เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตพลาสติกของบริษัท ยงศิริวัฒน์ ภายในซอยพุทธบูชา 4 บนถนนพระราม 2 ต้นเพลิงเป็นตึกสูง 4 ชั้น ทำให้เกิดกลุ่มควันดำเป็นวงกว้างกว่า 5 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงกว่า 30 คัน เข้าสกัดเพลิงที่ลุกไหม้ ใช้เวลาควบคุมเพลิงนานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งจึงสงบ มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท โชคดีไม่มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ 1 ราย เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุเพลิงไหม้
วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.ท.ธัชพงศ์ ปิ่นรอด พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.บางมด ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ชื่อ บริษัท ยงศิริวัฒน์ ตั้งอยู่เลขที่ 45/17-18 ถนนพุทธบูชา (ซอย 4) แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วัญวัส การุณยธัช ผบก.น.8 พ.ต.อ.ทองดำ ลาภิกานนท์ รอง ผบก.น.8 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.จำนวนกว่า 30 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนพลาสติก และชุดสีของรถจักรยานยนต์ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ ปลูกอยู่ในรั้วรอบขอบชิด เจ้าหน้าที่พบต้นเพลิงเกิดจากอาคารฝ่ายผลิตซึ่งเป็นตึกสูง 4 ชั้น จำนวน 5 คูหา ก่อนที่แสงเพลิงจะลุกลามไปถึงโกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ของบริษัท ทำให้เกิดกลุ่มควันพิษสีดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นวงกว้างกินรัศมีไปไกลถึง 5 กิโลเมตร และเนื่องจากที่โรงงานดังกล่าวใช้วัสดุประเภทเม็ดพลาสติกเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้า จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามในการฉีดสกัดกั้นเพลิงนานกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที กว่าเพลิงจะสงบ
จากการสอบสวน นางจิรรส แซ่จิว อายุ 56 ปี แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวที่อยู่บริเวณกลางซอย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนตื่นขึ้นมาเมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. ได้ยินเสียงชาวบ้านโวยวายจึงรีบออกมาดู พบว่า มีกลุ่มควันและแสงเพลิงพวยพุ่งขึ้นมาจากอาคารฝ่ายผลิตของโรงงานดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ในระหว่างที่ชาวบ้านทุกคนกำลังโกลาหลอยู่กับการขนย้ายข้าวของอยู่นั้นก็มีเสียงถังแก็สระเบิดดังมาจากด้านในโรงงานเป็นระยะประมาณ 3 ครั้ง ประกอบกับซอยนี้เป็นซอยแคบรถดับเพลิงเข้าลำบากทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะวางหัวฉีดเข้าสกัดกั้นเพลิงได้ ปกติโรงงานจะเปิดทุกวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม และหยุดเพียงวันอาทิตย์แค่วันเดียว สำหรับสาเหตุตนคิดว่าน่าจะมาจากเครื่องฉีดพลาสติกที่มีสภาพเก่ามากแล้ว ตนเคยได้ยินคนงานที่มากินก๋วยเตี๋ยวเล่าให้ฟังว่า เครื่องเสียบ่อยแต่เถ้าแก่ไม่ยอมลงทุนตามช่างมาซ่อม ปล่อยให้คนงานซ่อมกันเองแบบงูๆ ปลาๆ ทั้งๆ ที่เครื่องฉีดพลาสติกดังกล่าวต้องเปิดใช้งานเกือบตลอด 24 ชั่วโมง เพราะต้องรักษาความร้อนให้คงที่ไม่อย่างนั้นเครื่องก็จะไม่สามารถทำงานได้ คาดว่าเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาน่าจะมีใครเข้าไปเปิดเครื่องทิ้งเอาไว้เพื่อรอเวลาลูกจ้างเข้าทำงานจึงทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในที่สุด
ด้าน พล.ต.ต.วรัญวัส กล่าวว่า หลังเกิดเหตุไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต มีเพียงผู้บาดเจ็บจากการสำลักควันเพียง 1 ราย จากการตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่าอาคารผลิตชิ้นส่วนทั้ง 5 คูหา และโกดังเก็บสินค้าเสียหายหมดทั้งหลัง ซึ่งตนจะให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานร่วมกับพนักงานสอบสวนทำการตรวจสอบอีกครั้งว่า ต้นเพลิงเกิดจากตรงจุดไหนและสาเหตุใดกันแน่ ก่อนติดตามตัวเจ้าของโรงงานซึ่งทราบชื่อแล้ว คือ นายยรรยง คลังจตุรเวทย์ มาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีต่อไป สำหรับเรื่องมาตรฐานของโครงสร้างอาคารนั้น ทางสำนักงานเขตจอมทองจะเป็นผู้ตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้แต่คาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
วันนี้ (4 ส.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.ท.ธัชพงศ์ ปิ่นรอด พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.บางมด ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ชื่อ บริษัท ยงศิริวัฒน์ ตั้งอยู่เลขที่ 45/17-18 ถนนพุทธบูชา (ซอย 4) แขวงบางมด เขตจอมทอง กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วัญวัส การุณยธัช ผบก.น.8 พ.ต.อ.ทองดำ ลาภิกานนท์ รอง ผบก.น.8 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม.จำนวนกว่า 30 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนพลาสติก และชุดสีของรถจักรยานยนต์ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ ปลูกอยู่ในรั้วรอบขอบชิด เจ้าหน้าที่พบต้นเพลิงเกิดจากอาคารฝ่ายผลิตซึ่งเป็นตึกสูง 4 ชั้น จำนวน 5 คูหา ก่อนที่แสงเพลิงจะลุกลามไปถึงโกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ของบริษัท ทำให้เกิดกลุ่มควันพิษสีดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นวงกว้างกินรัศมีไปไกลถึง 5 กิโลเมตร และเนื่องจากที่โรงงานดังกล่าวใช้วัสดุประเภทเม็ดพลาสติกเป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้า จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามในการฉีดสกัดกั้นเพลิงนานกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที กว่าเพลิงจะสงบ
จากการสอบสวน นางจิรรส แซ่จิว อายุ 56 ปี แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวที่อยู่บริเวณกลางซอย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนตื่นขึ้นมาเมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. ได้ยินเสียงชาวบ้านโวยวายจึงรีบออกมาดู พบว่า มีกลุ่มควันและแสงเพลิงพวยพุ่งขึ้นมาจากอาคารฝ่ายผลิตของโรงงานดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ในระหว่างที่ชาวบ้านทุกคนกำลังโกลาหลอยู่กับการขนย้ายข้าวของอยู่นั้นก็มีเสียงถังแก็สระเบิดดังมาจากด้านในโรงงานเป็นระยะประมาณ 3 ครั้ง ประกอบกับซอยนี้เป็นซอยแคบรถดับเพลิงเข้าลำบากทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะวางหัวฉีดเข้าสกัดกั้นเพลิงได้ ปกติโรงงานจะเปิดทุกวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม และหยุดเพียงวันอาทิตย์แค่วันเดียว สำหรับสาเหตุตนคิดว่าน่าจะมาจากเครื่องฉีดพลาสติกที่มีสภาพเก่ามากแล้ว ตนเคยได้ยินคนงานที่มากินก๋วยเตี๋ยวเล่าให้ฟังว่า เครื่องเสียบ่อยแต่เถ้าแก่ไม่ยอมลงทุนตามช่างมาซ่อม ปล่อยให้คนงานซ่อมกันเองแบบงูๆ ปลาๆ ทั้งๆ ที่เครื่องฉีดพลาสติกดังกล่าวต้องเปิดใช้งานเกือบตลอด 24 ชั่วโมง เพราะต้องรักษาความร้อนให้คงที่ไม่อย่างนั้นเครื่องก็จะไม่สามารถทำงานได้ คาดว่าเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาน่าจะมีใครเข้าไปเปิดเครื่องทิ้งเอาไว้เพื่อรอเวลาลูกจ้างเข้าทำงานจึงทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในที่สุด
ด้าน พล.ต.ต.วรัญวัส กล่าวว่า หลังเกิดเหตุไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต มีเพียงผู้บาดเจ็บจากการสำลักควันเพียง 1 ราย จากการตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่าอาคารผลิตชิ้นส่วนทั้ง 5 คูหา และโกดังเก็บสินค้าเสียหายหมดทั้งหลัง ซึ่งตนจะให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานร่วมกับพนักงานสอบสวนทำการตรวจสอบอีกครั้งว่า ต้นเพลิงเกิดจากตรงจุดไหนและสาเหตุใดกันแน่ ก่อนติดตามตัวเจ้าของโรงงานซึ่งทราบชื่อแล้ว คือ นายยรรยง คลังจตุรเวทย์ มาสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีต่อไป สำหรับเรื่องมาตรฐานของโครงสร้างอาคารนั้น ทางสำนักงานเขตจอมทองจะเป็นผู้ตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้แต่คาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
