ตร.สเกตช์หน้าโจรจี้ร้านทองแยกโบสถ์แม่พระ ไล่ล่าตามจับ

ตำรวจเร่งสเกตช์ภาพหน้าคนร้ายบุกจี้ร้านทองใกล้แยกแม่พระ พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดร้านค้าใกล้เคียง เนื่องจากขณะเกิดเหตุร้านทองไม่ได้ใส่เทปที่กล้องภายในร้านจึงไม่สามารถจับภาพคนก่อเหตุได้

วันนี้ (13 ธ.ค.) พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.ดินแดง กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามจับกุมคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนปล้นร้านทองกิจทองใบ เลขที่ 27/69 ถนนอโศกดินแดง ใกล้แยกโบสถ์แม่พระ แขวง-เขตดินแดง ได้ทองคำรูปประพรรณน้ำหนัก 54.50 บาท มูลค่ากว่า 7 แสนบาท ก่อนขับขี่จยย.ยี่ห้อคาวาซากิ หลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (12 ธ.ค.) ว่า ได้นำพยานที่ขายทองอยู่ในร้านและเห็นหน้าคนร้าย ไปสเกตช์ภาพผู้ต้องหา ก่อนให้พนักงานสอบสวนดำเนินการขออนุมัติหมายจับ นอกจากนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนออกหาข่าวและพยานเพิ่ม และกำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณร้านค้าใกล้เคียงและร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ที่อยู่ตรงข้ามร้านทองที่คาดว่าผู้ต้องหาจะต้องวนเวียนมาดูลาดราว 1-2 วันก่อนลงมือ

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น.วานนี้ (12 ธ.ค.) ร.ต.อ.ทรงวุฒิ โพธิสาขา พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน. ดินแดง รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกจี้ชิงทรัพย์ร้านทองกิจทองใบ เลขที่ 27/69 ใกล้แยกโบสถ์แม่พระฯ ถนนอโศก-ดินแดง แขวงและเขตดินแดง จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.ดินแดง พ.ต.ท.สมิง รอดรัตษะ รอง ผกก.ป.สน.ดินแดง พ.ต.ต.ณฐภัทร คูหาทอง สว.สส.สน.ดินแดง และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 3 ชั้น เจ้าหน้าที่พบนางวาทินี ระติทอง อายุ 44 ปี เจ้าของร้านยืนรอให้การด้วยอาการตื่นตกใจ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุตนเองเฝ้าหน้าร้านทองอยู่คนเดียว ต่อมาเวลา 16.45 น. มีเจ้าหน้าที่สายตรวจของ สน.ดินแดง เข้ามาเซ็นชื่อในสมุดตรวจตู้แดงภายในร้าน หลังจากนั้นประมาณ 20 นาที มีคนร้ายรูปร่างผอมสูงประมาณ 160 ซม.เศษ ผิวดำแดง นุ่งกางเกงยีนส์ เสื้อคลุมสีดำ สวมหมวกแก๊ป และแว่นตาดำอำพรางใบหน้า เปิดประตูร้านเข้ามาพร้อมกับชักปืนลูกโม่จ่อบังคับให้เดินไปหลังร้าน

จากนั้นคนร้ายก็เปิดกระจกตู้โชว์กวาดทองรูปพรรณไปทั้งหมดจำนวน 53 เส้น เป็นสร้อยข้อมือน้ำหนัก 2 บาท 20 เส้น สร้อยคอหนัก 2 บาท 7 เส้น สร้อยคอหนัก 1 บาท 15 เส้น และสร้อยข้อมือหนัก 2 สลึง 11 เส้น รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 54.50 บาท รวมมูลค่าประมาณ 7 แสนบาท ก่อนจะหลบหนีไป โดยขณะนั้นมีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์และพยายามเข้าช่วยเหลือปิดประตูกระจกขังคนร้าย แต่ถูกคนร้ายชักอาวุธปืนขู่จนต้องวิ่งหนี จากนั้นคนร้ายวิ่งไปขี่รถจยย.ยี่ห้อคาวาซากิ สีน้ำตาลแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งจอดไว้บริเวณโรงภาพยนตร์จักรวาล ห่างจากร้านทองเกิดเหตุประมาณ 10 เมตร หลบหนีไปทางแยกจตุรทิศซึ่งเชื่อมทะลุถนนพระราม 9 และถนนศรีอยุธยาได้

โดยหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้แล้ว พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.ดินแดง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านทอง พบว่าขณะเกิดเหตุไม่สามารถบันทึกภาพได้ เนื่องจากไม่ได้ใส่เทปไว้ ขณะนี้มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวนกระจายกำลังกันตรวจหาเบาะแสและข้อมูลของคนร้าย คาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่เพราะรู้ช่องทางหลบหนีเป็นอย่างดี

ด้าน พ.ต.ต.ณฐภัทร คูหาทอง สว.สส.สน.ดินแดง กล่าวว่า สอบพยานที่เห็นหน้าคนร้ายไปแล้ว 2-3 ปาก และจะนำไปสเกตช์ภาพต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านทองใกล้เคียง รวมทั้งตรวจสอบกล้องจราจรบริเวณแยกโบสถ์แม่พระฯ เพราะเชื่อว่าคนร้ายต้องเดินไปดูลาดเลาบริเวณรอบร้านก่อนจะลงมือ โดยรอให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าไปเซ็นชื่อตู้แดงภายในร้านทองเรียบร้อยเสียก่อนถึงลงมือ