“ดีเอสไอ” เตรียมคุ้มครองพยานคดีฮั้วประมูลจัดอบรมของ สตง. หลังถูกบิ๊ก สตง.ข่มขู่ ขณะที่การสอบสวนสะดุดเหตุสตง.ไม่ส่งเอกสารให้ตรวจสอบ จึงต้องเสนอ กคพ.รับเป็นคดีพิเศษ พ่วงคดีบัตรเลือกตั้ง
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงการประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าในการสอบสวนกรณีมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ตรวจสอบผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งมีพฤติกรรมช่วยเหลือบริษัทเอกชนให้ได้รับโครงการฝึกอบรมใน สตง.แบบผูกขาด ว่า พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งพยานบุคคลในคดีนี้ว่า ข่มขู่จากผู้ใหญ่ของ สตง. จนทำให้รู้สึกหวาดกลัว และเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย จนต้องขอหลบไปอาศัยอยู่ในต่างจังหวัดชั่วคราว หากภายในสัปดาห์หน้าพยานรายนี้ยังเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยและไม่ยอมเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ดีเอสไอจะใช้มาตรการคุ้มครองพยาน โดยจะส่งกำลังไปดูแลอารักขาความปลอดภัย
นายธาริต กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้พยายามขอความร่วมมือจาก สตง. เพื่อขอให้จัดส่งเอกสารเกี่ยวกับโครงการจัดอบรมของ สตง.มาให้ดีเอสไอตรวจสอบ แต่ สตง.ยังคงเพิกเฉยไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามคำร้องขอของพนักงานสอบสวน ดังนั้นดีเอสไอจะนำคดีดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานให้มีมติรับโอนเป็นคดีพิเศษ ทั้งนี้ เพื่อให้ดีเอสไอมีอำนาจสอบสวนตาม พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษต่อไป โดยคาดว่า กคพ.จะมีการประชุมกันในเดือนมิถุนายนนี้ ทั้งนี้ คดีที่จะขอเสนอให้รับเป็นคดีพิเศษมีประมาณ 10 คดี รวมถึงคดีฮั้วประมูลกการพิมพ์บัตรเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วย
สำหรับคดีฮั้วประมูลใน สตง. นายวันชัย จงจรูญหิรัณย์ กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อดีเอสไอ ถึงความไม่ชอบมาพากลใน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จากการที่ บริษัท ออดิต แอนด์ แมเนจเม้นท์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ผูกขาดการจับอบรมให้กับบุคลากรของ สตง. มูลค่านับสิบล้านบาท และบริษัทดังกล่าวยังเช่าอาคารพาณิชย์ ของนายทรงเกียรติ เมณฑกา สามี คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าฯ สตง.ที่ส่อเข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน