ดีเอสไอประกาศหมดภารกิจคดี “เอสซี แอสเสท” แล้ว!

“อธิบดีดีเอสไอ” เผยดคีเอสซีฯ หมดภาระของดีเอสไอแล้ว โยน “สุนัย มโนมัยอุดม” ชี้แจง ปัด ก.ล.ต.ประสานขอเอกสารจากต่างประเทศ

วันนี้ (22 ก.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงกรณีพนักงานอัยการออกมาระบุว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอยังไม่ส่งเอกสารประกอบสำนวนต่างประเทศของคดีการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท เอสซี แอสเสท จำกัด (มหาชน) ว่า การประสานงานขอเอกสารจากต่างประเทศเป็นหน้าที่ของทางคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขณะนี้หมดหน้าที่ของดีเอสไอ เพราะสรุปสำนวนส่งอัยการไปแล้ว การสั่งฟ้องหรือไม่เป็นดุลพินิจของอัยการ ส่วนเอกสารต่างประเทศจะใช้เป็นหลักฐานสำคัญมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของอัยการว่าจะมีความเห็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอไม่ได้นิ่งเฉย เพราะได้ทำ หนังสือเร่งรัดทางเลขาธิการ ก.ล.ต.ไปแล้ว

“ตอนนี้หมดหน้าที่ดีเอสไอแล้ว เพราะได้สอบเพิ่มเติมในส่วนของพยานบุคคลเรียบร้อย แต่เอกสารจากต่างประเทศ คงไม่สามารถไปเร่งรัดหน่วยงานต่างประเทศไทยได้ ส่วนความร่วมมือทางคดีอาญาระหว่างประเทศนั้นไม่ทราบว่าสมัยนายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีดีเอสไอ ได้ใช้ความร่วมมือในส่วนนี้หรือไม่ มาสมัยผมมีการสรุปสำนวนส่งอัยการไปแล้ว อัยการให้สอบเพิ่มก็สอบหมดแล้ว ก็ไม่รู้ต้องทำยังไงอีก” พ.ต.อ.ทวีกล่าว

รายงานข่าวดีเอสไอ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค.) เวลา 14.00 น. นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม อดีตอัยการสูงสุด ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ให้เป็นประธานคณะอนุกรรมการ กคพ.จะประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาชี้ขาดว่าดีเอสไอมีอำนาจสอบสวนคดีการฮั้วประมูลพิมพ์บัตรเลือกตั้ง และคดีทุจริตการเลือกตั้งอันเนื่องมาจากการพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินจำนวนผู้มีสิทธิลงคะแนน ทั้งนี้ ผลของการประชุมจะส่งผลต่อการขออนุมัติหมายค้น เพื่อเข้าค้นบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการสมยอมราคา ที่สำคัญเรื่องอำนาจการชี้ขาดเรื่องการสอบสวนจะต้องนำเสนอต่อ กคพ. เพื่อขอมติรับคดีในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นคดีพิเศษต่อไป