รอง ผกก.สส.สน.ชนะสงคราม ไม่มีน้ำยาอ่อนข้อให้ผู้ต้องหาคดีสินบน 2 ล้าน ส่งทนายยื่นหนังสือขอเลื่อนสอบปากคำ อ้างเหตุตัวทนายต้องจัดเตรียมเอกสารสู้คดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ แบ่งรับแบ่งสู้ไม่เลือกปฏิบัติกับฝ่ายใดเป็นพิเศษ ตบยุงรอสอบ “แก๊งทนายแม้ว” คาดประมาณสิงหาคม แย้มราชทัณฑ์ไฟเขียวอยู่แล้ว
วันนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.20 น. พ.ต.ท.สุเมธ จิตต์พานิชย์ รองผกก.สส.สนชนะสงคราม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนสินบน 2 ล้านบาท ที่ 3 ทนายถูกศาลฎีกาลงโทษจำคุกคนละ 6 เดือน เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ และนายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดี ญาติสนิทคุณหญิงพจมาน ข้อหาสินบนเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 และความผิดอื่นต่อเจ้าพนักงานนั้น ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ส่งทนายความประสานขอเลื่อนการให้ปากคำ โดยได้ทำหนังสือลายลักษณ์อักษรให้เหตุผลว่าตัวทนายความที่ดูแลคดีสินบน 2 ล้านบาท ติดภารกิจต้องเตรียมข้อมูลหลักฐานการสู้คดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาฯ จึงไม่สะดวกที่จะว่าความให้กับผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ในชวงเวลานี้ จำเป็นต้องขอขยายเวลาไปเป็นช่วงประมาณเดือนสิงหาคม ซึ่งในส่วนนี้เป็นสิทธิที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 จะเลือกทนายเอง ไม่จำเป็นต้องใช้ทนายที่ทางพนักงานจัดหาให้ ซึ่งไม่ใช่พนักงานสอบเตะถ่วงเวลา หรือเข้าข้างฝ่ายใดเป็นพิเศษ
ต่อข้อถามที่ว่าคดีส่วนใหญ่ในฝ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายตรงข้ามเจ้าหน้าที่มักจะทำเรื่องให้ช้า ทั้งที่เรื่องนี้ผู้ต้องหาก็ติดคุกมากว่าเดือนแล้ว นั้น พ.ต.ท.สุเมธ กล่าวว่า ไม่จริง พนักงานสอบทำตามหลักฐานและที่ผ่านมาก็ได้สอบพยานฝ่ายศาลฎีกา 6-7 ปากเสร็จแล้ว ส่วนพยานฝ่ายผู้ต้องหาเหลืออีก 2-3 ปาก คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนนี้ก็จะแล้วเสร็จ
ส่วนข้อถามที่ว่าคดีจะพาดพิงถึงระดับอดีตนายกรัฐมนตรี และมีแรงกดดันในการสอบสวนหรือไม่ พ.ต.ท.สุเมธ กล่าวว่า ไม่ลำบากใจกับการทำคดี และไม่เคยมีระดับใดมาก้าวก่ายการทำงาน สาเหตุที่เข้าสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสามล่าช้า เนื่องจากทนายในฝ่ายของผู้ต้องหาทำเรื่องขอเลื่อนมา และถ้ายังขอเลื่อนต่ออีกก็ต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงพิจารณา ซึ่งการจะเข้าสอบปากคำทำได้ง่ายเพราะในส่วนของกรมราชทัณฑ์ก็ให้ความร่วมมือด้วยดีอยู่แล้ว หากมีการประสานไป แต่ก็ต้องรอทนายของผู้ต้องหามาว่าความสู้คดีก่อน ทุกอย่างเป็นธรรมทุกฝ่าย ไม่มีลำเอียงแน่นอน เพราะในเรื่องนี้มีคณะกรรมการระดับ บชน.ดูแลด้วย
“ไม่เคยยื้อเวลา เตะถ่วงให้ช้า แต่ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาจะเลือกทนายไม่เอาทนายที่เราจัดหาให้ได้ ทำคดีนี้ไม่ลำบากใจไม่มีใครมาแทรกแซงได้ และไม่เคยเลือกปฏิบัติกับใคร” พ.ต.ท. สุเมธ กล่าว
วันนี้ (26 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.20 น. พ.ต.ท.สุเมธ จิตต์พานิชย์ รองผกก.สส.สนชนะสงคราม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสอบสวนสินบน 2 ล้านบาท ที่ 3 ทนายถูกศาลฎีกาลงโทษจำคุกคนละ 6 เดือน เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร น.ส.ศุภศรี ศรีสวัสดิ์ เสมียนทนายความ และนายธนา ตันศิริ ผู้ประสานงานคดี ญาติสนิทคุณหญิงพจมาน ข้อหาสินบนเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 และความผิดอื่นต่อเจ้าพนักงานนั้น ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ส่งทนายความประสานขอเลื่อนการให้ปากคำ โดยได้ทำหนังสือลายลักษณ์อักษรให้เหตุผลว่าตัวทนายความที่ดูแลคดีสินบน 2 ล้านบาท ติดภารกิจต้องเตรียมข้อมูลหลักฐานการสู้คดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาฯ จึงไม่สะดวกที่จะว่าความให้กับผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้ในชวงเวลานี้ จำเป็นต้องขอขยายเวลาไปเป็นช่วงประมาณเดือนสิงหาคม ซึ่งในส่วนนี้เป็นสิทธิที่ผู้ต้องหาทั้ง 3 จะเลือกทนายเอง ไม่จำเป็นต้องใช้ทนายที่ทางพนักงานจัดหาให้ ซึ่งไม่ใช่พนักงานสอบเตะถ่วงเวลา หรือเข้าข้างฝ่ายใดเป็นพิเศษ
ต่อข้อถามที่ว่าคดีส่วนใหญ่ในฝ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายตรงข้ามเจ้าหน้าที่มักจะทำเรื่องให้ช้า ทั้งที่เรื่องนี้ผู้ต้องหาก็ติดคุกมากว่าเดือนแล้ว นั้น พ.ต.ท.สุเมธ กล่าวว่า ไม่จริง พนักงานสอบทำตามหลักฐานและที่ผ่านมาก็ได้สอบพยานฝ่ายศาลฎีกา 6-7 ปากเสร็จแล้ว ส่วนพยานฝ่ายผู้ต้องหาเหลืออีก 2-3 ปาก คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนนี้ก็จะแล้วเสร็จ
ส่วนข้อถามที่ว่าคดีจะพาดพิงถึงระดับอดีตนายกรัฐมนตรี และมีแรงกดดันในการสอบสวนหรือไม่ พ.ต.ท.สุเมธ กล่าวว่า ไม่ลำบากใจกับการทำคดี และไม่เคยมีระดับใดมาก้าวก่ายการทำงาน สาเหตุที่เข้าสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสามล่าช้า เนื่องจากทนายในฝ่ายของผู้ต้องหาทำเรื่องขอเลื่อนมา และถ้ายังขอเลื่อนต่ออีกก็ต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงพิจารณา ซึ่งการจะเข้าสอบปากคำทำได้ง่ายเพราะในส่วนของกรมราชทัณฑ์ก็ให้ความร่วมมือด้วยดีอยู่แล้ว หากมีการประสานไป แต่ก็ต้องรอทนายของผู้ต้องหามาว่าความสู้คดีก่อน ทุกอย่างเป็นธรรมทุกฝ่าย ไม่มีลำเอียงแน่นอน เพราะในเรื่องนี้มีคณะกรรมการระดับ บชน.ดูแลด้วย
“ไม่เคยยื้อเวลา เตะถ่วงให้ช้า แต่ก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาจะเลือกทนายไม่เอาทนายที่เราจัดหาให้ได้ ทำคดีนี้ไม่ลำบากใจไม่มีใครมาแทรกแซงได้ และไม่เคยเลือกปฏิบัติกับใคร” พ.ต.ท. สุเมธ กล่าว