“จา-เสี่ยเจียง“ เผชิญหน้าครั้งแรก เคลียร์ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นต่อหน้า “จงรัก“ คนกลาง ด้าน “เสี่ยแจง“ ยัน องค์บาก 2 เดินหน้าถ่ายต่อ กลืนน้ำลายตัวเองให้จากำกับต่อ แต่งบประมาณสร้างหนังบริษัทจะดูแลเอง พร้อมฉีกสัญญาที่พระเอกบู๊เสนอ ทาง “จา” เผย รู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับเสี่ย และจะกลับไปทำหนังต่อให้จบ ตร.เชื่อ เรื่องพระเอกนักบู๊ถูกคุกคามเป็นเข้าใจผิด
วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ “เสี่ยเจียง” ผู้บริหารบริษัท สหมงคลฟิล์ม จำกัด พร้อมทนายเดินทางมาตกลงปัญหาและพบกับ นายพนม ยีรัมย์ หรือ “จา พนม” พระเอกนักบู๊ชื่อดัง เป็นครั้งแรกหลังเกิดปัญหาความขัดแย้งกับบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล โดยหายตัวไปจากกองถ่ายภาพยนตร์เรื่ององค์บาก 2 และเข้าพบ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.(ปป 3) เพื่อปรึกษาเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา
โดยเมื่อพบกัน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้เจอจาเป็นครั้งแรก และจะได้พูดคุยตกลงกันในปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้งสองตกลงว่าจะเข้าไปคุยปัญหาเป็นการส่วนตัวภายในห้องทำงานของ พล.ต.อ.จงรัก พร้อมกับทนายทั้ง 2 ฝ่ายซึ่งใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง
ภายหลังการพูดคุยกัน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับจา ก็ตกลงกันว่า พรุ่งนี้จะมีการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ต่อจนจบ ส่วนสัญญาที่จาส่งมานั้น คงต้องฉีกทิ้งไป และหากจะมีปัญหาอีกก็จะมาพูดคุยกันต่อหน้า พล.ต.อ.จงรัก ก็ดีจะได้จบ หรือถ้าจาสะดวกใจคุยกันเองโดยไม่ผ่านทั้ง พล.ต.อ.จงรัก ก็แล้วแต่จา ทั้งนี้ ก็ยืนยันว่า จา ยังคงกลับไปทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ และนักแสดงในเรื่อง แต่จะไม่มีการผันบัญชีจ่ายไปให้จาโดยตรง แต่บริษัทก็จะเข้าไปดูแลเรื่องงบประมาณทั้งหมด
“งบการสร้างจะต้องใช้อีกเท่าไรก็คงต้องใช้ เพราะหนังใกล้จะทำจบแล้ว แต่จะเสร็จเมื่อไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับพันนา กับจา โดยจายังอยู่ในสังกัด ถ่ายหนังจนจบ โดยจะได้ตัว 25 เปอร์เซ็นต์ของรายได้หนังทั้งหมด ต่อไปนี้เรื่องการให้เงินจาจะให้ตามที่เขาต้องการ ให้เข้ามาขอเอง แต่จะไม่เสนอให้เขาเอง แบบที่เอาเงินไปดูแลพ่อแม้เข้า ไปซื้อบ้านให้ เอาไปซื้อตึกอะไรแบบเมื่อก่อน ไม่มีอีกแล้ว” นายสมศักดิ์ กล่าว เมื่อถามว่า ทำไมไม่คุยกันแต่แรก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จะให้คุยได้อย่างไร เมื่อมันไม่คุยกับกู
ด้าน พล.ต.อ.จงรัก กล่าวถึงกรณีที่ จา อ้างว่า ถูกคุกคามว่า เชื่อว่า เป็นการเข้าใจผิด ตกลงกันได้แล้วก็ถามนายสมศักดิ์ ก็ไม่มีอะไร ไม่ได้จะไปฆ่าไปแกงอะไรกัน เมื่อมีการพูดคุยตกลงกันได้แล้วเป็นเรื่องที่ดีเพื่อให้การถ่ายทำหนังเดินหน้าต่อไป
ขณะที่ จาพนม กล่าวว่า จะกลับไปถ่ายหนังให้เสร็จ แต่คงบอกไม่ได้ว่าเสร็จเมื่อไหร่ ซึ่งหลังจากพูดคุยกันวันนี้ก็สบายใจแล้ว จากนี้กลับไปทำหนังต่อและทำความเข้าใจกับครอบครัวด้วย จะกลับบ้านที่สุรินทร์
วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ หรือ “เสี่ยเจียง” ผู้บริหารบริษัท สหมงคลฟิล์ม จำกัด พร้อมทนายเดินทางมาตกลงปัญหาและพบกับ นายพนม ยีรัมย์ หรือ “จา พนม” พระเอกนักบู๊ชื่อดัง เป็นครั้งแรกหลังเกิดปัญหาความขัดแย้งกับบริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล โดยหายตัวไปจากกองถ่ายภาพยนตร์เรื่ององค์บาก 2 และเข้าพบ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.(ปป 3) เพื่อปรึกษาเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา
โดยเมื่อพบกัน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้เจอจาเป็นครั้งแรก และจะได้พูดคุยตกลงกันในปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้งสองตกลงว่าจะเข้าไปคุยปัญหาเป็นการส่วนตัวภายในห้องทำงานของ พล.ต.อ.จงรัก พร้อมกับทนายทั้ง 2 ฝ่ายซึ่งใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง
ภายหลังการพูดคุยกัน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกับจา ก็ตกลงกันว่า พรุ่งนี้จะมีการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ต่อจนจบ ส่วนสัญญาที่จาส่งมานั้น คงต้องฉีกทิ้งไป และหากจะมีปัญหาอีกก็จะมาพูดคุยกันต่อหน้า พล.ต.อ.จงรัก ก็ดีจะได้จบ หรือถ้าจาสะดวกใจคุยกันเองโดยไม่ผ่านทั้ง พล.ต.อ.จงรัก ก็แล้วแต่จา ทั้งนี้ ก็ยืนยันว่า จา ยังคงกลับไปทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ และนักแสดงในเรื่อง แต่จะไม่มีการผันบัญชีจ่ายไปให้จาโดยตรง แต่บริษัทก็จะเข้าไปดูแลเรื่องงบประมาณทั้งหมด
“งบการสร้างจะต้องใช้อีกเท่าไรก็คงต้องใช้ เพราะหนังใกล้จะทำจบแล้ว แต่จะเสร็จเมื่อไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับพันนา กับจา โดยจายังอยู่ในสังกัด ถ่ายหนังจนจบ โดยจะได้ตัว 25 เปอร์เซ็นต์ของรายได้หนังทั้งหมด ต่อไปนี้เรื่องการให้เงินจาจะให้ตามที่เขาต้องการ ให้เข้ามาขอเอง แต่จะไม่เสนอให้เขาเอง แบบที่เอาเงินไปดูแลพ่อแม้เข้า ไปซื้อบ้านให้ เอาไปซื้อตึกอะไรแบบเมื่อก่อน ไม่มีอีกแล้ว” นายสมศักดิ์ กล่าว เมื่อถามว่า ทำไมไม่คุยกันแต่แรก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จะให้คุยได้อย่างไร เมื่อมันไม่คุยกับกู
ด้าน พล.ต.อ.จงรัก กล่าวถึงกรณีที่ จา อ้างว่า ถูกคุกคามว่า เชื่อว่า เป็นการเข้าใจผิด ตกลงกันได้แล้วก็ถามนายสมศักดิ์ ก็ไม่มีอะไร ไม่ได้จะไปฆ่าไปแกงอะไรกัน เมื่อมีการพูดคุยตกลงกันได้แล้วเป็นเรื่องที่ดีเพื่อให้การถ่ายทำหนังเดินหน้าต่อไป
ขณะที่ จาพนม กล่าวว่า จะกลับไปถ่ายหนังให้เสร็จ แต่คงบอกไม่ได้ว่าเสร็จเมื่อไหร่ ซึ่งหลังจากพูดคุยกันวันนี้ก็สบายใจแล้ว จากนี้กลับไปทำหนังต่อและทำความเข้าใจกับครอบครัวด้วย จะกลับบ้านที่สุรินทร์
