กองปราบรวบสาวใหญ่ ขายเคมีภัณฑ์เกษตรปลอม หลังตัวแทนบริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายสินค้าด้านการเกษตร เข้าร้องเรียน พบพฤติกรรมสุดแสบ ซื้อผลิตภัณฑ์การเกษตรยี่ห้อดัง นำมาเจือจางส่วนผสมเพื่อให้ได้ปริมาณเพิ่มมากขึ้น บรรจุผลิตภัณฑ์ใหม่ออกจำหน่ายตามท้องตลาดในราคาถูกกว่าของจริง
วันนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น.ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.ชัยยุทธ เจียรศิริกุล ผกก.ฝป.5 บก.ป. พ.ต.ต.ตุลยวัต เมืองทอง สว.ฝป.5 บก.ป.และตัวแทนบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าด้านการเกษตร หลายราย ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นางพรรุ่ง สิ้นเคราะห์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/235 หมู่ 3 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พร้อมของกลาง อาทิ สารเคมีกำจัดวัชพืช ยาฆ่าแมง สารเคมีกำจัดหนู และปุ๋ยเคมี ซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบการและปลอมแปลงเลขทะเบียนใบอนุญาต แกลลอนเปล่า ฉลากยา และ ลังจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่บ้านพักของ นางพรรุ่ง เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ฝป.5 บก.ป.ได้รับแจ้งจากตัวแทนบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าด้านการเกษตร ซึ่งได้รับอนุญาตและมีทะเบียนมาตรฐานสินค้าถูกต้อง ว่า มีผู้ลักลอบผลิตสินค้าทางการเกษตรปลอมแปลงยี่ห้อส่งจำหน่ายให้กับร้านค้า สหกรณ์การเกษตรตามจังหวัดต่างๆ รวมทั้งเกษตรกรรายย่อยในราคาถูกกว่าครึ่งต่อครึ่ง สร้างความเสียหายกับเจ้าของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก
ต่อมาชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ กระทั่งพบว่ามีการลักลอบผสมสารเคมีผลิตและบรรจุผลิตภัณฑ์สารเคมีในบ้านพักของ นางพรรุ่ง เมื่อเป็นที่แน่ชัดจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นศาลแขวงนนทบุรี ที่ 125/1-3 ลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2551 เข้าตรวจค้นพบของกลางซึ่งคนงาน 6 คน กำลังบรรจุผลิตภัณฑ์ สอบสวนคนงานรับสารภาพได้ค่าแรงเดือนละ 4,500 บาท โดยมีหน้าที่ผสมยาและบรรจุลงบรรจุภัณฑ์ ก่อนนำไปส่งให้ร้านต่างที่สั่งไปจำหน่าย
ด้าน นางพรรุ่ง ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการซื้อผลิตภัณฑ์การเกษตรยี่ห้อดัง ก่อนจะนำมาเจือจางส่วนผสมเพื่อให้ได้ปริมาณเพิ่มมากขึ้น ก่อนจะบรรจุผลิตภัณฑ์ใหม่ และนำออกจำหน่ายตามท้องตลาดในราคาถูกกว่าของจริงเล็กน้อย
ขณะที่ตัวแทนของบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าด้านการเกษตรรายหนึ่ง ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกร ว่า พบเคมีภัณฑ์ด้านการเกษตรปลอมแปลงระบาดหนัก จึงส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบหลายแห่งเมื่อได้เบาะแสแล้ว จึงพากันเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวนกองปราบปราม กระทั่งมีการจับกุมในครั้งนี้ สำหรับการกระทำของผู้ต้องหานั้นถือว่าเป็นการซ้ำเติมเกษตรกรที่ซื้อสินค้าไปแล้วกลับไม่ได้ใช้สินค้าที่มีมาตรฐาน และไม่มีประสิทธิภาพจึงอยากให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาตรวจสอบและให้ข้อมูลกับเกษตรกรเมื่อต้องการซื้อสินค้าการเกษตรมาใช้
ด้าน พ.ต.อ.ชัยยุทธ กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหา พบว่า มีการลักลอบผลิตสารเคมีการเกษตรโดยซื้อผลิตภัณฑ์ของแท้มาเป็นหัวเชื้อก่อนเจือจางส่วนผสมแล้วนำออกวางจำหน่าย โดยจะทำครั้งละไม่มากและส่งสินค้าตามใบสั่งซื้อหรือตามร้านค้าสหกรณ์การเกษตร และจะมีการเปลี่ยนสถานที่ผลิตไปเรื่อยๆ เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุม ส่วนผู้ต้องหา ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น.ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.ชัยยุทธ เจียรศิริกุล ผกก.ฝป.5 บก.ป. พ.ต.ต.ตุลยวัต เมืองทอง สว.ฝป.5 บก.ป.และตัวแทนบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าด้านการเกษตร หลายราย ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นางพรรุ่ง สิ้นเคราะห์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/235 หมู่ 3 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พร้อมของกลาง อาทิ สารเคมีกำจัดวัชพืช ยาฆ่าแมง สารเคมีกำจัดหนู และปุ๋ยเคมี ซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบการและปลอมแปลงเลขทะเบียนใบอนุญาต แกลลอนเปล่า ฉลากยา และ ลังจำนวนมาก รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่บ้านพักของ นางพรรุ่ง เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ฝป.5 บก.ป.ได้รับแจ้งจากตัวแทนบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าด้านการเกษตร ซึ่งได้รับอนุญาตและมีทะเบียนมาตรฐานสินค้าถูกต้อง ว่า มีผู้ลักลอบผลิตสินค้าทางการเกษตรปลอมแปลงยี่ห้อส่งจำหน่ายให้กับร้านค้า สหกรณ์การเกษตรตามจังหวัดต่างๆ รวมทั้งเกษตรกรรายย่อยในราคาถูกกว่าครึ่งต่อครึ่ง สร้างความเสียหายกับเจ้าของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก
ต่อมาชุดสืบสวนจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ กระทั่งพบว่ามีการลักลอบผสมสารเคมีผลิตและบรรจุผลิตภัณฑ์สารเคมีในบ้านพักของ นางพรรุ่ง เมื่อเป็นที่แน่ชัดจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายค้นศาลแขวงนนทบุรี ที่ 125/1-3 ลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2551 เข้าตรวจค้นพบของกลางซึ่งคนงาน 6 คน กำลังบรรจุผลิตภัณฑ์ สอบสวนคนงานรับสารภาพได้ค่าแรงเดือนละ 4,500 บาท โดยมีหน้าที่ผสมยาและบรรจุลงบรรจุภัณฑ์ ก่อนนำไปส่งให้ร้านต่างที่สั่งไปจำหน่าย
ด้าน นางพรรุ่ง ให้การรับสารภาพว่า ได้ทำการซื้อผลิตภัณฑ์การเกษตรยี่ห้อดัง ก่อนจะนำมาเจือจางส่วนผสมเพื่อให้ได้ปริมาณเพิ่มมากขึ้น ก่อนจะบรรจุผลิตภัณฑ์ใหม่ และนำออกจำหน่ายตามท้องตลาดในราคาถูกกว่าของจริงเล็กน้อย
ขณะที่ตัวแทนของบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าด้านการเกษตรรายหนึ่ง ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกร ว่า พบเคมีภัณฑ์ด้านการเกษตรปลอมแปลงระบาดหนัก จึงส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบหลายแห่งเมื่อได้เบาะแสแล้ว จึงพากันเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวนกองปราบปราม กระทั่งมีการจับกุมในครั้งนี้ สำหรับการกระทำของผู้ต้องหานั้นถือว่าเป็นการซ้ำเติมเกษตรกรที่ซื้อสินค้าไปแล้วกลับไม่ได้ใช้สินค้าที่มีมาตรฐาน และไม่มีประสิทธิภาพจึงอยากให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาตรวจสอบและให้ข้อมูลกับเกษตรกรเมื่อต้องการซื้อสินค้าการเกษตรมาใช้
ด้าน พ.ต.อ.ชัยยุทธ กล่าวว่า สำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหา พบว่า มีการลักลอบผลิตสารเคมีการเกษตรโดยซื้อผลิตภัณฑ์ของแท้มาเป็นหัวเชื้อก่อนเจือจางส่วนผสมแล้วนำออกวางจำหน่าย โดยจะทำครั้งละไม่มากและส่งสินค้าตามใบสั่งซื้อหรือตามร้านค้าสหกรณ์การเกษตร และจะมีการเปลี่ยนสถานที่ผลิตไปเรื่อยๆ เพื่อให้ยากต่อการติดตามจับกุม ส่วนผู้ต้องหา ได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ดำเนินคดีต่อไป
