 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. โดยผู้ที่ถูกทำร้ายคือ นางจิรัฐยา ศรีวัฒนพงศ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 14 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. และ น.ส.สุภาดี คุณวงศ์ อายุ 42 ปี ซึ่งเหยื่อสาวทั้งคู่ถูกทรมานและจับขังมานานพอสมควร โดยพยายามหลบหนีด้วยการเขียนข้อความช่วยเหลือ และเขวี้ยงกระถางต้นไม้เพื่อบอกคนข้างล่าง จนไปถูกศีรษะ รปภ.บาดเจ็บนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (8 ส.ค.) พ.ต.ท.สมปอง สำราญใจ รอง ผกก.สส.สน.ดินแดง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ให้พนักงานสอบสวนไปเร่งสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้งสองคนที่โรงพยาบาลเพื่อขออนุมัติหมายจับ นายอามาด ฟาราธี ตังกู อาเร็ม อายุ 40 ปี และ น.ส.อัมพวัน ขาวงาม อายุ 30 ปี สองสามีภรรยา แต่ปรากฏว่า น.ส.สุภาดี คุณวงศ์ อายุ 42 ปี ยังอยู่ในห้องไอซียู เนื่องจากถูกไฟรนและทุบด้วยของแข็งตามร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนางจิรัฐยา ศรีวัฒนพงศ์ อายุ 39 ปี ผู้บาดเจ็บอีกรายนั้น ให้การได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งแพทย์ต้องหารให้พักผ่อน จึงสอบปากคำได้ไม่มากนัก อย่างไรก็ตามจะให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานแวดล้อมคนอื่นไปก่อน พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนคอยติดตามประกบตัวคนร้ายอย่างใกล้ชิด
ด้าน พ.ต.ต.ณฐภัทร คูหาทอง สว.สส.สน.ดินแดง กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนคอยติดตามตัวคนร้ายทั้งสองคนแล้ว โดยเบื้องต้นคาดว่าทั้งสองคนน่าจะยังหลบหนีอยู่ใน กทม. ไม่น่าจะหลบหนีไปต่างจังหวัด หรือที่จังหวัดเชียงราย บ้านเกิดของ น.ส.อัมพวัน เนื่องจากนายอามาดยังมีทรัพย์สินอยู่ใน กทม.เป็นจำนวนมาก อีกทั้งตัวนายอามาดเองก็ยังเป็นหุ้นส่วนเจ้าของบาร์แห่งหนึ่งในย่านพัฒนพงษ์อีกด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ นายอามาด ฟาราธี ตังกู อาเร็ม แอบอ้างตัวว่าเป็นผู้วิเศษมีความสามารถตามหาสามีที่หายตัวไป รวมทั้งมีวิชาในการหาสามีชาวต่างชาติให้กับหญิงชาวไทยได้อีกด้วย โดยก่อนเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ นางพรชณิตว์ ศรีวัฒนพงศ์ พี่สาวของนางจิรัฐยา ผู้บาดเจ็บ ได้มาติดต่อให้นายอามาด ทำพิธีตามหาสามีชาวต่างชาติที่หายตัวไป เนื่องจากสามีของนางพรชณิตว์ได้ยืมเงินจำนวน 1 ล้านบาทจากนางพรชณิตว์ไปให้เพื่อนชาวต่างชาติอีกคนหนึ่งไปทำธุรกิจ แต่แล้วทั้งคู่ก็หายตัวไป โดยนางพรชณิตว์ก็หลงเชื่อเสียเงินค่าทำพิธให้นายอามาด ไปหลายครั้งๆ ละ 5-6 หมื่นบาท รวมเป็นเงินประมาณ 4 แสนบาท แต่ก็ยังไม่เป็นผลไม่สามารถติดตามหาสามีกลับคืนมาได้ ภายหลังนางพรชณิตว์ก็มาทวงถามเงินคืนจากนายอมาด แต่เจ้าตัวกลับออกเป็นสัญญาเงินกู้จำนวน 4 แสนบาท และมอบงาช้างจำนวน 4 คู่ มาไว้แทน เพื่อเป็นการผ่อน
ต่อมา นางมุยรี เพื่อนสาวคนสนิทของผู้เจ็บทั้งสองคนได้มาแนะนำให้ทั้งคู่ไปหานายอามาด เพื่อจะได้เป็นการทวงเงินแทนพี่สาวของนางจิรัฐยา และลองทำพิธีหาเลขเด็ดแทงหวยกับหาสามีฝรั่งให้ผู้บาดเจ็บทั้งสองคนไปในตัวด้วย จนทั้งสองคนหลงเชื่อยอมไปหานายอามาด แต่หลังจากนั้น นางมยุรีได้เข้าไปที่อพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุเพื่อหาผู้บาดเจ็บทั้งสองคน แต่กลับพบว่าทั้งสองคนถูกทารุณทำร้ายได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เมื่อนางมยุรีสอบถามนายอามาดว่าทำไมผู้บาดเจ็บทั้งสองถึงถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส นายอามาดก็อ้างว่า น.ส.สุภาดี ปัสสาวะรดที่นอน อีกทั้งยังกล่าวหา น.ส.อัมพวัน ภรรยาของนายอามาดว่าเป็นผู้หญิงขายบริการมาก่อน จึงทำให้ทำพิธีหาสามีไม่สำเร็จ จึงทำให้นายอามาดกับ น.ส.อัมพวัน โกรธแค้นและลงมือรุมทำร้ายผู้บาดเจ็บทั้งสองคนอย่างโหดเหี้ยม ไม่ว่าจะเป็นการทุบตีด้วยของแข็ง ใช้ไฟลนตามร่างกาย ใช้ไม้ยัดอวัยวะเพศ โดยนางมยุรี ก็ยังถูก นายอามาด บังคับให้ร่วมทำร้ายร่ายกายเพื่อนทั้งสองคนด้วย
