รายแรกคนร้ายทำทีเป็นลูกค้าบุกชิงทรัพย์ปั๊มน้ำมันย่านห้วยขวางกลางดึกได้เงินรวม4 พัน รายต่อมาบุกเดี่ยวปล้นแฟมิลี่มาร์ทย่านคันนายาวได้เงิน 2 พัน และร้านเซเว่นฯ อีก 2 แห่งย่านมีนบุรี ตำรวจคาดเป็นรายเดียวกับที่ก่อเหตุชิงทรัพย์เซเว่นฯ 2 คืนก่อนเตรียมนำกล้องวงจรปิดตรวจสอบเร่งล่าตัว
วันนี้ (18 ก.ค.) เมื่อเวลา 00.05 น. น.ร.ต.อ.ศุภชัย หาญคำหล้า ร้อยเวร สน.มักกะสัน รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ที่ปั๊มน้ำมันเชลล์ เลขที่ 2475 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในปั๊มน้ำมันเชลล์ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบ น.ส.วิภา จรลี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ม.9 ต.โคกจาน อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี พนักงานเติมน้ำมันของปั๊มยืนรอให้ปากคำด้วยอาการตื่นตระหนก
น.ส.วิภา กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีพนักงานอยู่ 3 คน เนื่องจากมินิมาร์ทภายในปั๊มจะปิดเวลาประมาณ 22.00 น.ส่วนปั๊มจะปิดให้บริการในเวลาเที่ยงคืน โดยก่อนเกิดเหตุมีรถเก๋งเข้ามาเติมน้ำมันแล้วขับออกไป จากนั้นก็เป็นเวลาที่ปั๊มจะต้องปิดให้บริการ ซึ่งตนและเพื่อนพนักงานคนอื่นๆกำลังจะแยกย้ายกันกลับ แต่ก็มีชายสวมเสื้อสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้น สวมหมวกแก๊ปขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเข้ามาเติมน้ำมัน 50 บาท ซึ่งหลังจากที่เติมน้ำมันเสร็จแล้วตนได้เดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อนำเงินไปทอนให้ชายคนดังกล่าว
“ระหว่างที่กำลังเปิดเคาน์เตอร์เพื่อหยิบเงินทอน จู่ๆ ชายคนดังกล่าวก็หยิบอาวุธปืนขึ้นมาจี้ที่เอวพร้อมกับพูดว่าอย่ายุ่ง และทุบที่ไหล่ขวาของฉันจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นก็หยิบเงินที่เคาน์เตอร์ไปประมาณ 4,000 บาท แล้วรีบขี่รถหลบหนีไป” น.ส.วิภา กล่าว
ด้าน ร.ต.อ.ศุภชัย กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบทราบว่าคนร้ายได้เงินไปจำนวน 4,000 บาท ซึ่งภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพของคนร้ายไว้ได้ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปใช้เครื่องอัดภาพจากกล้องวิดีโอทำให้ภาพชัดเจนขึ้น และอัดภาพคนร้ายออกมาเพื่อนำมาออกภาพสเกตช์ ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานไปแล้วจำนวน 3 ปาก โดยพนักงานที่ถูกคนร้ายจี้สามารถจำใบหน้าของคนร้ายได้ อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บรอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายไปตรวจสอบแล้วและให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งออกภาพสเกตช์เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายและติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเวลาประมาณ 03.00 น. ร.ต.ต.คณฎา ประจงจิตร พนักงานสอบสวน (สบ.1) สน.โคกคราม ได้รับแจ้งเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อแฟมมิลี่ มาร์ท ปากซอยรามอินทรา 46/1 แขวงและเขตคันนายาว กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ร.ต.ต.คณฎา กล่าวว่า จากการสอบสวนพนักงานในร้านดังกล่าว ทราบว่า คนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ ใส่หมวกแก๊ปสีดำ ทำทีเข้ามาซื้อหมากฝรั่งในมินิมาร์ท ก่อนชักปืนจี้เงินจากเคาน์เตอร์ได้เงินไปประมาณ 2,000 บาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป เบื้องต้นจะต้องสอบปากคำพนักงานภายในร้านอย่างละเอียดอีกครั้ง และจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่าสามารถจับภาพของคนร้ายไว้ได้หรือไม่
หลังจากนั้นเวลาประมาณ 04.15 น.วันเดียวกัน ร.ต.ท.ทิวา สุวรรณโกสิต พงส.(สบ.1) สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นร้านเซเว่นฯ อีก 2 แห่ง โดยร้านแรกอยู่บริเวณเซเว่นฯ ปากซอยรามอินทรา 109 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. คนร้ายได้เงินไปจำนวน 2,000 บาท และร้านที่ 2 เมื่อเวลาประมาณ 04.45 น. ร้านเซเว่นฯ ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาถนนสุวินทวงศ์ ปากซอยวัดแสนสุข แขวงและเขตมีนบุรี กทม. เกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าไปชิงทรัพย์เช่นเดียวกัน โดยคนร้ายได้เงินไปเกือบ 2,000 บาท
จากการสอบสวน น.ส.เสาวพร สุขพันธุ์ พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ร้านเซเว่นฯ ในปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาถนนสุวินทวงศ์ กล่าวว่า คนร้ายสวมเสื้อแจ็กเกตสีขาว กาวเกงยีนสีดำ ทำทีเข้ามาซื้อหมากฝรั่งก่อนนำมาคิดเงิน และอาศัยจังหวะเปิดลิ้นชักหยิบเงินทอน ชักปืนจี้ ก่อนคว้าเงินไป ซึ่งตนจำได้ว่าขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ขคข 91 หลบหนีไป
ด้าน ร.ต.ท.ทิวา กล่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์เซเว่นฯทั้ง 2 ร้านเป็นรายเดียวกัน ซึ่งจากการสอบปากคำพนักงานของทั้ง 2 ร้าน ให้การถึงรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายที่ตรงกัน และกล้องวงจรปิดของร้านสามารถจับภาพคนร้ายเอาไว้ได้ โดยพนักงานทั้ง 2 ร้านได้ดูภาพจากกล้องและยืนยันว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกัน นอกจากนี้ พนักงานยังจำหมายเลขทะเบียนรถ จยย.ของคนร้ายได้ซึ่งจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเป็นรถของใครเบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนขยายภาพของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดและรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
หลังจากเกิดเหตุ พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น.เปิดเผยว่า คดีปล้นร้านสะดวกซื้อทั้ง 3 คนร้ายก่อเหตุในเวลาไล่เลี่ยกัน คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายรายเดียวกัน และน่าจะเป็นคนเดียวกันที่ก่อเหตุปล้นเมื่อ 2 คืนก่อนหน้านี้ที่ร้านเซเว่นฯ ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.รามอินทรา กม.8 และเซเว่นฯ ปากซอยสวนสยาม 1 หลังจากนี้จะเรียกประชุมตำรวจ บก.2,3 และ4 เพื่อนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกได้ที่ร้านเซเว่นฯ ปากซอยสวนสยาม 1 มาตรวจสอบหาคนร้าย เพื่อออกภาพสเก็ตซ์คนร้าย ถึงแม้ว่าคดีปล้นต่อเนื่องนี้ร้านสะดวกซื้อแต่ละแห่งจะได้เงินไปไม่มาก แต่สร้างความสะเทือนขวัญแก่ประชาชน ฝากขอร้องให้ร้านสะดวกซื้อทุกแห่งให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งในร้านและหน้าร้านค้า เพื่อประโยชน์ในการติดตามจับกุมคนร้าย