หนุ่มใหญ่เมืองนนท์ยิ้มร่าได้รถคู่ใจคืน หลังถูกโจรกรรมหายไปกว่า 3 เดือน ก่อน ตร.กองปราบเข้าตรวจยึดรถจากอู่ “เอสที เจริญยนต์” จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบรถยนต์ของกลาง 8 คัน และอะไหล่รถอีกจำนวนมาก ตร.เร่งสอบขยายผลขบวนการโจรกรรมรถ สั่งล่าตัว “หงอก” อปพร.คนนำรถมาขายดำเนินคดี
วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่กองปราบปราม นายสมควร เกิดภู่ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/19 หมู่ 1 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมกับผู้เสียหายซึ่งถูกโจรกรรมรถยนต์จากพื้นที่ จ.นนทบุรี จำนวน 11 ราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.ฝป.7 บก.ป.เพื่อตรวจสอบรถยนต์ ที่ชุดสืบสวน ฝป.7 บก.ป.ตรวจยึดได้จากอู่รถยนต์ “เอสที เจริญยนต์” เลขที่ 203 หมู่ 7 ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมจับกุมตัว นายสุนทร ล้อมพูนสุข อายุ 43 ปี เจ้าของอู่ และนายเฉลิม วามะกัน อายุ 25 ปี ลูกจ้าง เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
นายสมควร กล่าวว่า เป็นเจ้าของรถกระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นบิ๊กเอ็ม สีดำ หมายเลขทะเบียน 7ห-2782 กทม. หมายเลขเครื่อง TD25-526504 เลขตัวถัง RGD21-BO5273 ซึ่งหายไปจากบริเวณร้านเสริมสวย “คุณหมู” ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านพักตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งตนจำได้ว่าเช้าวันนั้นได้ตื่นนอนแต่เช้าพร้อมกับภรรยาเพื่อเตรียมตัวใส่บาตรในวันวิสาขบูชา แต่ก็ต้องรู้สึกตกใจเมื่อพบว่ารถกระบะของตนที่จอดไว้สูญหายไป เมื่อตั้งสติได้จึงพากันเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี นอกจากนั้นยังได้แจ้งกับทางสถานีวิทยุต่างๆ เพื่อให้ช่วยเหลือติดตามรถของตนแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว
นายสมควร กล่าวต่อว่า หลังจากทราบข่าวว่าทางตำรวจกองปราบปรามสามารถติดตามรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมกลับมาได้จึงรวมตัวกับเพื่อนบ้านซึ่งรถยนต์ถูกโจรกรรมเช่นเดียวกันเข้ามาตรวจสอบรถ และจากการพูดคุยสอบถามผู้เสียหายรายอื่นๆ ทราบว่าเฉพาะในพื้นที่บริเวณที่ตนอาศัยคือชุมชนหลังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (พระราม 7) ต.บางกรวย อ.บางกรวย มีรถถูกโจรกรรมกว่า 30 คัน นอกจากนี้ มีผู้เสียหายบางส่วนที่อาศัยอยู่ที่ อ.บางบัวทอง และพื้นที่อื่นๆ ใน จ.นนทบุรี อีกด้วย
“ดีใจมากที่ได้เจอรถเสียที ซึ่งก่อนหน้าที่จะเจอรถ แฟนผมฝันว่าได้พบรถที่หายไป ซึ่งรถคันนี้ผมซื้อมาใช้กว่า 19 ปี เท่ากับอายุลูกสาวจึงรู้สึกผูกพันมาก และช่วงที่รถหายก็เดือดร้อนมากเพราะต้องไปเช่ารถมาใช้ส่งของแทน” นายสมควร กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.พรศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการเข้าตรวจค้นอู่ “เอสที เจริญยนต์” นั้น ได้อายัดรถยนต์ไว้ทั้งหมด 8 คัน แต่ยังพบชิ้นส่วนเป็นอะไหล่รถยนต์อีกจำนวนมาก บางส่วนถูกนำมาประกอบเป็นรถยนต์คันใหม่เพื่อเตรียมนำส่งออกขายตามเต็นท์รถแล้ว ซึ่งทางชุดจับกุมจะได้เร่งตรวจสอบและขยายผลไปยังขบวนการโจรกรรมรถต่อไป ส่วนนายหงอก ซึ่งเป็นผู้นำรถยนต์ไปขายต่อให้กับอู่ดังกล่าว พนักงานสอบสวน ฝป.7 บก.ป.อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหาย โดยเบื้องต้นพบว่านายหงอกมักจะชอบแต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่ แต่พบว่าเป็นเพียง อปพร.ในพื้นที่ จ.นนทบุรี เท่านั้น และขณะนี้ได้เร่งสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว
